ตอนแรกเป็นคนในโถงเซียนออกค้นหา หมายจะจับกุมจอมยุทธ์สำนักเต๋าสายหลักที่อยู่ตัวคนเดียว
ขณะนี้จุดยืนของทั้งสองฝ่ายกลับสลับกัน พวกเยี่ยนจ้าวเกอเริ่มค้นหาจอมยุทธ์โถงเซียนที่อยู่ใกล้ๆ
ครั้งนี้ทางโถงเซียนมีเซียนกำเนิดสองคนออกโรง แต่ว่าคนหนึ่งในนี้เสียท่าด้วยมือของพวกเยี่ยนจ้าวเกอ
คนในเส้นทางนอกรีตคนอื่นๆ หลังจากได้รับข่าวต่างเริ่มรวมตัวกัน พวกเขาเดิมทีต่อสู้กันบนแดนสุขาวดีบัวขาว ยากจะส่งคนมามากกว่านี้ ตอนนี้เสียเปรียบ ทั้งยังไม่เห็นโอกาสจับปลาตอนน้ำขุ่น จึงเกิดความคิดถอยหนี
แต่ว่าขณะนี้พวกเยี่ยนกลับไม่ปล่อยปละละเว้นพวกเขา เริ่มค้นหาไล่ล่าไม่หยุด
อย่างเหนือความคาดหมาย ไม่ทันไรพวกเขาก็พบที่อยู่ของพวกจ้าวสวรรค์อัสนีเขียว
เป็นเพราะว่าอีกฝ่ายกำลังเกิดความขัดแย้งกับคนอื่นๆ ฝีมือสูสี ต่อสู้กันยากแยกแยะ
ในตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอรุดไปถึง เขาเห็นตรงหน้าเป็นสายฟ้าเขียวผืนหนึ่งกระจายถี่ยิบ กว้างใหญ่ไร้ขอบเขต
เทียบกับอานุภาพครอบคลุมทั่วฟ้า เหมือนกับผู้ปกครองแห่งหมื่นอัสนีแล้วของโลกที่จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋สร้างขึ้นแล้ว เซียนกำเนิดจากเส้นทางนอกรีตผู้นี้ย่อมสู้ไม่ได้ เหมือนกับหิ่งห้อยที่อยู่ต่อหน้าดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
แต่ว่าบนทะเลสายฟ้าไกลๆ กว้างใหญ่ไร้ขอบเขตมีสายฟ้าระเบิดขึ้นด้านในเป็นระยะ ราวกับนรกอัสนีผืนหนึ่ง ทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญแขวน
ในทะเลสายฟ้าเห็นเงาแสงหลายสายกำลังบินอยู่ไม่หยุด
เยี่ยนจ้าวเกอเพ่งตามองไป เห็นเงาแสงสองสายนั้นเป็นเผ่าปีศาจสองตน ตนหนึ่งในนี้รูปร่างคล้ายนกกระเรียนมงกุฎแดง แต่กลับมีขาข้างเดียว ตัวเป็นสีน้ำเงิน บนผิวมีลายสีแดง จะงอยปากยาวๆ เป็นสีขาว
นกประหลาดตัวนี้มีแสงสีแดงกะพริบอยู่ทั่วร่าง กลับไม่เห็นเปลวเพลิง อุณหภูมิอันร้อนแรงที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกไม่ดี ราวกับเป็นสัญญาณของอัคคีภัย
แสงสีแดงร้อนแรงปะทะกับสายฟ้าที่อยู่รอบๆ อย่างต่อเนื่อง ถึงกับคล้ายไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เหี้ยมหาญเป็นพิเศษ
เป็นวิหคเทพที่มีชื่อว่าปี้ฟาง
ปีศาจอีกตนหนึ่งมีรูปร่างเหมือนหมาป่า ร่างครึ่งบนเหมือนหมาป่า ด้านล่างเป็นคน ทั่วร่างเป็นขนสีดำวาว ลูกตาแดงฉาน กลืนกินหมอกสีดำหลายสายไม่หยุด
ปราณปีศาจของเขาแข็งแกร่งสู้ปี้ฟางที่อยู่ด้านข้างไม่ได้ จึงถูกสายฟ้าเขียวห้อมล้อม เกิดสภาพกันซ้ายโหว่ขวาอยู่บ้าง
แต่พอมีปี้ฟางที่อยู่ด้านข้างคอยช่วยเหลือก็รับมือได้ชั่วขณะ
ระดับพลังของปีศาจสองตนนี้ต่างเทียบได้กับยอดฝีมือมรรคายุทธ์ระดับเซียนลี้ลับสงบนิ่งของสำนักเต๋า
จ้าวสวรรค์อัสนีเขียวอาศัยระดับกดทับคน ยังรุกถอยได้ตามใจ
แต่ว่าปี้ฟางตนนั้นเหี้ยมหาญจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะวายุปีศาจของเขาทำอะไรร่างห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิดของเซียนกำเนิดไม่ได้ แรงกดดันของจ้าวสวรรค์อัสนีเขียวจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ที่แล้วมาเผ่าปีศาจช่วยเหลือแดนสุขาวดีบัวขาว ก่อนหน้านี้ได้เจอจ้าวสวรรค์อัสนีเขียวจากโถงเซียนโดยไม่ได้ตั้งใจ สองฝ่ายพลันทำสงครามกัน
ในตอนที่พวกเขากำลังสู้รบอย่างดุเดือด พวกเยี่ยนจ้าวเกอพลันปรากฏกาย สองฝ่ายที่สู้กันอยู่แตกตื่น
ไม่รอพวกเขาตอบสนอง เยี่ยนจ้าวเกอก็สืบเท้าออกก้าวหนึ่ง เข่นฆ่าเข้าสนามรบ
“ข้ามาหาเศษสวะเส้นทางนอกรีตผู้นี้ ผู้ไม่เกี่ยวข้องจงหลบไปด้านข้าง” เยี่ยนจ้าวเกอจ้องมองจ้าวสวรรค์อัสนีเขียว กล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
ถึงแม้จะเป็นคนที่กำลังสู้กับโถงเซียนอยู่ แต่ปีศาจสองตนก็ยังถูกสะกดความโกรธเพราะวาจาไร้ความเกรงใจเช่นนี้
ทว่าหลังจากที่พวกเขาเห็นเยี่ยนจ้าวเกอใช้ธงเบิกนภาทำลายทะเลสายฟ้า คำผรุสวาจที่มาถึงมุมปากก็เลี้ยวกลับเข้าไปในคอใหม่
“ตามสบาย” ปีศาจสองตนไม่กล่าวมากความ ออกจากวงต่อสู้ หลบไปอยู่ห่างๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี