ถึงสวีเฟยจะเป็นห่วงเรื่องของสือจวินกับอิ๋งอวี่เจิน แต่โดยเปลือกนอกเขาไม่แสดงให้เห็น ไม่ได้วางตัวเปิดเผยเหมือนเช่นวันวาน
สือจวินคำนับเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความยินดี
“ใช่แล้ว กลับมาแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างสะทกสะท้อน “พวกข้านำซากสังขารของจักรพรรดิเจิดจรัสกลับมาแล้ว”
สวีเฟยกับสือจวินแม้ไม่ทราบถึงการดำรงอยู่ของโถงเซียน แต่ย่อมเคยได้ยินชื่อของจักรพรรดิเจิดจรัสหูเยว่ซินมาก่อน
เยี่ยนจ้าวเกอก็เคยบอกเล่าเรื่องราวของหูเยว่ซินกับจักรพรรดิประกายกาฬอิ่นเทียนเซี่ยอย่างคลุมเครือ ดังนั้นสวีเฟยกับสือจวินสองศิษย์อาจารย์จึงกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ผู้อาวุโสเป็นแบบอย่าง วิญญาณได้กลับสู่บ้าน นี่เป็นเรื่องดี”
“สายสืบทอดของราชันพระพฤหัสบดีล้วนเข้มแข็งกล้าหาญ พวกเราคนรุ่นหลัง นอกจากทำเรื่องราวเล็กน้อยนี้แล้วก็ได้แต่มุมานะบากบั่น ไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง” เยี่ยนจ้าวเกอวางท่าผ่อนคลาย มองสือจวินพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หลายปีมานี้จวินเอ๋อร์มีพัฒนาการชัดเจน ครั้งนี้ข้านำของดีมาให้แก่เจ้า”
สือจวินถามอย่างสงสัย “ของดีหรือ”
เยี่ยนจ้าวเกอหยิบใยไหมที่ได้จากปีศาจกระเรียนออกมา “ของวิเศษชี้นี้จะช่วยแก้ไขภัยมารบนร่างของเจ้ากับพี่สะใภ้อวี่เจิน หลังจากแก้ไขปัญหาที่หยั่งลึกเหล่านี้ ต่อจากนี้เจ้าจะทะยานขึ้นฟ้า ไม่มีการขัดขวางอีก”
พอได้ยินคำพูดของเยี่ยนจ้าวเกอ สือจวินก็เอ่ยอย่างดีใจ “อาจารย์อาเยี่ยนอุตส่าห์อวยพร ศิษย์จะกล้าไม่ขยันได้อย่างไร แต่ว่าใยไหมนี้มีแค่เส้นเดียว ถ้าหากว่าจำนวนมีจำกัด ควรจะดูแลทางมารดาข้าก่อน”
เขากล่าวอย่างรู้สึกผิดอยู่บ้าง “ข้ารู้ว่าอาจารย์อาเยี่ยนท่าน อาจารย์อาเจ้าสำนัก ยังมีอาจารย์ของข้าสมควรมีความคิดอยู่แล้ว ข้าไม่จำเป็นต้องสอดปาก แต่ว่าในใจก็มีความกังวลมาโดยตลอด”
เยี่ยนจ้าวเกอกับสวีเฟยต่างหัวเราะ เยี่ยนจ้าวเกอส่ายหน้า “วางใจเถอะ นี่ไม่ได้ใช้ได้กับแค่คนคนเดียว พวกเจ้าสองแม่ลูก ไปจนตลอดพวกกษัตริย์ดารา ต่างดูแลได้ทั่วถึง”
“อ้อ เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี” สือจวินได้ยินพลันหัวเราะขึ้น
เยี่ยนจ้าวเกอเข้าไปในห้องพร้อมกับพวกเขาสองคน มาถึงโถงหลัง
ที่นั่นมีโลงศพน้ำแข็งวางอยู่โลงหนึ่ง สตรีนางหนึ่งหลับตาพริ้มราวกับหลับใหลอยู่ในโลงศพ เป็นอิ๋งอวี่เจิน มารดาของสือจวิน
เยี่ยนจ้าวเกอดีดนิ้วเบาๆ มีแสงสว่างวาบขึ้นมา ปลดผนึกค่ายกลที่สลักไว้บนโลงศพน้ำแข็งออก
ถึงแม้ว่ามารดินโบ่วจะต้องระวัง ไม่มีทางเคลื่อนไหวง่ายๆ ทว่าการเตรียมการส่วนหนึ่งที่ควรกระทำยังเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้
หลังจากปลดผนึกค่ายกล เยี่ยนจ้าวเกอก็เปิดโรงศพน้ำแข็ง ยื่นมือข้างหนึ่งออกไปวางอยู่บนหน้าผากของอิ๋งอวี่เจิน
พร้อมกับที่เยี่ยนจ้าวเกอเคลื่อนปราณเซียน พลันมีตราอาคมชิ้นหนึ่งลอยขึ้นเหนือหน้าผากของอิ๋งอวี่เจิน
หลังจากตราอาคมนี้ปรากฏขึ้นมา เยี่ยนจ้าวเกอพลันรู้สึกได้ว่าเหมือนมีดวงตาคู่หนึ่งกำลังมองเขาอยู่ในความว่างเปล่า ความรู้สึกนี้ปรากฏแวบเดียวแล้วหายไปในชั่วพริบตา ทำให้คนอดสงสัยไม่ได้ว่าความรู้สึกเมื่อครู่เป็นความรู้สึกคิดไปเอง
เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง เขี่ยปลายนิ้วใส่ใยไหม เมื่อใยไหมขาดออกมาส่วนหนึ่งแล้วก็เหมือนถูกลมพัด คลุมลงบนตราอาคมบนหน้าผากของอิ๋งอวี่เจินอย่างแม่นยำ
จากนั้นเยี่ยนจ้าวเกอก็เก็บใยไหม ตวัดนิ้วในอากาศ เขียนตราอาคมหลายสาย จากนั้นก็ลอยลงตามลำลับ หล่นลงบนผิวหน้าผากของอิ๋งอวี่เจิน
ครู่ต่อมา ค่ายกลอาคมที่ขนาดกะทัดรัดเป็นมันวาวทว่าซับซ้อนก็หลอมรวมเข้าไปด้านใน
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จ เยี่ยนจ้าวเกอชักมือกลับมาประกบกัน ใช้ตราผนึกอีกครั้ง
สตรีในโลงศพน้ำแข็งไม่เคลื่อนไหว ไม่มีความรู้สึกใดๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เหมือนกำลังหลับลึก
“พวกเราไปเถอะ” เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า คนทั้งสามเดินออกมาพร้อมกัน จากนั้นเยี่ยนจ้าวเกอหันไปมองสือจวิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี