เฟิงอวิ๋นเซิงที่ช่วยดึงดูดความสนใจ เคลื่อนไหวในทันที ก้าวข้ามการดำรงอยู่ของ ‘กำแพง’ เข้าสู่แดนสุขาวดีบัวขาว
แทบจะเป็นในพริบตาเดียว บนพุทธเกษตรที่มีขนาดไม่ชัดเจนในแดนสุขาวดีบัวขาวมีแสงส่องระยิบระยับ
ในความว่างเปล่าอันมืดมิด บัวขาวหลายดอกเบ่งบานอย่างไร้เค้าลาง พุ่งเข้ามาหาเฟิงอวิ๋นเซิง
ตอนนี้แดนสุขาวดีบัวขาวกำลังทำสงครามใหญ่กับโถงเซียน
เป็นเพราะว่าความได้เปรียบก่อนหน้า ยึดครองโลกนับพันหนับหมื่นบนแดนเซียนแปดร้อยแดนเซียนของโถงเซียนไว้ได้ ปัจจุบันสนามรบหลักที่อีกฝ่ายยื้อยันกันจึงอยู่บนพื้นที่ของโถงเซียนในอดีต
ยอดฝีมือจำนวนมากของแดนสุขาวดีบัวขาวเคลื่อนทัพไปโถงเซียน ในท้องที่จึงดูว่างเปล่าอยู่บ้าง
กระนั้น ก่อนหน้านี้ถูกยุทธวิชัยพุทธะกับยอดฝีมือแดนสุขาวดีตะวันตกคนอื่นๆ เจาะทะลวงมาแล้วรอบหนึ่ง จนต้องพึ่งพาราชาปีศาจกระทิงมหาเทวะสยบฟ้าจากเผ่าปีศาจ ค่อยเอาชนะมาได้ ทำให้แดนสุขาวดีเสียหน้าอยู่บ้าง
ดังนั้นครั้งนี้พอมีศัตรูภายนอกบุกรุก ก็พลันมีคนมาจัดการทันที
เป็นเพราะว่าสงครามก่อนหน้า ในสถานการณ์ที่ยากจะใช้พลังทั้งหมด เฟิงอวิ๋นเซิงจำเป็นต้องสู้อย่างระมัดระวัง
ประกายดาบสีดำฟันทำลายนภา ทะลวงบัวขาวดอกหนึ่ง จากนั้นก็ออกห่างไปไกล
แสงพุทธหลายสายไล่ตามติด ขณะเดียวกันบัวขาวหลายดอกก็ปรากฏในความว่างเปล่า หมายจะสกัดเส้นทางของเฟิงอวิ๋นเซิง
เยี่ยนจ้าวเกอฉวยโอกาสนี้ พุ่งเข้าไปในจักรวาลของแดนสุขาวดีบัวขาวแห่งนี้ เขาซ่อนร่าง ข้ามมิติหลายชั้น มุ่งหน้าสู่แดนขวางกั้น
ตอนมาถึงแดนขวางกั้น ตรงหน้าพลันมีแสงพุทธสาดส่อง
บรรพชิตศาสนาพุทธระดับคะเตสองท่านปรากฏกาย พอเห็นเยี่ยนจ้าวเกอที่มาถึงตรงหน้าชัด สีหน้าฉายแววตกใจ “เป็นโยม?”
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ตอบ บนร่างมีประกายกระบี่สีดำสาดแวบขึ้น ทะลวงมิติเวลา มาถึงตรงหน้าคนทั้งสองในพริบตา
แทบไม่มีเวลาให้อีกฝ่ายโต้ตอบ เยี่ยนจ้าวเกอกางสองแขน ฟันฝ่ามือและต่อยหมัดออก ทางหนึ่งใช้ธงเบิกฟ้าตัดคอ ทางหนึ่งใช้รอยตราพลิกนภาขยี้กะโหลก
ขณะที่พุ่งผ่านอีกฝ่าย บรรพชิตศาสนาพุทธสองท่านก็มรณภาพ ในร่างของพวกท่านมีแสงพุทธดีดออก เหมือนกับกำลังจะบินไปบนฟ้า ทว่าถูกเยี่ยนจ้าวเกอครอบฝ่ามือ ดับลงในความโกลาหล ร่องรอยหายไป
เยี่ยนจ้าวเกอเข้าไปในแดนขวางกั้น ตรงไปยังเขาสองเขตแดน
ตราผนึกยังคงอยู่บนเขาสองเขตแดน เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกตึงมือ โดยเฉพาะครั้งนี้ไม่มีเฟิงอวิ๋นเซิงช่วยเหลือ กระนั้นหลังจากมีประสบการณ์ในครั้งก่อนก็คุ้นเคยกับทุกอย่างดี ใช้เวลาไปสักพักในที่สุดก็มาถึงใต้ยอดเขาในตำนานลูกนั้น
ตราผนึกยังคงมีสองชั้น ตราผนึกชั้นที่อยู่ด้านนอกยังคงเงียบสงัด ไม่ส่งผลใดๆ ต่อผู้มาจากภายนอกเช่นเยี่ยนจ้าวเกอ
แต่ว่าทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ในเงื่อนไขที่เยี่ยนจ้าวเกอไม่แตะต้องตราผนึก และไม่วางแผนช่วยเหลือมหาเทวะเสมอฟ้าออกมา ไม่อย่างนั้นตราผนึกที่มาจากพระยูไลชั้นนี้ก็จะเป็นร่องน้ำใหญ่ที่ยากจะข้ามผ่าน
มาถึงส่วนลึกของภูเขา เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกได้ว่ามีดวงตาคู่หนึ่งกำลังมองเขาอยู่
มีเงาพุ่งลงมาจากฟ้า ใบหน้าเป็นขน ปากงุ้ม มือถือกระบองสารพัดนึก เป็นภาพฉายของซุนหงอคงมหาเทวะเสมอฟ้าบนที่แห่งนี้
“เด็กน้อยผู้นี้ ทำข้าเหล่าซุนรอนานนัก” วานรร้องขึ้น
เยี่ยนจ้าวเกอกอดรูปสลักหิน กล่าวว่า “นับว่าไม่ทำท่านผิดหวัง”
“เจ้ารับบาดเจ็บแล้ว?” มหาเทวะเสมอฟ้ากวาดมองร่างเยี่ยนจ้าวเกอ
ก่อนหน้าตอนสู้กับยุทธวิชัยพุทธะ ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนพังทลาย ยุทธวิชัยพุทธะได้รับบาดเจ็บ แต่คนที่กางค่ายกลก็ไม่ได้มีสภาพดีกว่า แทบทุกคนล้วนเต็มไปด้วยบาดแผล
ไม่เพียงแต่หลิงชิงที่ถูกสารีริกธาตุของยุทธวิชัยพุทธะจู่โจม และเกาชิงเสวียนที่ร่างกลายเป็นกระบี่จะลำบากเท่านั้น เยี่ยนจ้าวเกอ อวี่เยี่ย หลงเสวี่ยจี้ นักพรตอวิ๋นเจิ้งที่ควบคุมค่ายกลก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี