เยี่ยนจ้าวเกอกระโดดออกมาจากในกรงขังเพลิงสีดำ ฝ่ามือพลิกรองเปลวเพลิงสีเหลี่ยมจัตุรัสกลุ่มหนึ่ง เขาใช้นิ้ววาดภาพกลางอากาศ ลำแสงหลายสายทิ้งร่องรอยไว้กลางอากาศ คงอยู่เนิ่นนานไม่ดับลง
ลำแสงตวัด เกิดเป็นกรงขังกรงหนึ่ง ปิดล้อมเพลิงสีดำ จากนั้นก็ผนึก
“ว่าอย่างไร” เฟิงอวิ๋นเซิงถาม
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “จะไม่ให้เศษสวะตัวนี้ตายดี”
เขาไม่ได้สูญเสียความมีเหตุผลไปเพราะความโกรธจริงๆ ต่อจากนี้จะทำอย่างไรก็มีความคิดแล้วเช่นกัน
ทว่าในใจของเยี่ยนจ้าวเกอมีเพลิงโทสะสุมอกอยู่
ก่อนหน้านี้คิดสร้างปัญหาให้อีกฝ่ายมาโดยตลอด ครั้งนี้ในที่สุดเฉินเฉียนหัวก็ตกมาอยู่ในมือตัวเอง เยี่ยนจ้าวเกอไหนเลยจะปล่อยไปง่ายๆ
“ข้าจะทำให้มันเสียใจว่าเกิดมาทำไม” เยี่ยนจ้าวเกอสายตาเย็นเยียบ
“มันสมควรรับโทษแล้ว” เฟิงอวิ๋นเซิงพยักหน้า
ในตอนที่นางกำลังมาถึงแล้วจับเฉินเฉียนหัวไว้ ยังไม่ทราบสถานการณ์ทางด้านสวีเฟยกับสือจวิน ดังนั้นจึงจับอีกฝ่ายไว้ก่อน
แต่ว่าเจตจำนงดาบอันชั่วร้ายจากหุบเหวโกลาหลสูญพอฟันลงก็ทำลายสรรพมรรคาสรรพวิชา เฟิงอวิ๋นเซิงทำลายพลังฝึกปรือรากฐานทั้งหมดของเฉินเฉียนหัว กำจัดความเข้าใจในหลักการวรยุทธ์มากมายทิ้ง ไม่ปรานีแม้แต่น้อย
ต่อมาก็ละเว้นชีวิตเฉินเฉียนหัว แต่ก็เพื่อให้เยี่ยนจ้าวเกอจัดการ
ขณะนี้ถึงแม้ไม่ทราบว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะจัดการเฉินเฉียนหัวอย่างไร แต่เฟิงอวิ๋นเซิงก็เพียงกล่าวว่าสมน้ำหน้า
นางกังวลถึงปัญหาอีกอย่างมากกว่า “ทางด้านศิษย์พี่สวีมีความหวังจริงๆ หรือ”
“ถ้าข้าคาดไว้ไม่ผิด สมควรยังมีหวัง” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยเสียงทุ้ม
เฟิงอวิ๋นเซิงถามด้วยความหวาดวิตก “ศิษย์พี่สวีกลืนมุกผ่าดิน กระตุ้นอาคมผนึกมาร สะกดสังหารมารดินโบ่ว ส่งมันสู่การดับสูญ แต่ถึงแม้ท่านจะใช้ลายมือแห่งแผ่นดินติดไว้ ศิษย์พี่สวียังคงไม่ใช่ร่างวิญาญดินโบ้วกี่ มุกผ่าดินแม้แฝงปราณวิญญาณดินโบ่ว แต่กลับสะกดปราณวิญญาณดินโบ่วได้ดีที่สุด อาจก่อเกิดการทำลายขนาดใหญ่”
คนอื่นๆ อาจไม่ทราบว่าเยี่ยนจ้าวเกอคิดอะไร
ทว่าในตอนที่เฟิงอวิ๋นเซิงได้ยินเยี่ยนจ้าวเกอบอกให้ไปยังแดนสุขาวดีบัวขาว ก็เข้าใจในทันที
ความหวังของเยี่ยนจ้าวเกออยู่ที่ซุนหงอคง มหาเทวะเสมอฟ้าผู้ถูกสะกดอยู่ใต้เขาเบญจคีรี ในแดนขวางกั้นแห่งแดนสุขาวดีบัวขาว!
มหาเทวะเสมอฟ้าเคยบอกว่าต้องการให้ปีศาจวานรที่เป็นเผ่าเดียวกับเขา หรือคนที่ร่างแฝงวิญญาณดินโบ่วกี้มารับกายทองของเขา ช่วยให้เขาหลุดจากการคุมขัง
ดังนั้นพอเยี่ยนจ้าวเกอบอกว่าจะไปแดนสุขาวดีบัวขาว เฟิงอวิ๋นเซิงก็คิดถึงเหตุผลข้อนี้ทันที
เพียงแต่ว่านางมีความลังเลอยู่บ้าง
สวีเฟยที่กลืนมุกผ่าดิน สังหารมารดินโบ่ว ไม่ใช่คนที่ร่างแฝงวิญญาณดินโบ่วกี้ ต่อให้เพิ่มลายมือแห่งแผ่นดินเข้าไปก็ยังไม่ใช่ ไม่อย่างนั้นเมื่อครู่นางคงคิดถึงวิธีนี้ออกทันที
ก่อนหน้านี้เยี่ยนจ้าวเกอบอกให้ไปยังแดนสุขาวดีบัวขาว เฟิงอวิ๋นเซิงไม่ได้กล่าวอะไรมากความก็ออกเดินทางทันที ทว่าในใจจะมากจะน้อยก็ยังมีความไม่มั่นใจอยู่บ้าง ดังนั้นจึงถามเยี่ยนจ้าวเกอขณะเดินทาง
“มิผิด หากว่ามีแค่นี้คงไม่มีผลจริงๆ” เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ออกแรง ปล่อยให้เฟิงอวิ๋นเซิงเป็นคนนำไป เขานำรูปสลักหินที่เกิดจากตัวสวีเฟยออกมา
ยามมองรูปสลักหินสีเทาอมเขียว เยี่ยนจ้าวเกอระมัดระวังยิ่ง หลังจากศึกษาอย่างละเอียด จึงยื่นนิ้วออกมาสลักตราทิ้งไว้กลางหลังรูปปั้นหินที่เกิดจากตัวสวีเฟย
ลวดลายยันต์อาคมที่โบราณและซับซ้อนสายหนึ่งปรากฏขึ้นด้านหลังรูปปั้นหิน จากนั้นเยี่ยนจ้าวเกอก็ยื่นมืออกมากดลงบนลายมือแห่งแผ่นดิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี