จุดแสงเล็กๆ นั้นเกิดจากการผนึกตัวของประกายกระบี่ลวงเซียน เหมือนกระจ้อยร่อย ความจริงยิ่งใหญ่ กลายเป็นฟ้าดิน
เยี่ยนจ้าวเกอกับเกาชิงเสวียนลอยเข้าไปในด้านใน หลังจากแสงสว่างสีแดงก่ำตรงหน้าหายไป ก็เห็นเยี่ยนตี๋นั่งเงียบๆ อยู่กลางอากาศ
เมฆแปลงกำเนิดเบ่งบานเหมือนกับดอกบัว ส่ายไหวเบาๆ บนศีรษะของเขา
เยี่ยนตี๋พยักหน้าให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอ จากนั้นก็ละสายตา มองไปยังความว่างเปล่าด้านหนึ่งอย่างไร้เสียง
มองตามสายตาของเขาไป สิ่งที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอกับเกาชิงเสวียนคือภาพอันนิรันดร์ภาพหนึ่งพาดขวางอยู่กลางอากาศ สดใหม่ขึ้นตามกาลเวลา ไม่เคยสลายหายไป
ในภาพ พุทธะในปางโมโห ท่าทางดุร้ายน่ากลัว มือถือกระบี่วิเศษ หันหน้าหาพวกเยี่ยนจ้าวเกออยู่บนฟากฟ้า ความมืดบดบังนภา ปราณสังหารแผ่พุ่ง เหมือนกับดึงดูดนรกมายังโลกมนุษย์
ด้านล่างพุทธะ เงาร่างของบุรุษอาภรณ์ม่วงคนหนึ่งกับสตรีอาภรณ์ขาวคนหนึ่งยืนเคียงไหล่กัน หันหลังให้แก่พวกเยี่ยนจ้าเกอ
บุรุษอาภรณ์ม่วงมือซ้ายถือกระบี่ สตรีอาภรณ์ขาวมือขวาถือกระบี่ มือซ้ายจับมือมือขวาของบุรุษ
นอกจากเงาหลังที่อยู่ในดวงตาของพวกเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว ยังเห็นบุรุษและสตรีสองคนนั้นหันหน้ามองกัน ต่างเผยให้เห็นใบหน้าครึ่งซีก มุมปากแฝงรอยยิ้ม สายตาไร้ความเกรงกลัว
ภาพมั่นคงไม่เคลื่อนไหว แสงสีแดงก่ำราวกับรวมตัวเป็นรูปนูน สมจริงราวกับมีชีวิต บรรยายถึงภาพสุดท้ายในครั้งนั้น
พวกเยี่ยนจ้าวเกอมองภาพ ห้วงสมองปรากฏภาพหลังจากนั้นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ มองดูสามีภรรยาคู่นั้นเสียชีวิตลงร่วมกันโดยไร้ความหวั่นเกรง จับมือกันต้านทานกระบี่พุทธะที่กลายร่างเป็นนรก
นึกถึงท่วงท่างามสง่าของการมองความตายดุจคืนสู่มาตุภูมิของคนรุ่นก่อน เยี่ยนจ้าวเกออดเหม่อลอยไม่ได้ คำนับเงาหลังของสามีภรรยาคู่นั้นอย่างจริงจังอีกครั้ง
เกาชิงเสวียนเหมือนกับเยี่ยนตี๋ ไม่ขยับเคลื่อนไหวเหมือนกับรูปสลัก เพียงมองเงาหลังนั้น เงียบงันเนิ่นนาน
สิ่งที่เกาชิงเสวียนไม่เหมือนกับเยี่ยนจ้าวเกอก็คือไม่เคยสัมผัสเยี่ยนซิงถางสามีภรรยาด้วยตัวเอง ขณะนี้ในห้วงสมองปรากฏใบหน้า เสียง และรอยยิ้มของตี๋ชิงเหลียน
ในศิษย์ทั้งหมดของกษัตริย์เถา ผู้ที่เกาชิงเสวียนสนิทสนมมากที่สุดคือตี๋ชิงเหลียนผู้เป็นศิษย์น้อง
หรือสมควรบอกว่า คนสองคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันที่สุดในหมู่สหายร่วมสำนัก คือพวกนาง
ครั้งกระโน้นก่อนที่ตี๋ชิงเหลียนจะออกเดินทางพร้อมกับเยี่ยนซิงถาง ยังมาเยี่ยมเยือนเกาชิงเสวียนกับหลงซิงเฉวียน กลับคิดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นการพบกันครั้งสุดท้าย การไปครั้งนั้นเป็นการจากลาตลอดกาล
จิตใจที่สงบนิ่งเถรตรงของเกาชิงเสวียนตอนนี้เกิดระลอกคลื่นขึ้นอย่างไม่อาจควบคุม รู้สึกเศร้าใจ
‘ท่านอาจารย์ ศิษย์น้องเล็กไม่เคยเสียใจ ถ้าหากท่านได้เห็นภาพนี้ในวันนั้นจะคลายใจบ้างหรือไม่’ คิดถึงหลี่อิงกษัตริย์เถาที่ก่อนหน้านี้ไม่นานได้เสียชีวิต เกาชิงเสวียนก็เจ็บปวดกว่าเดิม
เยี่ยนจ้าวเกอมองเกาชิงเสวียนที่อยู่ด้านข้าง ทอดถอนใจ
เยี่ยนตี๋ที่อยู่อีกด้านมองเพียงเงาหลังของเยี่ยนซิงถางสามีภรรยา ไม่กล่าววาจาไม่เคลื่อนไหว
เป็นเพราะว่าเมฆแปลงกำเนิด ในความทรงจำของเขาความจริงไม่มีร่างของบิดามารดา
ทว่าตอนนี้กำลังรับร่องรอยเจตจำนงกระบี่ที่เยี่ยนซิงถางสามีภรรยาได้ทิ้งเอาไว้ทุกหยาดหยด ทำให้เขาเกิดความใกล้ชิดโดยไม่มีที่มาอย่างหนึ่ง ราวกับเลือดข้นกว่าน้ำ ตัดกันไม่ขาด
บางทีเยี่ยนซิงถางกับตี๋ชิงเหลียนอาจไม่ได้ทำหน้าที่เป็นบิดามารดาแม้แต่วันเดียว ไม่เคยได้ดูแลและอยู่เป็นเพื่อนบุตรของตัวเองสักวันเดียว ถึงขั้นที่พวกเขาที่เพิ่งเป็นพ่อแม่คนไม่ทราบด้วยซ้ำว่าควรดูแลบุตรคนหนึ่งอย่างไร
แต่ว่าก่อนที่บุตรจะเติบโต พวกเขาได้ประทานทุกสิ่งที่ดีที่สุดของตัวเองให้แก่บุตรของพวกเขาหมดสิ้นแล้ว
ถึงแม้เยี่ยนตี๋จะไม่เคยสัมผัสกับบิดามารดาอย่างแท้จริง วันนี้หลังจากผ่านมาพันปี ยังคงสัมผัสได้ถึงความรักใคร่เหลือล้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี