“จะเป็นเวลาไหนนั้น ตอนนี้ข้าก็ไม่แน่ใจ ถึงทำให้คนอึดอัดอยู่บ้าง แต่อีกฝ่ายได้เปรียบไปครึ่งส่วนจริงๆ” เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจัง “แต่ก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นข้า อวิ๋นเซิง หรือกษัตริย์ดาราต่างก็มีความเห็นเดียวกัน”
สวีเฟยพยักหน้าเงียบๆ ปลดถุงหนังใบหนึ่งจากเอว ดึงฝาเปิดออก ในถุงมีกลิ่นสุราลอยมา เขาเงยหน้าดื่มหลายอึก จากนั้นก็ส่งให้เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ด้านข้าง
เยี่ยนจ้าวเกอรับไว้อย่างเคยชิน ดื่มไปอึกหนึ่งแล้วส่งคืนให้สวีเฟย
สวีเฟยรับถุงสุรากลับมา แล้วดื่มสุราที่เหลือจนหมด ก่อนจะระบายลมหายใจออกยาวๆ
ความอึดอัดบนใบหน้าในตอนแรกหายไป เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้มสง่างาม “ก่อนหน้าอีกฝ่ายมีทั้งมีดและเขียง ส่วนเราเป็นแค่เนื้อปลา ถึงตอนนี้อีกฝ่ายนำไปแค่ครึ่งส่วน ทว่าเราไล่ตามมาได้มากแล้ว ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส”
“โอกาสในครั้งนี้มีครึ่งต่อครึ่ง แต่อีกฝ่ายยึดครองโอกาสลงมือก่อน พวกเราจำเป็นต้องรอพวกมันเผยช่องโหว่” เยี่ยนจ้าวเกอเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ค่อยๆ ผ่อนฝีเท้าลง สุดท้ายหยุดนิ่งยืนอยู่กับที่ ครุ่นคิดครู่หนึ่งค่อยกล่าว “ความจริงใช่ว่าพวกเราไม่อาจจู่โจมได้ก่อน…”
สวีเฟยหยุดเดินเช่นกัน หันไปทางเยี่ยนจ้าวเกอ “จำเป็นต้องหาผู้อาวุโสฉู่ ศิษย์ของกษัตริย์ดาราให้เจอก่อนกระมัง”
“อืม ถูกต้อง” เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “ที่ตามหลังครึ่งก้าว เป็นเพราะตรงนี้เอง ถ้าหากว่าเราเจอที่อยู่ของผู้อาวุโสฉู่ก่อนที่อีกฝ่ายจะเคลื่อนไหว เราจะสามารถชิงครึ่งก้าวสุดท้ายกลับมาได้”
เยี่ยนจ้าวเกอปรบมือถอนใจ
“ผู้อาวุโสฉู่จะตกไปอยู่ในมือของนพยมโลกหรือไม่ สาเหตุที่มารน้ำกุ่ยไม่มีการเคลื่อนไหวมาโดยตลอด ด้านหนึ่งเป็นเพราะมันต้องการให้กษัตริย์ดาราเป็นร่างสถิต ด้านหนึ่งเพื่อรอให้ทางมารดินโบ่วเตรียมตัวให้แล้วเสร็จหรือ” สวีเฟยถาม
เยี่ยนจ้าวเกอตอบอย่างแช่มช้า “มีความเป็นไปได้”
เยี่ยนตี๋กับเฉินเสวียนจงออกไปด้านนอกพร้อมกัน ถึงจะยังไม่กลับมา แต่ก็ไม่เคยขาดการคิดต่อโดยสมบูรณ์
แน่นอนว่าเพื่อปกปิดตำแหน่งของจักรวาลฟ้าฟื้น ถึงแม้จะเป็นการติดต่อ แต่ก็รวบรัดคลุมเคลือถึงขีดสุด
ตอนนี้พวกเขากำลังพยายามตามหาฉู่หลีหลีกับเจี่ยหมิงคงอยู่ ตอนนี้ยังไม่มีข่าวดีส่งมา แต่สิ่งที่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงก็คือไม่ใช่ไม่มีผลลัพธ์อะไรเลย นี่ทำให้จิตใจของผู้คนอดฮึกเหิมไม่ได้
ทว่าในขณะเดียวกัน การส่งข่าวในตอนที่การตัดสินบุญคุณความแค้นเป็นครั้งสุดท้ายของสองฝ่ายอยู่ใกล้ตรงหน้า ก็ทำให้ผู้คนแอบระวังตัว ป้องกันการหลอกลวง ไม่ให้ติดกับอีกฝ่าย
“อีกฝ่ายกำลังวางแผนเพิ่มความได้เปรียบ คิดโจมตีให้สำเร็จในทีเดียว” เยี่ยนจ้าวเกอแค่นหัวเราะ
ภัยพิบัติครั้งนี้ แม้พวกเยี่ยนจ้าวเกอจะชิงโอกาสลงมือได้ก่อน แต่สุดท้ายแล้วใครจะแพ้ใครจะชนะ มีความเป็นไปได้ห้าสิบห้าสิบ
กระนั้น ไม่ว่าจะเป็นเยี่ยนจ้าวเกอหรือสวีเฟยล้วนเป็นคนกล้าหาญ ถึงจะยังรู้สึกกังวล แต่มีใจสู้มากกว่า
“เหมือนกับที่อาจารย์ปู่เคยสั่งสอน กระทำเรื่องราวใดล้วนแล้วแต่ลิขิตฟ้า ไม่ว่าทำเรื่องใดสุดท้ายก็อยู่ที่ลิขิตฟ้า” สวีเฟยดวงตาวาวโรจน์
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หลังจากมุมานะบากบั่นอย่างเต็มที่ จึงค่อยเผชิญกับลิขิตฟ้าด้วยความเยือกเย็นได้ พวกเรามาพยายามต่อสู้กับจอมมารที่อยู่มาเป็นหมื่นปีในนพยมโลกเหล่านั้นกันก่อน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี