อวี่เยี่ยออกกระบี่ เส้นสีดำหลายสายกระจายทั่วความว่างเปล่า
หลงเสวี่ยจี้ออกกระบี่ มีปราณสีขาวหลายสายพาดขวาง
นักพรตอวิ๋นเจิ้งออกกระบี่ เห็นประกายกระบี่สีแดงก่ำกระเพื่อมขึ้นรอบๆ
สุดท้ายเยี่ยนจ้าวเกอออกกระบี่ แสงสีเขียวหนาแน่น
เจตจำนงกระบี่ของสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนปรากฏพร้อมกัน สภาวะโกลาหลสูญสะท้อนขึ้นในม่านตาของอวี่เยี่ย
ความว่างเปล่าที่เงียบสงัดเหมือนกับมหาสมุทร มีฟองอากาศจำนวนนับไม่ถ้วนผุดออกมาจากภายใน นั่นเป็นลวดลายยันต์หลายสายประกอบกันในทะเลแห่งความว่างเปล่า กลายเป็นค่ายกลวิญญาณค่ายแล้วค่ายเล่า
ลวดลายค่ายกลมากมายปรากฏ เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าเคร่งขรึม ปรับเปลี่ยนค่ายกลวิญญาณเหล่านั้น ทำให้พวกเขาประสานงานได้ต่อ
ขณะนี้นักพรตอวิ๋นเจิ้งที่เชี่ยวชาญค่ายกลคอยช่วยเหลืออยู่ด้านข้าง ทำให้ลวดลายค่ายกลประกอบกันได้เร็วกว่าเดิม
แสงพุทธของยุทธวิชัยพุทธะกลายเป็นฝ่ามือขนาดยักษ์ แล้วร่วงหล่นลงจากฟ้า
ทว่าเกาชิงเสวียนที่ลอยอยู่ด้านบนกระตุ้นกระบี่ผนึกเซียนเข้าต้านรับ ถึงแม้จะถูกฝ่ามือยักษ์แสงพุทธกดลงมา กลับก็ช่วงชิงเวลาที่มากพอให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอซึ่งอยู่ด้านข้างสำเร็จ
หมอกสีเหลืองกับแสงสีทองนับไม่ถ้วนพรั่งพรูจากลวดลายค่ายกล ครู่เดียวก็ปกคลุมฟ้าดินไว้
หมอกแสงแผ่พุ่ง ม้วนไปทั่วสี่ทิศ เกาชิงเสวียนถือกระบี่ผนึกเซียน พุ่งเข้าไปด้านใน
“เมื่อไม่มีตัวตนระดับมหาชาลควบคุม อีกทั้งพวกโยมยังได้กระบี่ผนึกเซียนมาแค่เล่มเดียว ขาดกระบี่อีกสามเล่ม หามีความน่ากลัวไม่” ยุทธวิชัยพุทธะไม่กริ่งเกรง ศีรษะยี่สิบข้างเปล่งคำสรรเสริญคุณ ยื่นแขนทั้งสิบแปดข้างออกมา แต่ละข้างฟาดของวิเศษลง ถึงกับแหวกหมอกสีเหลืองแสงสีทองอย่างหักโหม
แต่ว่าเห็นเกาชิงเสวียนปล่อยกระบี่ผนึกเซียน ร่างจริงกับร่างแยกยืนหันหน้าเข้าหากัน แยกกันยืนอยู่คนละมุมของค่ายกล
หลิงชิงเคลื่อนไหวอย่างเดียวกัน ยืนอยู่ตรงข้ามกับกระบี่ผนึกเซียน ยึดครองอีกสองมุกของค่ายกล
ลวดลายค่ายกลที่ลี้ลับซับซ้อนหมุนวน ปราณกาลีทั่วฟ้าพวยพุ่งสู่ชั้นเมฆ ย้อมเกาชิงเสวียนกับร่างแยก รวมถึงร่างของหลิงชิง
เซียนกำเนิดสามคนที่อยู่ในชั้นสุญญตา ตอนนี้ต่างกำลังถูกพลังค่ายกลเปลี่ยนให้เป็นพวกเดียวกัน
เกาชิงเสวียนร่างจริงถูกแสงสีเขียวครอบคลุม ร่างแยกของนางถูกแสงสีแดงครอบคลุม
ด้านล่าง เยี่ยนจ้าวเกอกับนักพรตอวิ๋นเจิ้งต่างออกกระบี่ ประกายกระบี่ตกลงบนร่างของเกาชิงเสวียนกับร่างแยก
เห็นร่างมนุษย์ของเกาชิงเสวียนสองคนเหมือนกับถดถอยไปพร้อมกัน กลายเป็นกระบี่แสงขนาดยักษ์สองเล่มสีเขียวสีแดง!
หลิงชิงไม่ใช่มือกระบี่สายเหนือพิสุทธิ์ ถึงหลงเสวี่ยจี้จะออกกระบี่ ปราณกระบี่สังหารเซียนหลายสายเวียนว่อน ทว่าไม่ได้กลายเป็นพวกเดียวกันกับนางอย่างชัดเจนนัก
แต่ทันใดนั้นเอง ในค่ายกลมีกระบี่สามเล่ม หลิงชิงเพียงจำเป็นต้องใช้พลังฝึกปรือระดับสุญญตาของตัวเองสะกดด้านหนึ่งของค่ายกลเป็นก็ใช้ได้แล้ว
กระบี่ลงทัณฑ์เซียนกับกระบี่ลวงเซียนที่เกิดจากเกาชิงเสวียนเป็นกระบี่ปลอมเช่นกัน แต่ว่าเมื่อมีนางสะกดค่ายกล ประกายกระบี่ของกระบี่ผนึกเซียน กระบี่ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวก็พลันขยายใหญ่ขึ้น
กระบี่ผนึกเซียนกลับชักนำพวกนางสามคน มอบพลังให้แก่ค่ายกลอย่างต่อเนื่อง
ค่ายกลโคจร แสงสว่างรวมตัว กลายเป็นประตูสี่บาน แยะออกไปสี่ทิศ
กระบี่สี่เล่มที่แบ่งเป็นหนึ่งแท้ สองปลอม หนึ่งมายา แยกกันลอยอยู่เหนือประตูสี่บาน
“ขึ้น!” เยี่ยนจ้าวเกอตวาดคำหนึ่ง ลวดลายค่ายกลรวมตัวกันในสองตา
พลันมีปราณกาลีอันดุร้ายไร้สิ้นสุดลอยขึ้นจากในค่ายกล แล้วกลายเป็นคมกระบี่ที่แข็งแกร่งไม่อาจทำลาย กวาดล้างจักรวาล ทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญแขวน
“ถึงจะใช้เล่ห์เหลี่ยม แต่ว่าโคจรค่ายกลได้อย่างคล่องแคล่วปานนี้ ช่างหายากจริงๆ!” ยุทธวิชัยพุทธะแตกตื่น สลัดความประมาททิ้ง ประกบแขนทั้งสิบแปดข้าง สร้างแดนสุขาวดีพุทธเกษตรขึ้นมาทลายปราณกระบี่ที่ดุร้าย
นอกจากจะรับมือกับยุทธวิชัยพุทธะที่อยู่ด้านบนแล้ว หมอกสีเหลืองกับแสงสีทองก็ทะลักไปทั่วสี่ทิศแปดทาง กลืนกินฟ้าดิน
ก่อนหน้านี้พวกฝูหลัวจื่อกับพญามารควันสายัณห์เหล่ายอดฝีมือเริ่มหลบหลีกแล้ว ทว่าขณะนี้ค่ายกลขยายตัวเร็วเกินไป ถึงกับออกทีหลังแต่ถึงก่อน ไม่ว่าจะเป็นพุทธ มาร ปีศาจก็ม้วนเข้าไปทั้งหมดในคราวเดียว!
นอกจากร่างกายจะกลายเป็นประกายกระบี่ลงทัณฑ์เซียนแล้ว ที่เกาชิงเสวียนทิ้งกระบี่สังหารเซียน ใช้กระบี่ลวงเซียนแทน ก็เพื่อจัดการอีกฝ่ายที่อยู่ที่นี่ในคราวเดียว
คนพอเข้ามาในค่ายกล จักรวาลตรงหน้าก็พลันเปลี่ยนแปลง
ปราณกรบะที่ดุร้ายพุ่งไปมา บดขยี้มิติ กลายเป็นดิน น้ำ ลม ไฟแรกเริ่ม ตลบไปทั่วบริเวณ
ฟ้าดินธรรมชาติคล้ายถูกทำลาย ทุกอย่างถูกบดขยี้ กลับคืนสู่ความว่างเปล่า ราวกับภาพวันสิ้นโลกโดยสมบูรณ์!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี