พวกสือจวินอยู่ในมิติพิเศษอันเกิดจากกลุ่มแสง โลกภายนอกเป็นอย่างไรล้วนไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา
เรื่องที่พวกเขาทำได้ มีเพียงแค่ต้องตั้งสมาธิกับเรื่องราวตรงหน้า สะกดมารให้เร็วที่สุด ตัดโอการคืนชีพของอีกฝ่าย
ตรามารและสำนึกมารเมื่อถูกถอนทำลายหมดสิ้น ขอแค่ไม่ถูกอีกฝ่ายวางเล่ห์กล เช่นนั้นเรื่องราวก็นับว่าจบลง ภายหลังไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลเช่นนี้อีก
โลกภายนอกปราณมารพวยพุ่งสู่ฟ้า มีจอมมารเข้าใกล้
สวีเฟยกับสือจวินสัมผัสได้ถึงอานุภาพด้านใน แต่ยังต้องตั้งสมาธิอยู่ที่ตัวเอง กระทำเรื่องที่ดำเนินอยู่ต่อ ไม่อาจไปสนใจอย่างอื่น
โชคดีที่ปราณมารค่อยๆ สลายไป นี่ทำให้สวีเฟยกับสือจวินต่างโล่งอก
ด้านนอกมียอดฝีมือจำนวนมากมาแล้วก็ไปอีกรอบ สุดท้ายค่อยๆ สงบลงอีกครั้ง
“จวินเอ๋อร์ ทนอีกหหน่อย” สวีเฟยทางหนึ่งกระตุ้นคุณสมบัติวิญญาณของมุกผ่าดิน ทางหนึ่งพูดกับศิษย์ของตัวเอง
จิตใจของสือจวินความจริงเหนื่อยล้าถึงขีดสุด เทียบกับคนทั่วไป ระดับพลังฝึกปรือของเขาสูงถึงขีดสุด ถึงขั้นที่เมื่อเทียบกับโลกเบื้องล่างอย่างโลกแปดพิภพ เรียกได้ว่าปีนสู่ระดับสูงสุดแล้ว
ทว่าคู่ต่อสู้ที่ต้องเจอในครั้งนี้ไม่ธรรมดา ขณะเดียวกันวิธีการตัดสินที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอและเฉินเสวียนจงศึกษาก็มีเงื่อนไขสำหรับตัวจอมยุทธ์เช่นกัน
ทั้งหมดนี้ทำให้สือจวินได้รับภาระมหาศาล มีโอกาสจะกดทับใส่เขาได้ตลอดเวลา ทว่าเขายังคงกัดฟันทน
“ท่านอาจารย์วางใจ ศิษย์ยังทนได้ พวกเรากำลังจะชนะ เดินมาเก้าสิบเก้าก้าวแล้ว ศิษย์ไหนเลยไม่พยายามสุดความสามารถเพื่อก้าวเท้าก้าวสุดท้าย” สือจวินกล่าวอย่างแช่มช้า
สวีเฟยพยักหน้า กระตุ้นคุณสมบัติวิญญาณของมุกผ่าดิน ช่วยสือจวินกับอิ๋งอวี่เจินสยบมารต่อ
ทว่าทันใดนั้น สีหน้าของเขาพลันสั่นไหว เขาที่กระตุ้นมุกผ่าดินอยู่สัมผัสได้อย่างเลือนรางว่ามิติพิเศษที่แสงสว่างจากคุณสมบัติวิญญาณของมุกผ่าดินสร้างขึ้นคล้ายถูกใครบางคนฉีกออก
เขารู้สึกสังหรณ์ไม่ดี
วินาทีถัดมา เห็นบุรุษหนุ่มอาภรณ์ม่วงผู้หนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา อีกฝ่ายมีสีหน้าเกียจคร้าน ราวกับไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ตอนนี้พิจารณาสือจวินกับอิ๋งอวี่เจินด้วยความสนอกสนใจ
หลังจากมองเห็นหน้าตาของอีกฝ่ายชัดเจนแล้ว สวีเฟยกับสือจวินจิตใจหนักอึ้งในทันที
ผู้มาถึงกับเป็นเฉินเฉียนหัว
คนอื่นๆ ไม่เข้าใจความเหลวไหลกับความผิดปกติของคนผู้นี้ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเยี่ยนจ้าวเกอเข้าใจเป็นอย่างดี พวกสวีเฟยจึงพลอยเข้าใจไปด้วย
เขาพลันปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ยากจะทำให้ผู้คนเชื่อว่าเขานึกถึงสหายร่วมเส้นทางจึงมาช่วยเหลือ
เป็นอย่างที่คาด เฉินเฉียนหัวหัวเราะ “น่าสนใจ”
ขณะที่พูด เขายื่นฝ่ามือออกมาฟันใส่ความว่างเปล่า
มิติพิเศษแห่งนี้พลันแหลกสลายไปพร้อมกับต้นไม้แห้งเหี่ยว
มิติช่องว่างแตกหัก ระหว่างสือจวินกับสวีเฟยและอิ๋งอวี่เจินปรากฏร่องน้ำสายหนึ่ง ไม่มอบเวลาให้เขาโต้ตอบ มิติเวลาก็ม้วนเขาออกห่างจากสือจวินสองแม่ลูก
มุกผ่าดินยังคงเป็นของวิเศษแห่งเซียน สวีเฟยได้แต่กระตุ้นคุณสมบัติที่อยู่ด้านใน ไม่อาจควบคุมมันโจมตีศัตรู
ถึงจะเป็นเช่นนี้ เขายังคงคิดจะโยนผุกผ่าดินให้แก่พวกสือจวิน
น่าเสียดายกระแสปั่นป่วนของมิติเวลบังเกิดขึ้น ม้วนเขาไปยังที่ไกล
“ท่านอาจารย์!” สือจวินอุทาน จากนั้นก็แค่นเสียงหนักๆ
เมื่อไม่มีมุกผ่าดินคอยช่วยเหลือ การผนึกพญามารจงหยวนของเขาพลันได้รับผลกระทบ อีกฝ่ายเริ่มวางแผนโต้ตอบ
สิ่งที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่าก็คือ ก้าวย่างในการถอนทำลายสำนึกมารทางอิ๋งอวี่เจินก็เริ่มช้าลง เพียงขาดอีกแค่ก้าวเดียวจะประสบความสำเร็จ แต่ว่าส่วนที่เหลือเพียงเล็กน้อยนี้ พอมาถึงที่นี่ก็ยากจะตัดต้นทอทิ้งได้
อิ๋งอวี่เจินยังคงหลับสองตา เหมือนกับหลับลึก ทว่าในร่างของนางเหมือนกับมีสำนึกอย่างอื่นเริ่มเงยหน้าขึ้น
เฉินเฉียนหัวเดินมาถึงตรงหน้าแม่ลูก กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าส่งพวกท่านให้เส้นทางนอกรีตชำระล้าง ตัวเลือกของพวกเขามีอยู่เพียงหนึ่ง คือการจับกุมสะกดแล้วคอยดูแล แต่ถ้าพวกท่านกลายเป็นมาร เช่นนั้นก็ยากจะบอกแล้ว ถึงอย่างไรก็มีคนหนึ่งเป็นหนึ่งในสิบสองเทพมารสวรรค์”
เขาเงยหน้าถอนใจ “อยากรู้จริงๆ ว่าพวกเขาจะเลือกอย่างไร”
“ข้าไม่มีทางร่วงหล่นเป็นมาร!” สือจวินกัดฟันกรอด พยายามสะกดจอมมารที่เริ่มตอบโต้
อาคมผนึกมาร แม้นพลังของคนคนเดียวใช่ว่าจะจัดการจอมมารสองตนได้ กระนั้นสือจวินก็เริ่มเตรียมใช้ความสามารถสุดท้ายนี้แล้ว
เขายอมตายไม่ยอมร่วงหล่นเป็นมาร!
ทว่าทันใดนั้น เฉินเฉียนหัวเคลื่อนไหวแล้ว เขาชี้นิ้วไปที่อิ๋งอวี่เจินก่อน
อิ๋งอวี่เจินร่างสั่นไหวคราหนึ่ง ร่องแยกบนหน้าผากขยาย แสงมารทะลัก เห็นมารดินโบ่วที่เกือบล้มเหลวส่งเสียงร้องคำราม กำลังฟื้นคืนชีพ
สือจวินถลึงตา เบ้าตาเต็มไปด้วยเลือด
เขาพลันหลับตา!
อาคมผนึกมารเริ่มแสดงผลแล้ว!
ปราณมารที่เกาะเกี่ยวระหว่างสือจวินกับอิ๋งอวี่เจินเริ่มบิดเบี้ยว
ทว่าเฉินเฉียนหัวหัวเราะเหอะๆ จี้นิ้วใส่อากาศอีกรอบ
อาคมผนึกมารที่สือจวินใช้หยุดลงโดยพลัน
“ตราอาคมนี้น่าสนใจ ข้าชอบ” เฉินเฉียนหัวจุ๊ปากถอนใจชมเชย “พอดีเลย ข้าเกลียดของเลียนแบบนัก ทำให้ท่านต่างออกไปหน่อยแล้วกัน”
………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี