สติของสวีเฟยเริ่มเลือนรางแล้ว สิ่งที่กลายเป็นรูปสลักหินไม่ได้มีแค่ร่างกาย วิญญาณก็เสื่อมสลายและทรุดโทรมลงด้วยเช่นกัน ตรงหน้าเขาเหมือนกับมีภาพมากมายวาดผ่านราวโคมม้าวิ่ง
ตอนที่กราบเข้าเขากว่างเฉิง กลายเป็นลูกศิษย์สายตรงของสือเถี่ย ตอนได้รับการชี้แนะดูแลจากสือซงเทาในวัยเด็ก การได้พบกับเซี่ยโยวฉาน การผงาดขึ้นของเยี่ยนจ้าวเกอผู้เป็นศิษย์น้อง การได้มายังโลกซ้อนโลก การผุดขึ้นของเขากว่างเฉิง
นอกจากนี้แล้ว ยังมีการร่วงหล่นเป็นมารไปถึงการตายของสือซงเถา การเสียชีวิตของสือเถี่ยผู้เป็นอาจารย์ ตนกลายเป็นอาจารย์รับสือจวินเป็นศิษย์ และการได้แต่งงานกับเซี่ยโยวฉาน…
ภาพนับไม่ถ้วนพากันวาดผ่านห้วงสมอง ทุกๆ ภาพ ทุกๆ เรื่องราวต่างยากจะลืมเลือน
สวีเฟยเลอะเลือนเล็กน้อย เห็นเงาคนสายหนึ่งพลันปรากฏแวบขึ้นตรงหน้าตน
“ศิษย์พี่สวี!” เยี่ยนจ้าวเกอพุ่งเข้ามาใกล้ๆ ร่างของสวีเฟยกลับกลายกำลังจะกลายเป็นรูปสลักหินหมดแล้ว
สวีเฟยเห็นเยี่ยนจ้าวเกอ ริมฝีปากขยับเล็กน้อย พยายามยิ้มขึ้น
“ดื่มสุราในจอกไม่หมด ความกังวลจากการแยกจากของข้ากลับหมดสิ้น อย่าถามว่าเป็นที่ใด เมื่อพบเจอขอร่ำสุราให้เมามาย”
เสียงของเขาเบาลง สุดท้ายมองดูสือจวิน มองดูอิ๋งอวี่เจิน มองดูเยี่ยนจ้าวเกอ มองดูคนอื่นๆ ยิ้มเล็กน้อย ปิดสองตาลง
สวีเฟยคนถูกสีเทาอมเขียวครอบคลุม กลายเป็นรูปสลักหิน ลักษณะหน้าตาสมจริงดุจมีชีวิต ผิวกลับหยาบกร้าน
“หยุด!” เยี่ยนจ้าวเกอตวาดเสียงทุ้ม ในมือเพิ่มม้วนหนังสือเล่มหนึ่ง
หนังสือลายมือของเจ้าแม่แห่งแผ่นดิน
หลังจากผ่านการใช้และการรีดเค้นพลังอำนาจครั้งแล้วครั้งเล่า จิตพลังของลายมือถึงกับเปลี่ยนเป็นอ่อนแอยิ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอไม่สนใจสิ่งเหล่านั้น เปิดม้วนหนังสือลายมือออก จากนั้นก็เอาไปแนบกับร่างของสวีเฟยที่กลายเป็นรูปสลักหินแล้ว
ภายใต้การหล่อเลี้ยงจากแสงสว่างอันอบอุ่น รูปสลักหินสีเขียวอมเทาเพิ่มแสงของชีวิตหลายส่วน ไม่ได้กลายเป็นสิ่งที่ตายแล้วโดยสมบูรณ์ เพียงแต่แสงของชีวิตนี้ยังคงค่อยๆ เลื่อนไหล
หากเป็นแบบนี้ต่อไปจะสลายไปหมดอย่างรวดเร็ว ลายมือแห่งแผ่นดินไม่อาจคงสภาพต่อได้อีก
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่” ขณะนี้เยี่ยนจ้าวเกอจึงค่อยมีเวลาถามสถานการณ์
เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งมองดูสภาพของสือจวินกับอิ๋งอวี่เจิน ทางหนึ่งฟังทุกคนบอกเล่าเรื่องราว สีหน้าดำครึ้ม คนเหมือนกับภูเขาไฟที่พร้อมปะทุตลอดเวลา
ครั้งกระโน้นตอนอยู่บนโลกแปดพิภพ สวีเฟยเป็นสหายในสำนักที่ดีที่สุดของเขา
ตอนอยู่บนโลกแปดพิภพ ความตายของสือเถี่ยผู้เป็นอาจารย์ลุงใหญ่ก็เป็นความเจ็บปวดที่อยู่ในใจของเยี่ยนจ้าวเกอเสมอมา
ขณะนี้สวีเฟยล้มลงตรงหน้า พร้อมกับที่เพิ่มบาดแผลขึ้นในใจของเยี่ยนจ้าวเกออีกสาย เฉือนแผลในอดีตออกมาอีกครั้ง
โศกนาฏกรรมของสือเถี่ยและสือซงเถาเหมือนกับดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน
‘มุกผ่าดิน มุกผ่าดิน…’
เยี่ยนจ้าวเกอฝืนควบคุมตัวเองให้เยือกเย็น ใคร่ครวญต่อเนื่อง
‘กลืนมุกผ่าดิน…กลืนมุกผ่าดิน ใช้อาคมผนึกมาร...’ เยี่ยนจ้าวเกอพลันจิตใจสั่นไหว ‘บางที…’
เขาพุ่งไปด้านหน้า ใช้มือข้างหนึ่งอุ้มรูปสลักหินที่เป็นสวีเฟยขึ้น หันไปพูดกับเฟิงอวิ๋นเซิง “อวิ๋นเซิงไปกับข้า!”
เฟิงอวิ๋นเซิงงุนงง แต่ก็ไม่ได้ถามมากความ เพียงพยักหน้าเอ่ยว่า “ได้!”
“ทั้งสองท่าน รบกวนพาศิษย์หลานแม่ลูกสองคนของข้ากลับจักรวาลฟ้าฟื้นด้วย” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างรวดเร็ว “ระหว่างทางที่ข้ามาเมื่อรู่ ได้รับการติดต่อจากบิดาและอาจารย์ปู่น้อยหลงแล้ว อีกเดี๋ยวพวกเขาจะมาสบทบ ตอนนั้นพวกท่านสามารถร่วมทางได้ ถึงก่อนหน้านี้คู่ต่อสู้จะถูกฆ่าล้างเป็นส่วนใหญ่ แต่ยังคงมีปลาหลุดลอดแห บางทีอาจมีกำลังหนุนจากภายนอก ทั้งสองท่านโปรดระวัง”
จักรพรรดิอุรุและจักรพรรดิศานติเห็นดังนั้น แม้นไม่เข้าใจสาเหตุ แต่ก็รับคำทันที “วางใจเถอะ”
“อาจารย์อาเยี่ยน…” สือจวินมองเยี่ยนจ้าวเกออย่างร้อนรน
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “จวินเอ๋อร์เจ้ากลับสำนักก่อน อย่าถามอะไรอีก รักษาอาการบาดเจ็บของตัวเอง หลังข้ากลับไปจะช่วยเจ้าคิดหาวิธี หลังพี่สะใภ้อวี่เจินฟื้นขึ้นมา เจ้าจงอยู่เป็นเพื่อนนาง เมื่อผ่านภัยพิบัตินี้ไปได้ ตรามารบนร่างของพวกเจ้าแม่ลูกถูกทำลายสิ้น ขอแค่ไม่ถูกมารร้ายฉวยโอกาสทิ้งตรามารอันใหม่ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล”
สือจวินตอบ “ขอรับอาจารย์อาเยี่ยน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี