ประกายดาบเย็นเยียบ ไม่มีสิ่งใดต้านทานได้
ผู้ออกดาบคือเยี่ยนตี๋
พลังฝึกปรืออยู่ในระดับเซียนลี้ลับสงบนิ่งเหมือนกัน เหล่ามารยามอยู่ต่อหน้าประกายดาบที่ยิ่งใหญ่เกรี้ยวกราดนั้น แทบไม่มีตนใดต้านรับได้
ประกายดาบพุ่งผ่าน เหล่ามารถอยหนี
กล้าไม่หลบหลีก หากไม่ตายก็บาดเจ็บ!
เทียบกับเกาชิงเสวียนร่างจริงและร่างแยกที่รวมสองกระบี่ในระดับเดียวกัน เยี่ยนตี๋คนเดียวมีระดับความยิ่งใหญ่ด้านพลังไม่ด้อยกว่า
ทว่าเกาชิงเสวียนใช้สองกระบี่แสดงสภาพสภาวะใต้หล้าผันแปร ธรรมชาติเปลี่ยนแปลง ยังคงทำให้ผู้คนเห็นภาพกระบี่เปิดฟ้ากับกระบี่ทำลายโลกรวมกัน
สองอย่างพอผสาน จึงค่อยเป็นสภาวะของธรรมชาติที่ไร้สิ่งใดต้านทาน คู่ต่อสู้ยากจะป้องกัน
เยี่ยนตี๋ออกดาบได้อย่างคล่องแคล่วมากกว่า ทุกอย่างรวมเป็นหนึ่งกับธรรมชาติ
ดาบพอฟันลง ก็เป็นสัจธรรมความลี้ลับแห่งธรรมชาติ และการมุ่งไปด้านหน้าของสภาวะฟ้าดิน แสดงถึงหลักการที่ทั้งวิเศษและยิ่งใหญ่ของมหามรรคาไร้สิ้นสุดในโลกหล้า ถึงกับแสดงให้เห็นถึงภาพของจ้าวแห่งกฎเกณฑ์ เมื่อเปล่งวาจากฎเกิดตาม ทำให้ผู้คนมิกล้าไม่ทำตาม
พญามารสุขสันต์เห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เข้าไปปะทะ
จอมยุทธ์ที่ถนัดการโจมตีเช่นเยี่ยนตี๋ ยามเจอศัตรูที่สู้ตัวเองไม่ได้ มักจะได้ผลลัพธ์อันเกรี้ยวกราดเช่นการตัดสินอย่างรวดเร็ว กวาดทำลายทุกอย่าง
ถึงแม้ในทางตรงกันข้าม ยามเผชิญกับคู่ต่อสู้ที่พลังด้อยกว่าแต่ถนัดการโจมตีเช่นกัน วิธีการต่อสู้แบบนี้ของเยี่ยนตี๋หากไม่ระวังแม้แต่นิดเดียว อาจถูกอีกฝ่ายใช้อ่อนแอเอาชนะแข็งแกร่งได้
ทว่าพอสังเกตเมฆแปลงกำเนิดที่เดี๋ยวสูญหายเดี๋ยวปรากฏบนศีรษะของเยี่ยนตี๋อย่างละเอียด พญามารสุขสันต์ก็ทราบว่าต่อให้จอมมารระดับเซียนลี้ลับที่อยู่ที่นี่จะพยายามหาโอกาสอย่างไร ก็ไม่มีปัญหาทำให้เยี่ยนตี๋เรือคว่ำได้
หากให้เวลาเยี่ยนตี๋ เขาคนเดียวสามารถกวาดล้างมารซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับสุญญตาที่อยู่ที่นี่ได้ทั้งหมด
พญามารสุขสันต์ถอนใจคำหนึ่ง สืบเท้าออก มาถึงใกล้ๆ เยี่ยนตี๋
เยี่ยนตี๋สีหน้าไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย ฟันหนึ่งดาบใส่พญามารสุขสันต์
แต่ว่ามารตนนี้เป็นผู้ผ่านมาร้อยสมรภูมิเช่นกัน ร่างที่เดิมทีแหวกมิติเข้าใกล้เยี่ยนตี๋ด้วยความเร็วสูงพลันถลันไปด้านหลัง
มิติที่ร่างของมันตัดผ่าน ต่างบิดเบี้ยว เกิดเป็นร่องรอยทับซ้อนที่เหมือนกับบาดแผลสายหนึ่ง
แต่ว่าขณะที่พญามารสุขสันต์หลบดาบนี้ของเยี่ยนตี๋ ร่องแยกมิติที่บิดเบี้ยวนี้ก็ถูกมันใช้ประโยชน์ ช่วยให้มันป้องกันคมดาบของเยี่ยนตี๋ได้
ในพริบตานี้เอง พญามารสุขสันต์รีบหยุดท่าร่างที่ถอยอยู่ของตัวเอง แล้วเคลื่อนที่ไปด้านหน้าอีกครั้ง!
ภายใต้ระยะหว่างขนาดนี้ มันพอไปด้านหน้าซ้ำอีกรอบ ก็บรรลุถึงตรงหน้าเยี่ยนตี๋ในชั่วพริบตา
เยี่ยนตี๋สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง คมดาบกระจัดกระจาย บดขยี้ร่องแยกมิติสายนั้นเป็นผุยผง ประกายดาบอันน่ากลัววกเลี้ยวกลางอากาศ ฟันใส่พญามารสุขสันต์อีกรอบ
พญามารสุขสันต์ไม่หลบหลีก แก่นมารเต็มเปี่ยม วนเวียนรอบผิว ต้านดาบของเยี่ยนตี๋!
เมื่อเลื่อนสู่ชั้นสุญญตา ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด วายุเซียนยากทำร้าย
พญามารสุขสันต์อาศัยระดับกดดัน ข่มระดับเซียนลี้ลับของเยี่ยนตี๋ที่ทำลายห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิดของมันไม่ได้
มันยื่นนิ้วชี้ออกมา เลื่อนเข้าหาหว่างคิ้วของเยี่ยนตี๋ ปลายนิ้วเป็นสีแดงชาด ทั้งสว่างและขมุกขมัว ราวแสงราวหมอก คล้ายจริงคล้ายมายา
ดัชนีสุขสันต์ของมัน อย่าว่าแต่คู่ต่อสู้ถูกแตะโดน ต่อให้แค่มองแสงสีแดงที่ปลายนิ้ว จิตใจจะล่องลอย สับสนงุนงง
ความแข็งแกร่งอ่อนแอของพลังฝึกปรือเหมือนกับไร้ความสำคัญ วิญญาณเลอะเลือน คล้ายกับถูกนิ้วของพญามารสุขสันต์ดึงออกมา
โลกนั้นทุกข์ยาก มนุษย์มักมีความปรารถนาไร้สิ้นสุด
แสงสีแดงจุดนั้นราวกับไฟตะเกียงที่ชี้นำคนให้แสวงหาความสุข และเปลี่ยนฝันหวานให้กลายเป็นความจริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี