พอฟังคำพูดของเจ้าของนิวาสสถาน อีกสองคนสีหน้าหวั่นไหว “อ้อ?”
“พวกท่านลืมแล้ว หลังจากยุคสถาปนาเทพเจ้า ผู้ยิ่งใหญ่สายเหนือพิสุทธิ์จำนวนมาก ความจริงต่างมีคำตำหนิต่อเจ้าแม่อู๋ตัง” เจ้าของนิวาสสถานกล่าวเตือน
“เพียงแต่ว่าวันนี้สำนักเต๋าเสื่อมโทรม สายสืบทอดของเจ้าแม่อู๋ตังจึงกลายเป็นสายเหนือพิสุทธิ์สายหลัก ทว่าผู้มีความสัมพันธ์ทางญาติกับสายเหนือพิสุทธิ์ในฝ่ายเรา ยังคงไม่ชื่นชอบเจ้าแม่อู๋ตัง”
อีกสองคนพอได้ยิน สีหน้าเผยแววกระจ่างแจ้ง
“นอกจากนั้น หลายปีมานี้สหายร่วมเส้นทางกวางขาวก็จับจ้องทางนั้นมาโดยตลอด” เจ้าของนิวาสานว่าต่อ “มหาเทวะสยบฟ้าไม่มีทางออกหน้าให้เขา แต่ถ้าเขาเกลี้ยกล่อมให้มหาเทวะสยบฟ้าเกิดความสนใจต่อตำหนักโอสถวังเทพได้ เรื่องนั้นไม่แน่ว่าอาจมีผลลัพธ์อีกอย่างหรอกหรือ?”
ฟังว่าเบาะแสในตอนแรกสุดของตำหนักโอสถเป็นกวางขาวตนนั้นหาเจอ? น่าเสียดายเขาคิดฮุบไว้คนเดียว ความสามารถไม่พอ ผลลัพธ์ถูกคนอื่นเอาเปรียบ” นักพรตพยักหน้าติดต่อกัน “แต่ว่าครั้งนี้ถ้าหากเขาพูดให้มหาเทวะสยบฟ้าหวั่นไหวได้จริงๆ ย่อมประเสริฐที่สุด”
สำหรับนักพรต สามารถแบ่งปันผลประโยชน์ของตำหนักโอสถได้ย่อมดีที่สุด
ต่อให้ไม่ได้ เมื่อต้องการล่อให้เยี่ยนจ้าวเกอกับตำหนักโอสถปรากฏขึ้นมา ต้องเล่นงานมรกตท่องฟ้าก่อน ถึงอย่างไรเขาก็ได้ระบายความโกรธ ไม่ถึงกับไปเสียเที่ยว
สตรีนางนั้นคิดไปมากมายในชั่วพริบตา
มีมหาเทวะเผ่าปีศาจจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จับจ้องตำหนักโอสถ ต่อให้ได้รับตำหนักโอสถในตอนสุดท้าย ก็ไม่ได้มีโอกาสมากนัก ผลประโยชน์ส่วนใหญ่ตกไปอยู่ในมือของมหาเทวะเหล่านั้น
แต่ในเมื่อต้องการให้จอมปีศาจเช่นมหาเทวะเก้าเศียรรับแรงกดดันของเทวกษัตริย์สำนักเต๋าเช่นเจ้าแม่อู๋ตัง นี่เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่อย่างนั้นอาศัยเพียงพวกตน ใช่ว่าจะทำสำเร็จ อย่างน้อยก็มีความเสี่ยง
ปีศาจกวางขาวหมายฮุบสมบัติเพียงคนเดียว สุดท้ายเตะใส่แผ่นเหล้ก ถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด
เมื่อมีตัวอย่างให้เห็น ย่อมต้องคิดก่อนว่าจะเก็บสมบัติของตัวเองให้ปลอดภัยได้อย่างไร จากนั้นจึงมาแบ่งสรรปันส่วนกัน
นางจะได้ประโยชน์เท่าไร ยากจะบอกได้จริงๆ
แต่ว่านางไม่ได้โลภมาก เป้าหมายเป็นแค่ยาวิญญาณไม่กี่ชุดที่ถูกเก็บอยู่ในตำหนักโอสถเท่านั้น ถ้าหากว่าตำหนักโอสถตกอยู่ในมือของเผ่าปีศาจจริงๆ คิดจะนำมาย่อมไม่ลำบาก
ยาวิญญาณไม่กี่ชุดนี้มีความสำคัญสำหรับนางยิ่ง ไม่อาจหาจากที่อื่น มีคุณค่าให้พยายาม
ถึงอย่างไรฟ้าเมื่อถล่มลงมา ก็มีมหาเทวะเก้าเศียรดันเอาไว้
ภัยพิบัติฟ้าถล่มสำหรับนาง สำหรับมหาเทวะเผ่าปีศาจไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้น้องไม่มีปัญหาแล้ว” นางกล่าว “ครั้งกระโน้นผู้น้องเคยพูดว่าต้องการยาวิญญาณสองสามชุดในตำหนักฟ้าฟื้น คิดไม่ถึงว่าพี่ร่วมเส้นทางยังจำได้ตลอด ครั้งนี้ยังดูแลผู้น้อง รู้สึกตื้นตันจริงๆ”
เจ้าของนิวาสสถานกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นางเซียนกล่าววาใจใด ทุกคนดูแลซึ่งกันและกันต่างหาก”
เขากล่าวอย่างรำพึงรำพัน “พวกเราลำบากมาหลายปี ปัจจุบันในที่สุดก็ได้ออกมา ยังคงต้องระมัดระวัง ดำเนินการทีละก้าวๆ”
“ตำหนักโอสถของวังเทพในอดีตเป็นสมบัติล้ำค่าขนาดใหญ่ พวกเราย่อมต้องหาวิธีวางแผน สหายร่วมเส้นทางกวางขาวเกิดความโลภ เป็นเหตุให้ประสบความล้มเหลว ต้องดูไว้เป็นตัวอย่าง”
เจ้าของนิวาสสถานาทางหนึ่งเอ่ย ทางหนึ่งยืนขึ้น “เรื่องราวไม่อาจชักช้า ราตรียาวนานความฝันมากมาย พวกเราไปพบมหาเทวะเก้าเศียรเถอะ”
ทั้งสามออกจากนิวาสสถาน รับลูกศิษย์ในสำนักที่รอฟังคำสั่ง จากนั้นก็บินออกจากโลกใบนี้
หลังจากที่บินออกจากเขาดาราทะเลดวงดาวไม่ทราบนานขนาดไหน ตรงหน้าพวกเขาปรากฏโลกอีกใบหนึ่ง
หลังจากข้ามผ่านปราการเขตแดนของมิติเวลา เข้าไปในโลกใบนั้นแล้ว ตรงหน้าพวกเขาก็เป็นทะเลมรกตที่กว้างใหญ่ไพศาล
คลื่นทะเลกระพื่อมขึ้นลง ปราณปีศาจที่บ้าคลั่งกระจายไปทั่ว
สามคนเข้าไปในก้นทะเล ครู่หนึ่งค่อยออกจากทะเล แล้วมุ่งไปยังที่ไกล
การเดินทางครั้งนี้เป็นระยะทางอันยาวไกล ออกจากเขาดาราทะเลดวงดาว เข้าไปในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน
เคลื่อนไหวอยู่ในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน ข้ามผ่านร่องแยกใต้จีบมิติเวลาสายแล้วสายเล่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี