ขณะนี้เนี่ยจิงเสินออกหนึ่งกระบี่ กระบี่แปลงเป็นโกลาหลครอบคลุมเขากับอวี่เยี่ย บังประกายกระบี่ของจางปู้ซวี
กระบี่เทพสายเหนือพิสุทธิ์ที่ดุร้ายล้ำเลิศฟันลงบนความโกลาหลอันขมุกขมัว เกิดระลอกคลื่นขึ้นส่วนหนึ่ง
วินาทีต่อมาระลอกคลื่นสลาย ทุกอย่างเป็นอย่างเดิม
สี่กระบี่รัตนา ส่งธรรมชาติสู่การดับสูญ เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนจากมีเป็นไม่มี
แต่ว่าถ้าตอนแรกเป็นความว่างเปล่า จะกล่าวถึงการดับสูญได้อย่างไร
‘กระบี่…หยก...ไร้ขอบเขตหรือ’ จางปู้ซวีรู้สึกเลวร้ายถึงขีดสุด ‘เยี่ยนซิงถางอีกคนหนึ่ง ถึงขั้นยังเหนือกว่าด้วย…’
ตอนที่เยี่ยนซิงถางกับหลงซิงเฉวียนศิษย์พี่ศิษย์น้องใช้กระบี่สยบมรกตท่องฟ้า เขาเป็นผู้ประสบเหตุการณ์ด้วยตัวเอง
เวลาล่วงเลยถึงบัดนี้ ทุกอย่างในอดีตยังคงจำได้เป็นอย่างดี กระนั้นตอนนี้เหมือนกับอดีตปรากฏขึ้นใหม่
จางปู้ซวีสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง บนใบหน้าเปลี่ยนเป็นไร้ความรู้สึก สายตาสงบนิ่ง ไม่กล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว ออกกระบี่จู่โจมอย่างดุดันติดต่อกันไม่ขาดสาย แข็งแกร่งไม่ย่อหย่อน
สองฝ่ายท่านมาข้าไป สู้กันอีกหลายเพลง เนี่ยจิงเสินครางเสียงหนักๆ คำหนึ่ง บนใบหน้าที่ซีดขาวปรากฏสีแดงฝาดที่ผิดปกติ
อาการบาดเจ็บก่อนหน้าถูกกระตุ้นให้กำเริบ เนี่ยจิงเสินพลันออกกระบี่ช้าลง สภาพความโกลาหลหายไป ไม่ได้มีความพิสดารของการไร้หน้าไร้หลังในการไร้ขอบเขตแรกเริ่มเหมือนเมื่อครู่อีก
ประกายกระบี่ของจางปู้ซวีพลันอาศัยสภาวะทำลายวงล้อม
แต่ว่าทันใดนั้นเอง อวี่เยี่ยที่ถูกเนี่ยจิงเสินบังไว้ด้านหลัง กลับหมุนตัวมาฟันกระบี่หนึ่งใส่จางปู้ซวี
ก่อนหน้านี้เนี่ยจิงเสินใช้การตั้งรับแทนการโจมตี ตอนนี้หลังจากเขาถอนหลัง อวี่เยี่ยก็รับช่วงต่อ ใช้การโจมตีแทนการป้องกัน
ป้องกันตั้งรับสลับกัน ราวเมฆเคลื่อนน้ำไหล รวมเป็นหนึ่งกับธรรมชาติ
การผสานกระบี่คู่ของสองฝ่ายถูกทำลาย เจตจำนงกระบี่ของคนทั้งสองไม่ได้หลอมรวมประสานเสียงกันอีก ทว่าขณะนี้บรรลุถึงการร่วมมือกันอันสมบูรณ์แบบที่เป็นรูปเป็นร่างอย่างหนึ่ง
กระนั้นจางปู้ซวีไม่ได้สนใจการร่วมมือกันนี้ เพียงผลักดันสภาวะโจมตีของตัวเอง ประกายกระบี่พาดขวาง จากนั้นเสียงหงส์มังกรประสานเสียงก็ดังขึ้น ครอบคลุมจักรวาล
ทว่าในวินาทีต่อมา สีหน้าของเขาพลันจริงจังขึ้นมาก เป็นเพราะกระบี่นี้ของอวี่เยี่ยเกิดจากการผสานกันของปราณกระบี่หลายสาย ปราณสีขาวกระจายไปทั่ว สรรพวัตถุพังทลาย ไม่คงเหลืออยู่อีก
ปราณอันดุร้ายผนึกตัวเป็นกระบี่ แต่ว่าในปราณกระบี่สีขาวชุบด้วยแสงสีแดงก่ำชั้นหนึ่ง แสงสีแดงกะพริบ เคลื่อนย้ายมิติ ยากจะกะประมาณ
ทว่าทันใดนั้นเอง ปราณกระบี่สีดำหลายสายปรากฏ วนเวียนอยู่บนกระบี่สีขาวประกายแดงอย่างถี่ยิบราวกับเส้นด้าย
เส้นด้ายสายหนึ่งตัดผ่านความว่างเปล่า เหมือนกับชีวิตของสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนถูกสะบั้นทิ้ง
ขณะเส้นสายสีดำไร้สิ้นสุดพาดขวางตัดสลับ ปราณความตายเต็มเปี่ยม
สุดท้ายบนกระบี่สีขาว นอกจากเส้นสายสีดำกับแสงสีแดงแล้ว ยังมีประกายกระบี่สีเขียวปรากฏ สามารถทำลายทุกความแข็งแกร่ง ไม่ว่าไปที่ใดล้วนสะดวกราบรื่น
ประกายสีเขียวหั่นเฉือนหลักการมากมายของโลกเหมือนกับพ่อครัวแล่วัว ทำให้มันไม่คงอยู่อีก
“ใช้สี่กระบี่พร้อมกัน!?” จางปู้ซวีโพล่งออกมา
ในกระบี่นี้ของอวี่เยี่ยแฝงความน่าอัศจรรย์ของสี่สุดยอดกระบี่ กระบี่ลงทัณฑ์เซียน กระบี่ผนึกเซียน กระบี่ลวงเซียน กระบี่สังหารเซียนไว้พร้อมกัน!
แม้ว่าจะเป็นจางปู้ซวีที่อยู่ในระดับเซียนลี้ลับสงบนิ่ง ปัจจุบันก็ทำได้แค่ใช้สามกระบี่พร้อมกัน
กระบี่เจ็ดสายแห่งเหนือพิสุทธิ์ของเขาถึงแม้จะสามารถปล่อยประกายกระบี่สี่สีออกมาพร้อมกันได้ แต่อย่างมากผสมกันได้แค่กลุ่มละสามสี
อย่าว่าแต่เขา แม้แต่เกาชิงเสวียน ยายของอวี่เยี่ยที่แข็งแกร่งที่สุดในเจ็ดปราชญ์ท่องมรกต ในตอนที่ยังอยู่บนระดับเซียนจริงแท้นั้น อย่างมากสุดทำได้แค่ใช้สามกระบี่พร้อมกัน
พวกหลงเสวี่ยจี้ นักพรตอวิ๋นเจิ้ง และเฮ่อเหมี่ยนก็เป็นอย่างนี้เช่นกัน
ในบรรดายอดฝีมือที่ผงาดขึ้นหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ คนที่สามารถออกสี่กระบี่พร้อมกันในระดับเซียนจริงแท้ก่อนหน้านี้มีอยู่คนเดียว ก็คือตี๋ชิงเหลียนจักรพรรดิกระบี่ ย่าของเยี่ยนจ้าวเกอ
ในประวัติศาสตร์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คนที่ทำเรื่องนี้ได้สามารถงอนิ้วนับได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี