มหาเทวะเก้าเศียรคิดเข้าใกล้
เฟิงอวิ๋นเซิงกับจอมมารที่ก่อนหน้านี้สู้อย่างดุเดือด ตอนนี้ผนึกกำลังขัดขวางเส้นทางของเขาไว้
เผ่าปีศาจตนอื่นๆ โจมตีใส่พิธีผสมฟ้าขับไล่มารต่อเช่นกัน
ตอนนี้มารน้ำกุ่ยแปลงร่างเป็นมารน้ำแข็ง ดูเหมือนคืนชีพเกิดใหม่สำเร็จ แต่เฉินเสวียนจงร่างสถิตที่มันอาศัยร่างสำหรับคืนชีพยังเป็นเซียนลี้ลับ
ดังนั้นมารน้ำกุ่ยในตอนนี้จึงไม่ใช่ผู้โดดเด่นในหมู่เทพมารระดับมหาชาล หรือหนึ่งในสิบสองเทพมารสวรรค์ผู้สยบโลกหล้า
ถึงจะเป็นเพราะว่าเฉินเสวียนจงอยู่ในชั้นสูงสุดของระดับเซียนลี้ลับ ตอนนี้พอกลายเป็นมารก็สามารถทำให้ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิดในทันที
กระนั้นสำหรับเหล่าปีศาจแล้ว ยังคงอยู่ในขอบเขตที่พอกัดฟันทนได้
โดยเฉพาะยังได้รับการขัดขวางจากพิธีผสมฟ้าขับไล่มารที่กลับมาทำงานอีกครั้ง ขณะนี้มารน้ำแข็งไม่อาจเลื่อนสู่ระดับสุญญตาได้ในทันที ยังคงอยู่ในระดับเซียนลี้ลับสงบนิ่ง
สายตาของหลิงชิง เกาชิงเสวียน และนักพรตอวิ๋นเจิ้งอดเลื่อนไปอยู่บนตัว ‘เฉินเสวียนจง’ ไม่ได้
สายตาของคนทั้งสามเริ่มเปลี่ยนเป็นล้ำลึก
ถ้าหากคนร่วงหล่นเป็นมารจริงๆ เช่นนั้นก็ไม่มีที่ให้หันหลังกลับอีกแล้ว มารก็คือมาร ไม่ใช่คนอีกต่อไป
ถึงรูปร่างหน้าตาจะไม่เปลี่ยน น้ำเสียงถ้อยคำไม่เปลี่ยน ถึงขั้นแม้แต่ความเคยชินและความทรงจำไม่เปลี่ยน แต่นั่นก็เป็นอีกตัวตนหนึ่งโดยสิ้นเชิงแล้ว
ราชันพระพุธเฉินเสวียนจงได้หายไปแล้ว ที่เหลืออยู่บนโลกคือเฉินเสวียนจงมารน้ำแข็ง
สำหรับเผ่าปีศาจ ไม่ว่าจะกลายเป็นมารแล้วหรือไม่ ต่างคิดสังหารเฉินเสวียนจงกับฉู่หลีหลีทิ้งที่นี่
และสำหรับพวกเกาชิงเสวียน เฉินเสวียนจงที่สามารถผนึกมารน้ำกุ่ยมีคุณค่าให้พวกเขาสนับสนุน และต่อสู้กับศัตรูแกร่ง
แต่ถ้าการถอนทำลายสำนึกมารล้มเหลว สุดท้ายเฉินเสวียนจงกลายเป็นร่างแปลงของมารน้ำกุ่ยยุคใหม่ เช่นนั้นจุดยืนของพวกเขาก็เป็นเหมือนเผ่าปีศาจ
เหมือนกับครั้งกระโน้นที่เยี่ยนซิงถางสังหารมารกระบี่อินสือหยาง เฉินเสวียนจงสังหารมารน้ำฉู่หวนแห่งยุคก่อน
หลงซิงเฉวียนขมวดคิ้วเช่นกัน
เขาเงยหน้ามองเยี่ยนจ้าวเกอ
“ขวางเผ่าปีศาจเหล่านี้ไว้ ถ่วงเวลาต่อไป จะมีโอกาสพลิกสถานการณ์เอง” เยี่ยนจ้าวเกอพูดพลางเก็บลายมือแห่งแผ่นดิน ก่อนจะเข้าไปในดวงแสงที่เกิดจากพิธีผสมฟ้าขับไล่มารอย่างรวดเร็ว
ทุกคนมองหน้ากัน
เฟิงอวิ๋นเซิงสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ความรู้สึกหายไปจากใบหน้า สายตาสงบนิ่ง เริ่มตั้งมั่นกับการขัดขวางหนอนเก้าเศียร
ตรงกันข้าม เทพมารระดับมหาชาลตนนั้นจิตใจเกิดความสงสัยอีกครั้ง
เยี่ยนตี๋ได้ยินก็ไม่ลังเลสงสัยเช่นกัน ใช้การเคลื่อนไหวในความเป็นจริงแสดงท่าทีของตัวเอง เขาฟันดาบใส่ปีศาจกวางขาว
พวกเกาชิงเสวียนใคร่ครวญเล็กน้อย สุดท้ายก็ขวางการบุกรุกของเผ่าปีศาจต่อไป
ราชันพระจันทร์หลิงชิงมองฉากเหตุการณ์นี้อย่างเงียบงัน
การพัฒนาของสภาพการณ์ในตอนนี้อยู่เหนือขอบเขตที่ก่อนหน้านี้พวกเขาวางแผนควบคุมไว้ไปแล้ว พูดอีกอย่างก็คือ สถานการณ์ไม่ได้อยู่ในการควบคุมและการคาดการณ์ของพวกเขาอีกต่อไป หากเกิดผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุด นั่นก็คือมารน้ำกุ่ยคืนชีพ เฉินเสวียนจงกับฉู่หลีหลีสุดท้ายกลายเป็นมาร
การคุ้มครองเฉินเสวียนจงต่อไร้ประโยชน์ ถึงขั้นที่มอบโอกาสให้เขาที่กลายเป็นมารน้ำแข็งแล้วหนีกลับนพยมโลกได้
ถ้าหากเป็นคนอื่นๆ ในสายตาของหลิงชิง การกระทำเหล่านี้เทียบเท่ากับการเสียสติ ปล่อยให้อารมณ์ครอบงำ หรือไม่ตายไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมเผชิญกับความจริง ไม่กล้าเผชิญกับผลลัพธ์ที่ล้มเหลว ต้องการขัดขืนอย่างไร้ประโยชน์ต่อไป
หลายๆ ครั้ง หากไม่กระทำให้เด็ดขาด สุดท้ายก็จะทำร้ายตัวเอง มีแต่เภทภัยไร้สิ้นสุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี