ร่างจริงกับร่างแยกของเกาชิงเสวียนเชื่อมโยงสภาพจิตถึงกันโดยสิ้นเชิง จึงบรรลุความสอดคล้องที่สมบูรณ์แบบ
หากเปลี่ยนเป็นนางกับหลงซิงเฉวียนสามีภรรยาร่วมมือกัน ต่อให้จะสอดประสานกันได้ดีขนาดไหน อย่างมากสุดก็เป็นการร่วมมือผสานจู่โจม ประสานงานกันและกัน
ทว่าคิดจะหลอมรวม ประสานเสียงวิชากระบี่สายเหนือพิสุทธิ์ชนิดหนึ่ง กับวิชากระบี่สายหยกพิสุทธิ์ชนิดหนึ่งด้วยกันให้ใกล้เคียงกับการสร้างวิชากระบี่ชนิดใหม่ เกาชิงเสวียนสามีภรรยายังทำไม่ได้เช่นกัน
ทว่าเนี่ยจิงเสินกับอวี่เยี่ยทำได้แล้ว!
ก่อนหน้านี้ตอนพูดถึงกษัตริย์เถาหลี่อิง ระหว่างคนทั้งสองเหมือนมีความเหินห่างที่ไร้รูปร่างสายหนึ่งกั้นอยู่
ทว่าวินาทีนี้ ความเหินห่างที่ไร้รูปร่างนี้หายไปชั่วคราว
การร่วมมือกันของคนทั้งสองสมบูรณ์แบบไร้รอยตำหนิ ถึงขั้นเทียบได้กับการร่วมมือกันระหว่างร่างจริงและร่างแยกของเกาชิงเสวียนซึ่งเป็นหนึ่งวิญญาณสองร่าง!
ขณะนี้จางปู้ซวี กษัตริย์อนันต์ที่เคยต่อสู้กับพวกเขาในที่ฝังศพของเทวกษัตริย์วิเศษคณานับรับมือไม่ทัน
‘พวกเขาสองคนยิ่งมายิ่งสอดผสานกัน ความคิดจิตใจเชื่อมโยมถึงกัน บรรลุถึงขั้นนี้แล้ว? เป็นตอนใช้วรยุทธ์จึงเป็นเช่นนี้ หรือปกติก็เป็นเช่นนี้’ จางปู้ซวีรีบร้อนเปลี่ยนกระบวนท่า ‘ศิษย์พี่เกากับหลงซิงเฉวียนก็ยังทำถึงขั้นนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ! รอเดี๋ยว! อวี่เยี่ยเป็นวิญญาณฟ้าแฝง ศิษย์ของเยว่เจิ้นเป่ยผู้นี้ฟังว่าเป็นบรรพครรภ์ก่อนกำเนิด สองอย่างนี้พอเจอกันถึงกับมีความน่าอัศจรรย์ขนาดนี้เลยรึ’
จางปู้ซวีเป็นคนที่ผ่านมาแล้วร้อยสมรภูมิ แม้นแตกตื่นแต่ไม่ลนลาน
การร่วมมือกันระหว่างเกาชิงเสวียนร่างจริงกับร่างแยก ถ้าหากว่าต่างเป็นระดับเซียนจริงแท้ ยามผสานกระบีใช่ว่าจะเหนือกว่าเขาที่สี่ปราณรวมเป็นวายุ อยู่ในขั้นสูงสุดของระดับเซียนลี้ลับ
ยิ่งไปกว่านั้นเนี่ยจิงเสินกับอวี่เยี่ยก็มีอาการบาดเจ็บติดตัว
จางปู้ซวีไม่กล้าคิดประมาทศัตรูอีก โบกนิ้วทั้งห้า ประกายกระบี่หลายสายฟันลง
สีแดง ดำ ขาว เขียวผสมผสาน บ้างผสมกลุ่มสองสี บ้างผสมกลุ่มสามสี บินวนเวียนตามลำดับ
ต่อจากประกายกระบี่ เสียงที่แตกต่างกันก็ดังขึ้น ราวกับบทเพลงที่ยิ่งใหญ่บทหนึ่ง
ประกายกระบี่ยิ่งใหญ่ราวกับคลื่นทะเล ซัดหาพวกเนี่ยจิงเสินอย่างมืดฟ้ามัวดิน
พวกเนี่ยจิงเสินกับอวี่เยี่ยเผชิญสภาวะกระบี่อันน่ากลัว ต่างไร้ความหวาดหวั่น
เนี่ยจิงเสินเปลี่ยนแปลงประกายกระบี่ นอกจากแสดงสภาพการเปิดฟ้า ยังมีผืนดินไร้สิ้นสุดปรากฏ พาดขวางระหว่างก่อนกำเนิดและหลังกำเนิดเช่นกัน
ผืนดินเปิดฟ้านี้เหมือนกับรองรับสนับสนุนสรรพวัตถุได้ และเหมือนเกือบสามารถกดทับบดขยี้โลกทั้งใบได้!
ความปราดเปรียวสุดขีดกับความหนักอึ้งสุดขีดตัดกันแล้วกระโดดออก เปลี่ยนแปลงไม่หยุดยั้ง เหมือนเป็นสิ่งเดียวกัน น่าอัศจรรย์ไร้สิ้นสุด ทำให้กระบี่หยกเบิกนภาในตอนแรกเกิดความสามารถใหม่
คัมภีรกระบี่ลงทัณฑ์เซียนที่อวี่เยี่ยใช้ก็บังเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
ประกายกระบี่สีเขียวเดี๋่ยวเปิดเดี๋ยวปิด เดี่ยวรวมเดี๋ยวกระจาย บางครั้งร่วมกันเป็นหนึ่ง บางครั้งกลายเป็นแสงสีเขียวเป็นจุดๆ
แสงสีเขียวทุกจุดเหมือนกับฝุ่งผงและเม็ดข้าวโพด มองไปไม่สะดุดตา ทว่าแสงสีเขียวทุกจุดนี้เหมือนกับใส่เครื่องหมายจบประโยค ประกาศการสิ้นสุดแก่กระบวนการพัฒนาของวัตถุเรื่องราวอย่างหนึ่งบนโลกนี้
ขณะที่เดี๋ยวรวมเดี๋ยวกระจาย กระบี่ลงทัณฑ์เซียนของอวี่เยี่ยก็มีอานุภาพไร้สิ้นสุด และพิสดารแยบยลขึ้นกว่าเดิม
อัจฉริยะเชิงกระบี่แห่งยุคทั้งสองใช้สิ่งที่ตัวเองถนัด กลับสอดประสานกันได้อย่างลงตัวสุดขีด
จางปู้ซวีที่ก่อนหน้านี้ได้สู้กับพวกเขา ทราบถึงความล้ำเลิศในขีดความสามารถและพรสวรรค์ของพวกเขาอยู่ลึกๆ เพียงแต่ยามนี้สองคนผสานกระบี่คู่ เชื่อมกระบี่ร่วมมือกันจู่โจม สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าแก่ผู้คนกว่าเดิม
สำหรับจางปู้ซวี โชคดีที่คู่ต่อสู้ที่อ่อนเยาว์ตรงหน้าต่างบาดเจ็บสาหัส เขาจึงเคลื่อนคมเหลือที่ว่าง ยึดครองความได้เปรียบได้
ทว่าภายใต้การร่วมมือกันของเนี่ยจิงเสินกับอวี่เยี่ย ยังคงมีโอกาสรับมือ สู้พลางถอยพลาง
จางปู้ซวีลอบขมวดคิ้ว เขากล้ายืนยันว่าพวกเยี่ยนจ้าวเกอกับเกาชิงเสวียนที่เป็นพวกเดียวกันกับเนี่ยจิงเสินและอวี่เยี่ยก็กำลังตามหาตัวพวกเขาสองคนเช่นกัน หากเวลาผ่านไปนาน โอกาสของตนมีแต่จะยิ่งมายิ่งน้อยลง
คิดถึงตรงนี้ พร้อมกับที่จางปู้ซวีใช้มือขวาออกกระบวนท่า เขาสะบัดแขนเสื้อข้างซ้าย ในมือพลันเพิ่มฝักกระบี่ฝักหนึ่ง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี