พระพุทธเจ้าในแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีมองทีปังกรพุทธะ “ท่านยิ่งมายิ่งเผยความคมกล้า เกรงว่าไม่ใช่สิ่งที่พระอมิตาภพุทธเจ้าต้องการ”
ทีปังกรพุทธะยิ้ม “ถึงแม้ในเวลาส่วนใหญ่องค์พุทธเจ้าจะรักษาความบริสุทธิ์ไม่แก่งแย่ง แต่มีเรื่องที่ควรทำบางเรื่องยังต้องกระทำ อาตมาเพียงรับหน้าที่แทน องค์พุทธเจ้าล้วนเห็น ถ้าขัดต่อจิตเจตนาขององค์พุทธเจ้าจริงๆ อาตมาจะมาพบหน้าสหายร่วมเส้นทางท่านได้อย่างไร”
“ต่อให้ยึดถือว่าท่านพูดถูก แต่อาตมากลับไม่มีความคิดลงมือ” พระพุทธเจ้าในแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีกล่าวอย่างเรียบเฉย
ทีปังกรพุทธะเอ่ย “วันนี้อาตมามาพบสหายร่วมเส้นทาง ย่อมเตรียมของขวัญขอบคุณไว้แล้ว ไม่ทำให้สหายร่วมเส้นทางผิดหวังอย่างแน่นอน”
ว่าแล้วแสงพุทธบริสุทธิ์ด้านหลังศีรษะท่านก็สั่นไหววูบหนึ่ง สารีริกธาตุชิ้นหนึ่งลอยออกมาจากด้านในไฟตะเกียงของตะเกียงเครื่องเคลือบ
อีกฝ่ายมองดูสารีริกธาตุนั้น ในที่สุดก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย จับจ้องทีปังกรพุทธะ ครู่ต่อมาค่อยถาม “ท่านยังมีอีกหลายชิ้นหรือ”
ทีปังกรพุทธยิ้มแย้ม “ในมือมีแค่ชิ้นนี้แล้ว แต่ว่ายังมีอีกสองชิ้นที่ข้าทราบตำแหน่ง แยกอยู่ในมือของเหล่าจวินกับเมตไตรย”
หลังจากเงียบงันครู่หนึ่ง แสงสว่างห้าสีก็ม้วนกลางอากาศ เก็บสารีริกธาตุที่ดูธรรมดาชิ้นนั้น
พระพุทธเจ้าในแสงสว่างผุดกายขึ้น “พูดเถอะ ต้องการให้อาตมาไปยังที่ใด”
“ศิษย์คนเล็กจะนำทางสหายร่วมเส้นทางเอง” ทีปังกรพุทธะตอบ
อีกฝ่ายไม่พูดอะไรมากอีก แสงสว่างขึ้น บินออกจากแดนสุขาวดีพุทธเกษตรในชั่วพริบตา จากนั้นก็ผละจากแดนสุขาวดีตะวันตก
ด้านนอกแดนสุขาวดีตะวันตก มีนักบวชไป๋ซยงรออยู่ที่นั่น
สองฝ่ายพอพบกันก็ออกห่างไป หายไปในความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน
ในจักรวาลอันว่างเปล่า หมู่มารถอยกลับนพยมโลก ส่วนผู้ยิ่งใหญ่ชั้นมหาชาลของสำนักเต๋าเปลี่ยนมาปะทะกับผู้ยิ่งใหญ่เผ่าปีศาจที่มีเผิงท่องเมฆหมื่นลี้เป็นผู้นำ
เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ต้องการล่าตัวพวกเยี่ยนจ้าวเกอเพื่อชำละแค้นสังหารบุตรชาย สุดท้ายกลับถูกเทวกษัตริย์สำนักเต๋าขวางทาง สองฝ่ายสู้รบกันดุเดือด
มียอดฝีมือจากแดนสุขาวดีตะวันตกคอยดูอยู่ด้านข้าง สองฝ่ายไม่อาจโถมพลังทั้งหมดสู้ถึงที่สุด ต้องแบ่งแยกจิตใจมาป้องกันภิกษุจากศาสนาพุทธที่อยู่ใกล้ๆ ด้วย
ทว่าไม่ทันไร ทุกฝ่ายก็ได้รับข่าวที่อยู่เหนือความคาดหมาย
เยี่ยนจ้าวเกอถึงกับแสดงกายทองมหาเทวะเสมอฟ้าระดับมหาชาลสำเร็จ ทำลายโถงเซียนอย่างหักโหม สังหารยอดฝีมือโถงเซียนจำนวนมาก ทำให้โถงเซียนเสียหน้า ถึงขั้นที่อาจโยกคลอนถึงรากฐานของโถงเซียน
สมดุลอันเปราะบางระหว่างเส้นทางนอกรีตสองเส้นทางถูกทำลายอีกครั้ง
โถงเซียนต่างมีความเป็นไปได้ที่จะพ่ายแพ้ราบคาบตลอดเวลา
สถานการณ์ของยอดฝีมือสามฝ่ายพลันเปลี่ยนเป็นละเอียดอ่อนกว่าเดิม
จอมปีศาจตนอื่นๆ ยังคงคิดจะไปโถงเซียน สงครามที่อยู่ที่นั่นจะต้องดุเดือดมากขึ้นแน่
ทางเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ เป็นเพราะเยี่ยนจ้าวเกอออกจากโถงเซียนแล้ว กลับไม่ได้เร่งร้อนเหมือนเดิม เปลี่ยนเป้าหมายไปที่พวกสั่วหมิงจางที่อยู่ตรงหน้าแทน หวังว่าจะได้รับที่อยู่ของเยี่ยนจ้าวเกอและจักรวาลฟ้าฟื้นจากพวกเขา
เหล่าพระภิกษุศาสนาพุทธที่ตอนแรกคอยคุมเชิงอยู่ด้านข้าง มีความเห็นต่างกัน บางคนต้องการกลับไปช่วยเหลือโถงเซียน บางคนคิดจับตาขัดขวางผู้ยิ่งใหญ่เผ่าปีศาจที่อยู่ที่นี่ต่อ ป้องกันไม่ให้พวกเขาไปช่วยเหลือแดนสุขาวดีบัวขาว
ยอดฝีมือชั้นมหาชาลสำนักเต๋าคิดรวบรัดกว่ามาก ในเมื่อเยี่ยนจ้าวเกอบรรลุเป้าหมายอย่างราบรื่นและออกจากโถงเซียนแล้ว เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องพัวพันกับยอดฝีมือจากเผ่าปีศาจและศาสนาพุทธที่อยู่ที่นี่ต่ออีก
หลังจากถอนตัว ค่อยๆ วางแผนการเคลื่อนไหวตามสถานการณ์ก็ไม่สายไป
สถานการณ์รบที่เดิมทีเกิดการชะงัก พลันค่อยๆ พังทลายตามการถอนตัวของยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าปีศาจ
เผิงท่องเมฆหมื่นลี้จนปัญญา คนคนเดียวไม่อาจสำเร็จการณ์ใหญ่ ได้แต่ละวางความแค้นส่วนตัวชั่วคราว ถอยออกจากสนามรบ มุ่งหน้าไปยังโถงเซียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี