ภาค 14 ลมพัดพายุโหม
บทที่ 1409 มารดินโบ่ว
สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอและฟ้าเหนือฟ้า ปัญหาภายในที่ติดค้างอยู่มาโดยตลอด นอกจากเทวกษัตริย์ไร้ประมาณอาจจะชำระล้างพวกฟู่ถิง เมิ่งหวาน และเหอซีสิงข้ามมิติได้แล้ว ก็คือการคุกคามจากนพยมโลก
ไม่เพียงแต่กษัตริย์ดาราเฉินเสวียนจงกับฉู่หลีหลี่สองศิษย์อาจารย์ถูกมารน้ำกุ่ยพัวพันไว้เท่านั้น ยังมีปัญหาของสือจวินและอิ๋งอวี่เจินสองแม่ลูกในสำนักเขากว่างเฉินของตัวเองด้วย
ในอดีตมีความรู้จำกัด แต่พร้อมกับที่พลังฝึกปรือและขีดความสามารถของพวกเยี่ยนจ้าวเกอเพิ่มขึ้น รวมถึงได้สัมผัสกับยอดฝีมือระดับสูงยิ่งมายิ่งมาก ปัจจุบันนี้สถานการณ์ของสือจวินสองแม่ลูกเริ่มชัดเจนขึ้นแล้ว
โดยเฉพาะหลังจากเฟิงอวิ๋นเซิงกลับมา ก็ได้ยืนยันการคาดเดาของเยี่ยนจ้าวเกอและเฉินเสวียนจงมากขึ้นอีกขั้น
ตอนอยู่บนโลกแปดพิภพ แม้แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็นึกไม่ถึงว่ามารร้ายนพยมโลกที่มีความเกี่ยวข้องกับสือจวินและอิ๋งอวี่เจินสองแม่ลูกจะมีความเป็นมายิ่งใหญ่ขนาดนี้
ตอนแรกยังนึกว่าพวกเขาสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายใต้สถานการณ์ที่ต้องการหลีกเลี่ยงไม่ให้ร่วงหล่นเป็นมาร จำเป็นต้องรักษาตัวเป็นเวลานานจึงค่อยฟื้นขึ้นได้ กลับนึกไม่ถึงว่า พวกเขาจะเป็นร่างสถิตที่จอมมารใช้คืนชีพหลังจากดับสูญ
หนำซ้ำยังเป็นร่างสถิตที่เหมาะสมถึงขีดสุด
การเลือกคนเป็นร่างสถิตในการคืนชีพของจอมมาร ไม่เกี่ยวข้องกับพลังฝึกปรือขีดความสามารถหรือศักยภาพพรสวรรค์ แต่ตัดสินตรงที่มีความเหมาะสมในสายตาของจอมมารหรือไม่
สือจวินถูกจอมมารซึ่งก่อนจะดับสูญ เทียบได้กับระดับเซียนกำเนิดสุญญตาสำนักเต๋าตนหนึ่งหมายตา ส่วนมารดาของเขา หรือก็คืออิ๋งอวี่เจิน ภรรยาของสือซงเทาทำให้ผู้คนตกใจมากกว่า
จอมมารที่คิดใช้อิ๋งอวี่เจินเป็นร่างสถิตสำหรับเกิดใหม่ ถึงกับเป็นมารดินโบ่ว หนึ่งในสิบสองเทพมารสวรรค์ มารร้ายระดับสูงสุดซึ่งถูกจัดอยู่ในชั้นเดียวกับมารจิต มารไม้อิก และมารน้ำกุ่ย!
ก่อนดับสูญถือเป็นจอมมารที่เทียบได้กับระดับเซียนสวรรค์มหาชาลของสำนักเต๋า เป็นจอมมารที่สุดยอดที่สุดในนพยมโลก
มารเช่นนี้คิดอาศัยร่างของอิ๋งอวี่เจินเพื่อเกิดใหม่ ยังตึงมือยิ่งกว่ามารน้ำกุ่ยคิดอาศัยเฉินเสวียนจงเพื่อจุติใหม่เสียอีก
โชคดีที่ขีดความสามารถพลังฝึกปรือของเฉินเสวียนจงได้ผลักเปิดประตูเซียนมาหลายปี เป็นเซียนลี้ลับมานานแล้ว เพียงห่างจากระดับเซียนกำเนิดสุญญตาแค่ก้าวเดียว
ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ก็เหมือนเดินบนพื้นน้ำแข็งบางเฉียบอยู่ดี
ทว่าพลังฝึกปรือของอิ๋งอวี่เจินเมื่อเทียบกับเฉินเสวียนจง เทียบกับจอมมารอย่างมารน้ำกุ่ย และมารดินโบ่ว ยิ่งไม่ต้องนึกถึงแล้ว
ในระดับหนึ่ง เป็นเพราะว่าอิ๋งอวี่เจินได้รับบาดเจ็บสาหัสเกินไป อยู่ในห้วงความเป็นความตายจึงลากถ่วงมาได้ถึงทุกวันนี้
แต่พร้อมกับเวลาที่ผ่านไป วันเวลาที่มารดินโบ่วจะใช้นางเพื่อเกิดใหม่กลับมาก็เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ
“หลายปีมานี้ เกรงว่ามารดินโบ่วจะเตรียมตัวดีแล้ว สามารถระเบิดออกมาได้ตลอดเวลา” เฟิงอวิ๋นเซิงปั้นสีหน้าเคร่งขรึม
โดยพื้นฐานแล้ว นาง เฉินเสวียนจง บวกกับเยี่ยนจ้าวเกอนับได้ว่าเป็นคนที่คุ้นเคยกับนพยมโลกมากที่สุดบนฟ้าเหนือฟ้า
หลังจากทั้งสามคนคอยสังเกตอิ๋งอวี่เจินกับมารดินโบ่วครั้งแล้วครั้งเล่า ข้อสรุปที่ได้ออกมาเหมือนกันทุกส่วน
“มารดินโบ่วเข้าใจถึงสถานการณ์ของพี่สะใภ้อวี่เจินเป็นอย่างดี ทั้งยังสัมผัสสภาพแวดล้อมด้านนอกได้คร่าวๆ” เยี่ยนจ้าวเกอส่ายหน้า “การกลับมาเกิดใหม่เป็นเป้าหมายของมัน แต่มันต้องไม่อยากถูกคนกำจัดทิ้งทันทีหลังจากเกิดมาแน่”
ถึงอย่างไรอิ๋งอวี่เจินเดิมทีก็มีพลังฝึกปรือต่ำเกินไป ต่อให้มารดินโบ่วอาศัยร่างเกิดใหม่ ถูกมารกรอกศีรษะ พลังในตอนเริ่มต้นจะต้องอ่อนแอมาก
ต่อให้ระดับและพลังจะพุ่งกระฉูดในทันที แต่ก็จำเป็นต้องใช้เวลา ต่อให้เวลานี้จะสั้น แต่ก็ไม่ใช่วสามารถทำสำเร็จได้ในคราวเดียว ยังมีกระบวนการอยู่
ระหว่างนี้ถ้าหากไม่หาที่อยู่ให้เหมาะสม เช่นนั้นสภาพแวดล้อมของมารดินโบ่วจะต้องอันตรายมากอย่างไม่ต้องสงสัย อันตรายกว่ามารน้ำกุ่ยที่ใช้ฉู่หลีหลีหรือเฉินเสวียนจงเกิดใหม่มหาศาล
ดังนั้นมารดินโบ่วจำเป็นต้องคว้าโอกาส จึงค่อยสามารถบรรลุเป้าหมายในการสยบใต้หล้าอีกครั้ง ไม่ใช่เอาแค่อารมณ์พอใจคราวแต่ก็ตายในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี