“มิน่าข้าถึงไม่ได้ยินข่าวอะไรเลย” มารเงากล่าว “เพียงหวังว่าเขาจะไม่ซ้ำรอยกับครั้งก่อน”
การคืนชีพขึ้นในครั้งก่อนของมารทองแก ร่างสถิตคืออินสือหยาง จอมยุทธ์โถงเซียน
อินสือหยางต่อสู้กับเยี่ยนซิงถางปู่ของเยี่ยนจ้าวเกอ ยินยอมกลายเป็นมาร กลายเป็นมารกระบี่ ร่างแปลงของมารทองแกยุคใหม่
จอมมารใช้ร่างสถิตคืนชีพ ร่างสถิตกลายเป็นมาร มารชำระสรรพสัตว์ แม้ยังคงรักษาความทรงจำและสิ่งที่ได้เรียนรู้ในตอนแรกได้ ทว่าไม่ว่าจะเป็นสัญชาตญาณหรือความรู้ความเข้าใจต่างเข้าสู่วิถีมาร
แต่ด้านในอาจยังมีเรื่องไม่คาดฝันบางอย่าง
ในเงื่อนไขที่ไม่ต่อต้านสัญชาตญาณและความรู้สึกนึกคิดของมารร้าย ความทรงจำและนิสัยของร่างสถิตจะได้รับการรักษาไว้ ส่งผลต่อการตัดสินและการแยกแยะในเรื่องบางเรื่องของมารร้ายไม่มากก็น้อย
ดังนั้นหลังจากมารกระบี่อินสือหยางในตอนนั้นกลายเป็นมารแล้ว ไม่ให้รอตัวเองฟื้นฟูพลังฝึกปรือขึ้นสู่ชั้นมหาชาลจากเทพมารกรอกศีรษะ ก็ได้พบเยี่ยนซิงถาง ไม่ได้หลบหนี กลับสู้ตายถึงที่สุด
สุดท้ายเทพกระบี่สังหารมารกระบี่ อินสือหยางตายด้วยกระบี่ของเยี่ยนซิงถาง เพิ่งฟื้นคืนชีพไม่ทันไรก็ดับสูญลงอีกครั้ง
นพยมโลกได้แต่ยอมกล้ำกลืนผลลัพธ์ มารทองแกดับสูญหลายพันปี ที่แล้วมาไม่เคยคืนชีพ
“ครั้งนี้ร่างสถิตที่เหมาะกับเขาเป็นผู้ใด มีแต่ตัวเขาที่ทราบ ข้าเองก็ไม่มั่นใจ” มารจิตแรกเริ่มส่ายหน้าพลางกล่าว “ดังนั้นสภาพการณ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร ตอนนี้ไม่อาจบอกกล่าวได้ กระนั้นการเคลื่อนไหวอย่างลับๆ ก็ใช่ว่าจะไม่ดี ถ้าหากเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันแล้วโจมตีโดนในคราวเดียวได้ เช่นนั้นความหวังที่จะสำเร็จก็มีมากยิ่ง”
มารจิตแรกเริ่มถอนใจคำหนึ่ง “ที่น้ำกุ่ยกับดินโบ่วพ่ายแพ้ เป็นเพราะไม่อาจเผด็จศึกในทันที ลากถ่วงเวลานานเกินไป”
“ดังนั้นพวกเราต้องถ่วงเวลาเซียนสวรรค์มหามรรคาจากเต๋า พุทธ กับปีศาจต่อหรือ” มารเงากล่าวอย่างราบเรียบ “สถานการณ์ในตอนนี้ถ้าไม่ระวังแม้แต่นิดเดียว ท่านกับข้าล้วนอาจถูกจัดการทิ้งที่นี่ ถึงท่านจะไม่กลัว แต่การเกิดใหม่จะต้องใช้เวลา”
มารจิตแรกเริ่มกล่าวด้วอยอยย้ม “รับมือสุดกำลังเถอะ ทองแกเริ่มลงมือแล้ว ไม่มีทางปล่อยพวกเรารอนานเกินไป”
เขาหันไปมองมิติไร้สิ้นสุดอันดำสนิท “รีบเริ่มเถอะ”
…
พวกเยี่ยนจ้าวเกอข้ามผ่านมิติหลายชั้น กลับจักรวาลฟ้าฟื้น
การเคลื่อนไหวบนแดนสุขาวดีบัวขาวดึงดูดความสนใจของผู้ยิ่งใหญ่จำนวนไม่น้อย ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่เผยตำแหน่งของจักรวาลฟ้าฟื้น พวกเยี่ยนจ้าวเกอจึงจำเป็งต้องระมัดระวังตัวยิ่ง ลบร่องรอยของตัวเอง กำจัดความเป็นไปได้ที่จะถูกสะกดรอย
การอ้อมทาง การเสแสร้ง การสร้างภาพลวงย่อมขาดไปไม่ได้
เยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่เบื่อหน่าย ร่างจริงเพิ่งข้ามภัยพิบัติสัจพิศวง จำเป็นต้องหล่อเลี้ยงพอดี
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกรองรับกายทองมหาเทวะ จำเป็นต้องศึกษาฝึกฝนต่อเช่นกัน
ในสงครามการคืนชีพของมารน้ำกุ่ยและมารดินโบ่วเมื่อก่อนหน้า เฟิงอวิ๋นเซิงสิ้นเปลืองพลังจิตรุนแรงมาก
ภายหลังพอถึงแดนสุขาวดีบัวขาวก็ชิงเวลาให้แก่เยี่ยนจ้าวเกอ ต่อสู้กับยอดฝีมือศาสนาพุทธ ภายใต้การต่อสู้ติดต่อกัน ร่างกายยังพอทนได้ แต่ว่าด้านจิตใจต้องป้องกันการโจมตีจากสำนึกมารจึงเริ่มถึงจำกัด จำเป็นต้องพักฟื้นปรับพลัง
ก่อนหน้านี้สืบเนื่องจากเพื่อช่วยเหลือสวีเฟย จำเป็นต้องแข่งกับเวลา กัดฟันทน ไม่อาจผ่อนคลายได้ ตอนนี้ในที่สุดก็สามารถผ่อนคลายจิตใจ สงบใจรักษาหล่อเลี้ยงได้แล้ว
สวีเฟยกับพ่านพ่านศึกษาความลี้ลับไร้สิ้นสุดในกายทองมหาเทวะอย่างละเอียดเหมือนร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก
เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งศึกษาวิชา ทางหนึ่งทักทายเฉินเฉียนหัวเป็นระยะๆ รีดเค้นการเก็บเกี่ยวที่หลากหลายจากเขาได้ไม่น้อย
อืม สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว นี่เป็นเครื่องถอนเงินร่างมนุษย์ และถุงเก็บสมบัติพูดได้ที่มีคุณภาพไม่เลว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี