‘กระสวยปั่นป่วนเอกภพ…’ หนอนเก้าเศียรคิดเงียบๆ
“เยี่ยนจ้าวเกอนั่นหลังได้ตำหนักโอสถ สมควรไม่มีวิธีสร้างของสิ่งนี้!” ปีศาจกระต่ายหยกใบหน้าจนปัญญา “หรือว่าใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋กับใต้เท้าโกวเฉินจะถ่ายทอดแก่เขา ทว่าหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ไม่เคยเห็นใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋ใช้มาก่อน”
หนอนเก้าเศียรแค่นเสียง “ไม่ต้องคิดไร้สาระแล้ว ที่นี่ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่ออีก พวกเราไป”
วาจาแม้จะกล่าวเช่นนี้ ทว่าเผ่าปีศาจที่ติดตามเขามาในครั้งนี้ นอกจากปีศาจกระต่ายหยกที่รอดมาได้ ส่วนใหญ่ล้วนตายคาที่
ในนี้ยังมีอนุเทวะเผ่าปีศาจอย่างปีศาจกวางขาว และราชามังกรหวนเฉิน
ผลลัพธ์แบบนี้ทำให้หนอนเก้าเศียรที่เป็นผู้นำรู้สึกว่าตัวเองเสียหน้า
สิ่งที่ทำให้เขาโมโหยิ่งกว่าก็คือ พวกเยี่ยนจ้าวเกอถอยไปอย่างปลอดภัย ถึงมารน้ำกุ่ยจะไม่อาจคืนชีพ แต่ว่าในนี้กลับไม่มีความดีความชอบของพวกเขา
ด้วยนิสัยทะนงตนของมหาเทวะเผ่าปีศาจที่อายุมากและแข็งแกร่งเช่นเขา นี่ไม่ต่างจากเอาหัวปักใส่หม้อไฟ
การคืนชีพของมารน้ำกุ่ยล้มเหลว ตำหนักโอสถไม่อาจชิงมาได้ มหาเทวะเก้าเศียรจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นเทพมารระดับมหาชาลตนนั้น
หากทำร้ายหรือสังหารอีกฝ่ายได้ ย่อมสร้างความเสียหายใหญ่หลวงให้แก่นพยมโลกอย่างไม่ต้องสงสัย การออกมาในครั้งนี้ของเผ่าปีศาจที่สุดแล้วก็นับว่าไม่คว้าน้ำเหลวกลับไป
ทว่าเทพมารระดับมหาชาลตนนั้นก็รู้ความ พอเห็นเยี่ยนจ้าวเกอและเฟิงอวิ๋นเซิงใช้กระสวยปั่นป่วนเอกภพหนีไปสำเร็จ ตัวมันยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหนอนเก้าเศียร ก็หมุนกายถอยไปด้านหลังในทันที หนีไปอย่างรวดเร็ว
การฟื้นคืนชีพของมารน้ำกุ่ยล้มเหลว จะรั้งเฟิงอวิ๋นเซิงไว้ได้หรือไม่ จอมมารตนนี้ย่อมไม่มีความจำเป็นต้องสู้กับเผ่าปีศาจต่อ
สำหรับมันแล้ว เรื่องราวยังไม่ได้จบลง ไม่นับว่าล้มเหลวโดยสมบูรณ์
ครั้งนี้นอกจากมารน้ำกุ่ยแล้ว ยังมีมารดินโบ่วที่กำลังใช้ร่างคืนชีพอยู่ ถ้าหากสำเร็จ นพยมโลกสามารถดึงสถานการณ์กลับมาได้อย่างไม่ต้องสงสัย
‘ข้าไม่เชื่อว่าพวกเจ้าสามารถหาดินแดนพันเกล็ดได้อีกแห่ง และพิธีกรรมประหลาดนั้นจะต้องเปลืองเวลาและพลังงาน หรือว่าพวกเจ้าจะยังมีทรัพยากรของวิเศษมากพอไว้สร้างพิธีที่สอง’
เทพมารตนนึกคิดอย่างเย็นเยียบ ทำลายมิติจากไป
หนอนเก้าเศียรมองดูทางด้านกระสวยปั่นป่วนเอกภพอยู่ จอมมารตนนี้จึงฉวยโอกาสหนีไปได้
ทว่าขณะนี้เขาใจเย็นลงแล้ว “ไป ยังมีมารดินโบ่วที่ต้องจัดการ”
เขาออกจากอาณาเขตบริเวณแห่งนี้ในทันที พวกปีศาจกระต่ายหยกเผ่าปีศาจที่รอดชีวิตรีบติดตาม
ในอาณาเขตที่กั้นด้วยมิติเวลาหลายชั้นและอยู่ไกลแสนไกลอีกแห่งนึ่ง อวกาศที่ตอนแรกมืดมิดสงบนิ่งพลันแยกออก
ในร่องแยกมิติเวลา พวกเยี่ยนจ้าวเกอโผล่มาทีละคน
กระสวยปั่นป่วนเอกภพกระตุ้นพลังของหนอนเก้าเศียรและเทพมารให้ปะทะหักล้างกันเอง
แต่เป็นเพราะถึงอย่างไรพลังของหนอนเก้าเศียรก็เหนือกว่าขั้นหนึ่ง จึงยังมีผลเหลือสำหรับส่งผลต่อหลุมขมุกขมัวมืดมิดที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอใช้หนีในตอนนั้น
ทว่าเป็นเพราะพลังที่ลดลงมากเกินไป ทำให้ไม่อาจรั้งพวกเยี่ยนจ้าวเกอไว้ได้
เกาชิงเสวียนกับหลิงชิง เซียนกำเนิดสุญญตาปกป้องคุ้มครอง ทุกคนจึงไม่พลัดหลงในวังวนของมิติเวลาที่ปั่นป่วน สุดท้ายก็หลุดออกมาจากหลุมโกลาหลพร้อมกัน
เยี่ยนจ้าวเกอประคองเฟิงอวิ๋นเซิง
มิติเวลาตรงหน้าเพิ่งมั่นคง เฟิงอวิ๋นเซิงก็ทรุดนั่งขัดสมาธิในความว่างเปล่า แสงมารเพลิงทมิฬที่ลุกไหม้อยู่บนร่างมีสภาวะเทียมฟ้า
บนผิวของขวดหยกสีดำที่จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ได้มอบให้ปรากฏรอยแตกขึ้น
เฟิงอวิ๋นเซิงสีหน้าเปลี่ยนแปลง บางครั้งสงบนิ่งควบคุมตัวเอง บางครั้งดุร้ายเหี้ยมเกรียม บางคราเย็นเยือกเปล่าเปลี่ยว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี