แค่สู้กับเกาชิงเสวียนคนเดียว ก็ทำให้ราชามังกรหวนเฉินเหน็ดเหนื่อยแทบขาดใจแล้ว
ตอนนี้เห็นเกาชิงเสวียนสองคนเข่นฆ่าเข้ามาพร้อมกัน ราชามังกรหวนเฉินไร้หนทาง ได้แต่หมุนกายหนีไป
เขาอ้าปาก พ่นทะเลสีดำกว้างใหญ่ออกมาอีกครั้ง ก่อนจะพุ่งเข้าไป อาศัยสายน้ำหลบหนี
ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ กระบี่ที่มีสภาวะเทียมฟ้าของเกาชิงเสวียนยังคงฟันแยกทะเลสีดำอย่างหักโหม สร้างความบาดเจ็บแก่เขา
หากไม่ใช่เพราะราชามังกรไม่ได้ถอยหนีโดยไม่ลังเล หลังจากรับกระบี่นี้ไป แม้ไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัส
เกาชิงเสวียนใช้หนึ่งกระบี่ได้เปรียบ ไม่ได้ไล่ตามโจมตีต่อ แต่ว่าหมุนกายไปช่วยเฟิงอวิ๋นเซิงสู้กับจ้าวปีศาจร้อยตาที่แกร่งที่สุดในพวกมารปีศาจในที่แห่งนี้
จ้าวปีศาจร้อยตาสมกับมีพลังแข็งแกร่ง ตอนนี้ดวงตานับพันใต้สีข้างพ่นแสงสีทองหมอกสีเหลืองออกมาไม่หยุด ถึงกับไม่เห็นสภาวะเสื่อมถอย คล้ายกับไม่มีที่สิ้นสุด
ความสามารถที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดนี้ ยามสู้กับคน ยังมีผลเหนือกว่าวรยุทธ์ทั้งหมดของเขา
กระนั้นขณะนี้จ้าวปีศาจร้อยตาก็กำลังโอดครวญอยู่
ดาบสิ้นธรรมของเฟิงอวิ๋นเซิง ชั่วร้ายยิ่งกว่า แปลกประหลาดยิ่งกว่า ร้ายกาจยิ่งกว่าความสามารถแต่กำเนิดของเขา!
ถึงจ้าวปีศาจร้อยตาจะยังคงต้านไว้ได้ ใช้ความสามารถ ปล่อยแสงสีทองหมอกสีเหลืองออกมาอย่างต่อเนื่อง
แต่ว่าพร้อมกับที่เฟิงอวิ๋นเซิงฟันลงดาบแล้วดาบเล่า แม้ว่าแสงสีทองจะสลายแล้วเกิดใหม่ เติมเต็มอย่างต่อเนื่อง สภาวะกับอาณาเขตไม่หดลง
ทว่าประสิทธิผลหน่วงเหนี่ยวมิติเวลา ทำร้ายจิตใจผู้คนของความสามารถนี้ถึบกับกำลังเดินลงบนทางลาด
จำนวนไม่ลด แต่ว่าคุณภาพกำลังลดลง!
นี่ยังสร้างความตื่นตระหนกและความปวดร้าวให้แก่จ้าวปีศาจร้อยตา ยิ่งกว่าถูกคนทำลายแสงสีทองเสียอีก
นั่นหมายความว่าความสามารถแต่กำเนิดของเขา ถึงกับถูกทำให้อ่อนแอลงตั้งแต่รากฐาน
ถึงจะไม่เร็ว แต่กลับไม่อาจเปลี่ยนกลับมาได้!
คมดาบที่ทำลามรรควิถี ส่งทุกสิ่งสู่ความตาย ทำลายล้างทุกอย่าง ทำให้จ้าวปีศาจร้อยตากริ่งเกรงเหลือประมาณ
สิ่งที่เขากริ่งเกรงยิ่งกว่าก็คือ เฟิงอวิ๋นเซิงตรงหน้า ความดุร้ายในตาสองข้างยิ่งมายิ่งเข้มข้น
พลังของนางถึงกับมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกขั้น
ถึงนั่นจะเปลี่ยนไปตามสภาพไม่มั่นคงที่เริ่มสูญเสียการควบคุม ทว่าต่อให้สูญเสียการควบคุม คนที่ต้องเผชิญกับคมดาบของนางเป็นคนแรกก็คือเขาจ้าวปีศาจร้อยตา
พอนึกถึงเรื่องนี้ ในดวงตาของจ้าวปีศาจร้อยตาพลันทอแววดุร้าย
เขากางสองแขน กระตุ้นแสงสีทองหมอกสีเหลืองไม่หยุด ขณะเดียวกันก็สะบัดดาบวิเศษในมือ โยนออกมา ก่อนจะกลายเป็นประกายกระบี่อันยิ่งใหญ่สายหนึ่งฟันลงใส่เฟิงอวิ๋นเซิง
การผนึกของแสงสีทองเริ่มหดตัวเพิ่มขึ้นอีกขั้น เล็งเป้าหมายที่เฟิงอวิ๋นเซิงคนเดียว ผ่อนคลายการควบคุมรอบๆ
เมื่อเป็นแบบนี้ ประกายดาบของเฟิงอวิ๋นเซิงก็ฟันใส่ควันเมฆ พุ่งเข้าหาจ้าวปีศาจร้อยตาเช่นกัน
จ้าวปีศาจร้อยตาไม่หลบ ถึงกับใช้โจมตีปะทะโจมตี ต้องการสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้แก่เฟิงอวิ๋นเซิง ไม่คิดถ่วงเวลาอีก
จอมปีศาจที่เคยอาละวาดในยุคบุพากาลผู้นี้ ตอนนี้ตัดสินใจเด็ดเดี่ยว ลงมืออย่างอำมหิตต่อทั้งศัตรูและทั้งตัวเอง เพื่อเอาชนะเฟิงอวิ๋นเซิงด้วยการโจมตีสุดกำลังเพียงครั้งเดียว
ถ้าหากว่าเฟิงอวิ๋นเซิงชักดาบไปป้องกัน เช่นนั้นก็ตรงใจเขา ทำให้เขาชิงเป็นฝ่ายบุกได้
เฟิงอวิ๋นเซิงสัมผัสได้ว่าสภาวะโจมตีของจ้าวปีศาจร้อยตาเปลี่ยนแปลง สีหน้าไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย ใช้โจมตีปะทะโจมตี หักหาญกับจ้าวปีศาจร้อยตาซึ่งหน้า
ประกายดาบตัดสลับ นางทำร้ายจ้าวปีศาจร้อยตาไปหนึ่งดาบ
ใต้สีข้างของจ้าวปีศาจร้อยตามีแสงสีทองเชื่อมต่อกัน ดาบนี้สุดท้ายฟันใส่ไหล่ของเขา ปราณสีดำกระจายไปทั่ว ควันมารสีดำอมน้ำเงินลุกไหม้ขึ้นมา ทำให้การโคจรแก่นปีศาจทั่วร่างของจ้าวปีศาจร้อยตาต่างยากจะดับได้
อีกด้านหนึ่ง เทพพารักษ์ที่เกิดจากการประสานวิญญาณของเยี่ยนจ้าวเกอกับตำหนักโอสถ ยังคงยืนอยู่เหนือตำหนักโอสถ ผลักฝ่ามือออกแต่ไกล
แสงสีทองผสมม่วงวาดผ่านความว่างเปล่าในจักรวาล พุ่งไปถึงด้านข้างเฟิงอวิ๋นเซิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี