เยี่ยนจ้าวเกอควบคุมตำหนักโอสถออกจากจักรวาลสำนักเต๋า ล่องลอยหายไปในมิติเวลาไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน
รอจนทุกอย่างสงบลง เวลานี้พวกเฟิงอวิ๋นเซิงกับเยว่เจิ้นเป่ยกลับมาอยู่ในหอเซียนม่วงแล้ว
ในหอ เตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับค่อยๆ ลอยลงด้านล่าง ตั้งอยู่บนพื้น
พวกเยี่ยนตี๋มีสีหน้าเคร่งขรึมขณะมองเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ และเยี่ยนจ้าวเกอที่ยังหลับตาคล้ายไร้ความรู้สึกอยู่ด้านใน
ตอนนี้พวกเขายังไม่กล้าผ่อนคลาย
เยี่ยนจ้าวเกอใช้วิญญาณของตัวเองแปลงเป็นวิญญาณตำหนักโอสถดวงใหม่ สร้างเทพารักษ์จอมทัพฟ้าฟื้นช่วยสรรพสัตว์ขึ้นมา เข้าสัปประยุทธ์กับเปล่าปีศาจ เล่นงานคู่ต่อสู้จนไม่ทันตั้งตัว
กระบวนท่านี้เหมือนทัพพิเศษรุกจู่โจม ทำให้เอาชนะเหล่ามารสำเร็จ ย้ายมรกตท่องฟ้าได้อย่างราบรื่น จากนั้นยังหลบหนีจากมาได้อย่างปลอดภัย ก่อนศัตรูจำนวนมากกว่าเดิมจะมาถึง
แต่เมื่อเป็นแบบนี้ แม้คนอื่นๆ ปลอดภัย สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอ กลับไม่ใช่เวลาผ่อนโล่งอก
การเปลี่ยนร่างตัวเองให้กลายเป็นวิญญาณตำหนัก เป็นแผนการชั่วคราว
สามารถเปลี่ยนกลับเป็นตัวเองดั้งเดิม จึงนับว่าทุกอย่างสำเร็จด้วยดี ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องเจอกับประสบการณ์เหมือนก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ใหม่
แสงสีทองหลายสายกับควันสีม่วงมากมายในเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับลอยอบอวลไม่หยุด ภายใต้การขับเน้น ร่างของเยี่ยนจ้าวเกอสั่นไหวเล็กน้อย
จากนั้นเห็นลวดลายแสงหลายสายโผล่ขึ้นในความว่างเปล่าเหนือเตาทองคำม่วงเมฆลี้ลับ ตวัดเป็นยันต์ค่ายกลอันลี้ลับ
ยันต์ค่ายกลครอบคลุม แสงสว่างรวมตัว จากนั้นก็สาดลงบนร่างของเยี่ยนจ้าวเกอ
ลำแสงยบิ่งใหญ่สาดลง เยี่ยนจ้าวเกออาบอยู่ในแสง ค่อยๆ ลืมตาขึ้น
“เร่ง!” ในเสียงตวาดเบาๆ เขาพ่นลงหายใจยาวๆ โดดออกจากเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ ยิ้มให้กับทุกคน “ภารกิจลุล่วงแล้ว”
คนอื่นๆ ต่างผ่อนลมหายใจ สบตากัน ยิ้มเบิกบาน
“เช่นนั้นข้าขอเริ่มขั้นต่อไป” เยี่ยนจ้าวเกอนั่งขัดสมาธิด้านข้างเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ จากนั้นก็ยื่นมือออกมากดบนตัวเตาวิเศษ
เตาวิเศษสั่นไหวเล็กน้อย ในหอเซียนม่วงเริ่มมีจุดแสงมากมายที่เล็กเหมือนกับข้าวโพดลอยขึ้นมา ดูคล้ายหิ่งห้อย
หิ่งห้อยยิ่งมายิ่งมาก สุดท้ายก็กระจายทั่วหอเซียนม่วง
“สั่ง!”
เสียงของเยี่ยนจ้าวเกอดังขึ้น กระจายไปทั่วจักรวาลภายในตำหนักโอสถ โดยมีหอเซียนม่วงเป็นจุดศูนย์กลาง สะท้อนไปทั่วทุกมุม และโลกทุกใบในจักรวาลแห่งนี้
มองจากด้านนอกตำหนักโอสถ ตำหนักวังเซียนที่เหมือนกับหยกขาวนั้น วินาทีนี้เค้าโครงเริ่มแปลเปลี่ยนเป็นพร่าพราย จากนั้นก็เริ่มขยายออกด้านนอกไม่หยุด
ขอบเขตของตำหนักโอสถขยายออกด้านนอกอย่างต่อเนื่อง การขวางกั้นของเขตแดนค่อยๆ กลายเป็นเลอะเลือน จักรวาลในตำหนักโอสถเหมือนกับพองออกอย่างฉับพลัน
เทียบกับจักรวาลภายในตำหนักดั้งเดิมแล้ว การพองออกนี้ทำให้ปรากฏบริเวณที่ว่างเปล่ามากมาย ล้วนมืดสนิท
พอได้รับการชักนำนี้ จักรวาลในตำหนักที่เดิมทีมั่นคงก็ปั่นป่วนขึ้นมา
โลกแต่ละใบที่บรรจุไว้ด้านในสูญเสียสมดุลอันเปราะบางที่รักษาไว้ก่อนหน้า เริ่มค่อยๆ กลายเป็นลำแสงหลายสาย หมุนวนไปยังทิศทางของหอเซียนม่วง
เวลานี้ ในหอเซียนม่วง เยี่ยนจ้าวเกอกดมือข้างหนึ่งบนเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ อีกมือหนึ่งรวบนิ้วทั้งห้า ตั้งฝ่ามือประดุจดาบ แล้วฟันใส่อากาศเบื้องหน้าครั้งหนึ่ง
ในจักรวาลตำหนักโอสถเหมือนปรากฏคมดามที่ไร้รูปร่าง
คมดาบที่คงอยู่ทุกที่ ไม่มีที่ใดไปไม่ถึง
สถานที่ทั้งหมดในจักรวาลตำหนักโอสถทั้งหมดล้วนออกห่างหอเซียนม่วง ตอนนี้ทุกๆ ที่ต่างเหมือนถูกคมดาบนี้เฉือนพร้อมกัน
คมดาบกระจายไปทั่ว ความมืดไร้สิ้นสุดถูกผ่าออก แสงสว่างละลานตาถึงขีดสุดบังเกิดจากภายใน!
ดิน น้ำ ลม ไฟที่สับสนติดตามแสงสว่าง พรั่งพรูออกมาไม่หยุด
มิติช่องว่างมากกว่าครึ่งในจักรวาลตำหนักโอสถ วินาทีนี้เหมือนกับน้ำที่เดือดพล่าน มิติเวลาที่ไม่มั่นคงหลายชั้นปรากฏขึ้น จากนั้นก็แหลกสลายติดต่อกันเหมือนกับฟองมากมาย จากนั้นก็มีฟองอากาศลอยขึ้นมามากว่าเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี