ในหินกลางหน้าอกของสวีเฟยมีเสียงหนึ่งดังมา “คุ้มค่าหรือ สตรีนางนี้เป็นแค่ปรมาจารย์ เจ้าเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์แต่แรก ทั้งเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดง ห่างจากสะพานเซียนเพียงก้าวเดียว ด้วยพรสวรรค์และความสามารถของเจ้า การกลายเป็นเซียนอยู่ไม่ไกล เจ้าถึงกับแลกชีวิตของตัวเองกับชีวิตของนาง? หากช่วยศิษย์ของเจ้ายังพอว่า สตรีนางนี้กับเจ้าความจริงไม่มีความเกี่ยวข้องที่แท้จริงใดๆ ดังนั้นคุ้มค่าหรือ”
สวีเฟยนั่งกับพื้น หยิบถุงสุราจากเอว แล้วดื่มหลายอึก
“ข้าผู้แซ่สวีกระทำเรื่องราวใด เพียงดูแค่ว่าสบายใจหรือไม่ ไม่สนใจว่าคุ้มค่าหรือไม่คุ้มค่า”
“อาจารย์!” สือจวินขโยกเขยกเข้าหาสวีเฟย เพราะบาดเจ็บสาหัสจึงโซเซล้มลงบนพื้นอีกครั้ง
เขาไม่อาจขยับแขนขวากับมือขวา ใช้ขาซ้ายถีบพื้น มือซ้ายตะกายเข้าใกล้สวีเฟย “อาจารย์…”
“เด็กโง่ อย่าได้ทำเช่นนี้” สวีเฟยถอนใจคำหนึ่ง
มีคำกล่าวว่า ชายชาตรีไม่ให้น้ำตามิหลั่งออกมาโดยง่าย ทว่าตอนนี้สือจวินร้องไห้ราวสายฝน
เขาที่แข็งแกร่งอาจหาญหลังจากเติบใหญ่ เขาที่ครั้งกระโน้นถูกคนหยามหยันไล่สังหารในโลกผืนสมุทร เขาซึ่งที่แล้วมาไม่เคยแสดงความอ่อนแอต่อหน้าใคร วินาทีนี้ร้องไห้เหมือนกับเด็ก
น้ำตากับเลือดบนใบหน้าผสมกัน หยดลงด้านล่างไร้สิ้นสุด ยากจะควบคุมได้
“ท่านอาจารย์!” สือจวินคลานไปถึงตรงหน้าสวีเฟย ยื่นมือไขว่คว้าหาเขาอย่างยากลำบาก
สวีเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันตัวเอง “ฟังว่าในตอนที่กษัตริย์ดาราใช้อาคมผนึกมาร สำแดงผลได้ในพริบตา ส่วนข้าเป็นเพราะเกี่ยวข้องกับมุกผ่าดิน ความเร็วจึงเชื่องช้าลง กลับสามารถกล่าววาจาได้สองสามประโยค”
เขาหยิบถุงสุราออกมา ดื่มอีกสองอึก แต่กลับสำลักเสียอย่างนั้น
ก้มหน้ามอง บริเวณบนอกที่กลายเป็นหินยิ่งมายิ่งใหญ่ขึ้น หนำซ้ำยิ่งมายิ่งขยายอย่างรวดเร็ว
อีกไม่นานเท่าไร เขาคงจะกลายเป็นรูปแกะสลักหิน
“สุรากาสุดท้ายก็ดื่มไม่หมด” สวีเฟยยิ้มสง่างาม โยนถุงสุราทิ้ง “แต่หาเป็นไรไม่ ดื่มสุราในจอกไม่หมด ความกังวลจากการแยกจากของข้ากลับหมดสิ้นแล้ว จวินเอ๋อร์ไม่ต้องโศกเศร้าเพราะข้า ความปรารถนาของข้ากลายเป็นจริงแล้ว”
สวีเฟยตบไหล่ของสือจวินเบาๆ “เจ้าสามารถรักษาความเชื่อมั่นของตัวเอง ไม่ถูกความลำบากทำลาย ไม่ถูกมารล่อลวง นี่ประเสริฐยิ่ง เพียงแต่สุดท้ายแล้วข้ายังดูแลเจ้าไม่ได้ ทำให้เจ้าได้รับบาดเจ็บปานนี้”
สือจวินส่ายหน้า สะอึกสะอื้น
“สิ่งที่ติดค้างในใจข้าเพียงหนึ่งเดียวก็คือ พอจากไปในครั้งนี้ต้องขอโทษอาจารย์หญิงของเจ้า” สวีเฟยซึมเซาอยู่บ้าง “พวกเราอยากประคับประคองกันไปจนตลอดชีวิต แต่วันนี้ข้าต้องผิดสัญญาแล้ว”
สือจวินส่ายหน้าสุดชีวิต “อาจารย์ ไม่มีทาง! ไม่มีทาง!”
“อาจารย์ท่านทนไว้ ทนอีกสักหน่อยเถอะ พวกอาจารย์อาเยี่ยนสมควรใกล้มาถึงแล้ว อาจารย์อาเยี่ยนจะต้องมีวิธีแน่นอน”
สวีเฟยยิ้ม “อาคมผนึกมารเป็นจ้าวเกอ ศิษย์น้องเฟิง ยังมีกษัตริย์ดาราสร้างขึ้น ตอนนั้นเจ้าและข้าก็ได้ร่วมศึกษาด้วย พวกเราล้วนทราบรายละเอียดของวิชาลับวิชานี้ดี ก่อนหน้านี้กษัตริย์ดารามีสถานการณ์พิเศษยิ่ง ก่อนที่พวกเราจะออกปฏิบัติการในครั้งนี้ จ้าวเกอก็จงใจเตือนข้าว่าวิธีการเดียวกันยากจะใช้ซ้ำ ข้าหาเซียนจริงแท้ที่การสืบทอดวรยุทธ์เป็นสายเดียวกับข้ามาเปลี่ยนเป็นรูปสลักหินกับข้าไม่ได้”
เขากว่างเฉิงในปัจจุบันมีเซียนกำเนิดหนึ่งคน เซียนลี้ลับหนึ่งคน เซียนจริงแท้หนึ่งคน
ทว่าต่อให้เยี่ยนจ้าวเกอ เฟิงอวิ๋นเซิง และเยี่ยนตี๋ยอมสละชีวิตก็ไม่มีความเป็นไปได้
สวีเฟยเป็นศิษย์ของสือเถี่ย รับสืบทอดวรยุทธ์ของสือเถี่ย
ถึงสือเถี่ยกับเยี่ยนตี๋จะมาจากสำนักเดียวกัน แต่จิตและความเข้าใจในวรยุทธ์มีความแตกต่างกันมากมาย
วรยุทธ์กว่างเฉิงของเยี่ยนจ้าวเกอเป็นวิถีเดียวกันกับเยี่ยนตี๋
เฟิงอวิ๋นเซิงสามารถทำให้ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด เพราะเทพมารกรอกศีรษะในตอนนั้น ต่อให้พูดถึงแหล่งกำเนิดวรยุทธ์กว่างเฉิงก็เป็นสายของฟู่เอินซู แตกต่างกับสวีเฟยอยู่ดี
สถานการณ์ที่เจี่ยหมิงคงกับฉู่หลีหลีเป็นศิษย์ของเฉินเสวียนจง หนำซ้ำต่างได้ผลักเปิดประตูเซียน สุดท้ายก็มีอยู่น้อยยิ่ง
หลักเหตุผลนี้ สือจวินความจริงเข้าใจเช่นกัน
เพราะแบบนี้ ขณะนี้บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี