คนทั้งสองเงียบงันไม่พูดอะไร แต่จู่อวี่เยี่ยพลันอุทานขึ้น
“เป็นอะไรหรือ” เนี่ยจิงเสินถาม
อวี่เยี่ยขมวดคิ้ว “ข้ารู้สึกเหมือนว่าฝักกระบี่ของเทวกษัตริย์วิเศษคณานับกำลังอยู่ใกล้ๆ พวกเรานี้เอง…”
หลังจากได้รับมรดกของเทวกษัตริย์วิเศษคณานับ ฝึกฝนคัมภีร์โกลาหลสูญกับค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ตัวนางเกิดความพิสดารขึ้นหลายส่วน สามารถสัมผัสได้ถึงฝักกระบี่ของเทวกษัตริย์วิเศษคณานับที่อยู่บนมือจางปู้ซวี
กลับกัน จางปู้ซวีก็สามารถอาศัยฝักกระบี่สัมผัสตำแหน่งของนางได้เช่นกัน ระยะห่างระหว่างสองฝ่ายยิ่งใกล้ ความรู้สึกก็ยิ่งรุนแรงแจ่มชัด
ขณะนี้อวี่เยี่ยมีสีหน้าเคร่งขรึม เป็นเพราะสัมผัสได้ว่าฝักกระบี่กำลังเข้าใกล้นางกับเนี่ยจิงเสิน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจางปู้ซวีที่ถือฝักกระบี่เข้าใกล้ทั้งสองเข้ามาเรื่อยๆ แล้ว
อีกฝ่ายไม่ยอมตัดใจอย่างที่คิดไว้ ไล่ล่าค้นหาพวกเขามาโดยตลอด เป้าหมายไม่ต้องกล่าวก็เป็นที่ทราบได้
ในโลกนี้มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ฝึกฝนคัมภีร์โกลาหลสูญได้ อวี่เยี่ยชิงตำแหน่งนี้ได้ก่อนก้าวหนึ่ง จางปู้ซวีมีแค่คัมภีร์ลับอยู่ในมือกลับไม่อาจฝึกฝนได้ อวี่เยี่ยต้องหายไปจากโลกใบนี้เท่านั้น จางปู้ซวีจึงจะแทนตำแหน่งได้
ที่ว่าหายไปคือสามารถหลุดพ้นได้เหมือนเทวกษัตริย์รัตนวิเศษ
ทั้งสามารถเป็น…ความตาย!
“พวกเราไป” เนี่ยจิงเสินไม่กล่าวอะไรมาก ฝืนกระตุ้นพลังของตัวเอง เพิ่มความเร็วขึ้นอีกขั้น
“ไปแบบนี้สลัดไม่หลุดแน่” อวี่เยี่ยว่า “แยกกันไปเถอะ เขาเพียงสัมผัสได้แค่ตำแหน่งของข้า แต่หาท่านไม่เจอ พวกเราแยกกันแบบนี้จะมีคนหนีพ้น อย่างน้อยก็ไปตามหาพวกท่านยายกับศิษย์น้องเยี่ยนมาแก้ไขวงล้อมได้”
เนี่ยจิงเสินไม่หยุดลง มุ่งหน้าต่อไป “ถึงอย่างไรจางปู้ซวีก็เป็นผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ อยู่ในระดับสูงสุดของเซียนลี้ลับ สี่ปราณรวมเป็นวายุ เซียนลี้ลับธรรมดาเทียบเคียงไม่ได้ ตอนนี้เจ้าบาดเจ็บสาหัส ยากจะแสดงพลังออกมาทั้งหมด หากเจอเขาคนเดียว มีผลร้ายมากกว่าผลดี”
เขาไม่ยอมให้นางแย้ง “สองคนอยู่ด้วยกันบางทีอาจมีวิธีรับมือ หากถ่วงเวลาได้สักเล็กน้อย จ้าวเกอยังมีพวกผู้อาวุโสเกาคงจะหาเจอ”
อวี่เยี่ยมองใบหน้าที่เป็นเหลี่ยมเป็นสัน ทั้งยังเย็นชาแน่วแน่ของเขา สุดท้ายกล่าวเสียงเบา “ได้ อยู่ด้วยกัน”
คนทั้งสองทางหนึ่งหาวิธีทิ้งยันต์อาคมตราคาถาที่สร้างขึ้นพิเศษไว้ เพื่อให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอค้นหาเบาะแสที่พวกเขาเหลือไว้ ทางหนึ่งหลบซ่อนเคลื่อนไหวในความว่างเปล่า
การจะอ่านยันต์อาคมตราคาถาเหล่านี้ ต้องมีทักษะพิเศษ ไม่กลัวว่าจะตกไปอยู่ในมือของจางปู้ซวี
จางปู้ซวีออกจากมรกตท่องฟ้าไปนานแล้ว ไม่ทราบถึงทักษtที่เกี่ยวข้อง ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้
เดินทางได้พักหนึ่ง สีหน้าของอวี่เยี่ยก็ยิ่งมายิ่งเคร่งขรึมขึ้น ครู่ต่อมานางพลันตวาดว่า “มาแล้ว!”
แทบจะเป็นในเวลาเดียวกัน ในความว่างเปล่าด้านหลังพวกเขาพลันมีเสียงพิณดังขึ้น ไพเราะเพราะพริ้ง
ทว่าเสียงพิณเหมือนกลายเป็นระลอกคลื่นที่จับต้องได้หลายผืน กระจายไปทั่ว ความว่างเปล่าในจักรวาลพังทลาย
ในระลอกคลื่นที่อยู่ในลักษณะโค้ง กลับเผยเจตจำนงกระบี่ที่คมกล้า ทำให้คนเกิดความรู้สึกวิญญาณถูกเจาะทะลวง
ระลอกคลื่นขยายตัว พร้อมพุ่งมาทางด้านหลังพวกเนี่ยจิงเสินกับอวี่เยี่ยด้วยความเร็วสูง
อวี่เยี่ยสีหน้าเคร่งขรึม ในดวงตาสองข้างพลันปรากฏปรากฏการณ์พิสดารขึ้น สรรพเรื่องราวสรรพชีวิต ธรรมชาติทั้งหมด ความหลากหลายในโลกหล้าพังทลายลง สุดท้ายก็กลายเป็นความเงียบสงัด
ภาพ การดำรงอยู่ นิยาม และความหมายของความตาย การดับสูญและจุดสิ้นสุดล้วนเจอกับจุดจบร่วมกัน!
ทุกสิ่งกลับสู่ความไม่มี กลับสู่ความโกลาหล สูญเสียนิยามของจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด
ราวกับความโกลาหลและความว่างเปล่าไม่เปลี่ยนแปลงตลอดกาล
นางหมุนตัวออกกระบี่ ประกายกระบี่ที่พร่าเลือนโกลาหล ขมุกขมัวไม่ชัดเจนสว่างขึ้น ตัดระลอกคลื่นหลายกลุ่มที่ไล่หลังมา
ราวกับคลื่นทะเลหลายกลุ่มที่เชื่อมกันไม่ขาดสายกลับถูกคนแหวกออก
น้ำทะเลแยกไปสองฟากข้าง ตรงกลางกลายเป็นท้องฟ้าและผืนดิน เห็นก้นทะเลได้โดยตรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี