ขณะมองรอยร้าวที่เกิดจากการถูกฟันบนตะขอในมือตนเอง มหาเซียนหรูอี้สูดลมหายใจเย็นเยียบเฮือกหนึ่ง
เมื่อครู่อาวุธของสองฝ่ายปะทะกัน เขาจึงรู้สึกได้ว่าเฟิงอวิ๋นเซิงจงใจควบคุมพลังของตัวเอง
แค่การปะทะกันครั้งนี้ มหาเซียนหรูอี้ก็รู้สึกตื่นตระหนกแล้ว ‘แค่ติดกลิ่นอายของมารสวรรค์ปัจฉิมธรรม ถึงกับน่ากลัวปานนี้แล้ว?’
พอคิดถึงเรื่องนี้ เขาชักตะขอกลับ ไม่ได้พุ่งไปหาตำหนักโอสถอีก แต่พุ่งไปยังลำแสงหลายสายที่เชื่อมต่อตำหนักโอสถกับมรกตท่องฟ้า
ถึงเป้าหมายจะมีแต่ตำหนักโอสถ แต่ถ้าทำลายลำแสงนี้ ทำให้มรกตท่องฟ้าอยู่ในจักรวาลสำนักเต๋าต่อได้ ตำหนักโอสถอาจจะถอยไปเอง ทว่ามหาเซียนหรูอี้เชื่อว่า พวกเยี่ยนจ้าวเกอไม่มีทางรามือเท่านี้
ครั้งนี้หากพลาดโอกาสไป ครั้งหน้าทุกฝ่ายทราบว่าพวกเขาหมายจะเอามรกตท่องฟ้าไปด้วย จึงเตรียมการซุ่มจู่โจม เช่นนั้นก็กลายเป็นการเฝ้าต้นไม้รอกระต่ายของจริง โอกาสที่เยี่ยนจ้าวเกอจะทำสำเร็จ จะเหลือน้อยสุดเปรียบปาน
ในเมื่อลงมือแล้ว จำเป็นต้องให้รู้ผลในวันนี้
ถึงแม้ร่างเดิมของมหาเซียนหรูอี้จะเป็นกระทิง แต่เขากลับปราดเปรียวเหนือธรรมดา ทะยานร่างมาถึงใกล้ๆ พวกราชามังกรหวนเฉิน หนึ่งตะขอกระจายไปทั่ว เกี่ยวทำลายลำแสงสายหนึ่งก่อน
ทว่าเฟิงอวิ่นเซิงเอียงชี้ดาบดำขลับในมือ ติดตามมาทันที
‘ตัวไร้ประโยชน์’ จ้าวปีศาจร้อยตาลอบด่าทอในใจ พุ่งเข้าหาเฟิงอวิ่นเซิง จากนั้นกางสองแขน แสงสีทองกับหมอกสีเหลือใต้สีข้างพรั่งพรูออกมาพร้อมกัน แล้วครอบคลุมเข้าใส่เฟิงอวิ๋นเซิง
เกาชิงเสวียนที่หลบเลี่ยงหมอกแสงก่อนหน้าเห็นดังนั้น ก็หมุนท่าร่าง โจมตีใส่พวกมหาเซียนหรูอี้และราชามังกรหวนเฉิน
“ล้วนอย่าคิดไป” ในเสียงหัวเราะเย็นชาของจ้าวปีศาจร้อยตา หมอกแสงนั้นแผ่พุ่งมา ครอบคลุมจักรวาลสำนักเต๋าบริเวณหนึ่ง
บริเวณที่หมอกแสงไปถึง มิติเวลาเหมือนกับต่างถูกผนึกไว้
หมอกแสงสีเหลืองหนาแน่นม้วนลอยไปทั่ว กลืนกินเฟิงอวิ๋นเซิงกับเกาชิงเสวียน
เฟิงอวิ๋นเซิงเห็นดังนั้นสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ใช้มือซ้ายกำด้ามดาบเทพอาทิตย์ยะเยือก
นางถือดาบด้วยสองมือ จากนั้นก็ชูขึ้นเหนือศีรษะ
“ฮ่าห์!” เฟิงอวิ๋นเซิงเปล่งเสียงที่ความหมายไม่ชัดเจนคำหนึ่ง
คมดาบที่ชูสูงฟันลงด้านล่าง ประกายดาบกระจัดกระจาย สรรพวัตถุมลาย มุ่งสู่ความสิ้นสูญที่จุดจบ
หมอกแสงสีเหลืองหนาแน่นนั้นเผชิญกับประกายดาบสีดำอันดุร้าย วินาทีนี้หายไปอย่างต่อเนื่อง
จ้าวปีศาจร้อยตาถลึงตา หมอกแสงสีเหลืองเข้มใต้สีข้างพรั่งพรูไม่หยุด เติมเต็มต่อเนื่องไม่ขาดสาย ยื้อยันกับเฟิงอวิ๋นเซิง
เพียงแต่เมื่อเป็นแบบนี้ ขณะนี้หมอกแสงที่ครอบฟ้าคลุมดินวนตอนแรกพลันไม่อาจแผ่ม้วนออกไปต่อ
เกาชิงเสวียนไม่กล่าวมากความ ร่างจริงกับร่างแยกแยกเป็นซ้ายขวา จู่โจมใส่มหาเซียนหรูอี้กับราชามังกรหวนเฉิน!
ราชามังกรได้เห็นภาพที่เกาชิงเสวียนสู้กับจ้าวปีศาจร้อยตา จึงไม่กล้าชักช้า หมุนกายไปรับมือกับเกาชิงเสวียนที่ไม่ทราบว่าเป็นร่างจริงหรือร่างปลอม
อีกฝ่ายใช้สี่กระบี่ล้ำค่าอันเป็นการสืบทอดกระแสตรงสายเหนือพิสุทธิ์ วิชากระบี่เหี้ยมหาญ เข่นฆ่าจนราชามังกรหวนเชิงรับมือไม่ทัน เหงื่ออาบเต็มหลัง
อีกด้านหนึ่ง มหาเซียนหรูอี้ที่สองบุปผารวมบนกระหม่อมต้องรับมือกับเกาชิงเสวียนอีกคน ผ่อนคลายมากกว่า
แต่ยามรับมือกับมหาเซียนหรูอี้ เกาชิงเซียนไม่ได้หักหาญเหมือนตอนสู้กับจ้าวปีศาจร้อยตาเมื่อครู่แล้ว
นางไม่ได้ใช้วิชากระบี่ทั้งหมด เพียงใช้คัมภีร์กระบี่ลวงเซียนอย่างเดียว
เห็นแสงสีแดงบัดเดี๋ยวสูญหายบัดเดี๋ยวปรากฏในความว่างเปล่า เปลี่ยนแปลงยากหยั่งคาด แม้เป็นมหาเซียนหรูอี้ที่มีฝีมือปราดเปรียว ในระยะเวลอันสั้นยังยากจะตรวจจับร่องรอยของอีกฝ่าย
‘ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงวิชากระบี่แต่ละชนิดได้ดั่งใจ หลังจากเปลี่ยนมาใช้วิชากระบี่ชนิดเดียว ยิ่งลึกล้ำจนบรรลุถึงแก่นแท้ด้านใน อัศจรรย์ล้ำเลิศนัก!’ มหาเซียนหรูอี้ปวดศีรษะเล็กน้อย ‘สายสืบทอดของเจ้าแม่อู๋ตัง ให้กำเนิดคนรุ่นหลังที่สุดยอดคนหนึ่ง’
เขามีการสั่งสมรากฐานเต็มเปี่ยมยิ่งกว่าเกาชิงเสวียนในตอนนี้ จึงได้เปรียบมากกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี