ตอนอยู่บนโลกซ้อนโลก อาจารย์ของจวงเฉินกับเหมาหยวนเฉิงในสายเนินต้นจักรพรรดิเมื่อครั้งนั้น ความจริงต้องการให้เหมาหยวนเฉิงรับสืบทอดสำนักต่อ ทว่าต่อมาตกตายอย่างเหนือความคาดหมาย ตำแหน่งเจ้าสำนักของเนินต้นจักรพรรดิสุดท้ายตกไปอยู่ในมือของจวงเซิน
ต่อมาจวงเซินมาทีหลังแต่ขึ้นสู่ตำแหน่ง พลังยิ่งมายิ่งแข็งแกร่ง ชื่อเสียงยิ่งมายิ่งกึกก้อง ผู้คนค่อยๆ ลืมเลือนเรื่องราวในตอนนั้น
จนกระทั่งจวงเฉินสำเร็จระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุข ชื่อเสียงส่วนตัวพุ่งสู่ระดับสูงสุด เหมาหยวนเฉิงที่เคยโดดเด่นที่สุดในคนรุ่นหนุ่มสาว กลายเป็นพื้นหลังของจวงเฉินโดยสมบูรณ์
ไม่เพียงแต่บนโลกซ้อนโลก หรือบนเขตเพลิงทักษิณ ต่อให้เป็นในเนินต้นจักรพรรดิ ในวันเวลาต่อมาเหมาหยวนเชิงก็สงบเสงี่ยมมากขึ้น ต่อให้จวงเซินจะไม่เคยตั้งใจสะกดเขา เขาก็เป็นฝ่ายถอยเอง
จนกระทั่งต่อมาเป็นเพราะเยี่ยนจ้าวเกอ สายเนินต้นจักรพรรดิบาดเจ็บล้มตายสาหัส ปราณกำเนิดเสียหายใหญ่หลวง เหมาหยวนเชิงจึงค่อยออกเขา ช่วยจวงเซินกระตุ้นเนินต้นจักรพรรดิ
หลังจากที่จวงเซินท้ารบเขากว่างเฉิง และตายด้วยดาบของเยี่ยนตี๋ เหมาหยวนเชิงก็รับสืบทอดเนินต้นจักรพรรดิ
พอการต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิแพรขาวดำปิดม่านลง เรื่องแรกที่เหมาหยวนเซิงทำ คือการไปขอขมาฟู่อวิ๋นฉือจักรพรรดิแพรที่ผาบัวแดงบนยอดเขาอัศจรรย์ ทั้งเชิญให้เมิ่งหวานไปเป็นแขกที่เนินต้นจักรพรรดิ รักษามารยาทด้วยความจริงจังนอบนอบ
ถึงแม้ฟู่อวิ๋นฉือจะขุ่นข้องที่ก่อนหน้านี้จวงเซินใช้เมิ่งหวานมาก่อกวนจิตใจของตัวเอง แต่ในเมื่อตัวจวงเซินตายไปแล้ว ด้วยความใจกว้างของฟู่อวิ๋นฉือ จึงไม่สร้างความลำบากให้แก่คนอื่นๆ บนเนินต้นจักรพรรดิ
เมิ่งหวานก็ไม่คิดเอาเรื่องเหมาหยวนเซิงกับเนินต้นจักรพรรดิเช่นกัน กลับไปทำความสะอาดหลุมศพของหลิวเซี่ยนถิงมารดาบังเกิดเกล้าของตน และศิษย์ของเนินต้นจักรพรรดิ
จนกระทั่งให้หลังออกจากโลกซ้อนโลก เข้าสู่ฟ้าเหนือฟ้า ระหว่างเมิ่งหวานกับเนินต้นจักรพรรดิก็มีการไปมาหาสู่กันบ่อยๆ
ทว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น เหมาหยวนเซิงกับเนินต้นจักรพรรดิก็ยังไม่กล้าอวดโอ่แม้แต่น้อย
ต่อให้เมื่อสิบกว่าปีก่อน เหมาหยวนเซิงจะเลื่อนระดับสำเร็จ จากจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าสู่ประมุขในหมู่คน ก็ยังคงเก็บเนื้อเก็บตัว
แต่ว่าแสงสว่างที่ในอดีตได้ถูกกดไว้ใต้ปีกของจวงเซิน ได้ทำให้คนแปลกใจแล้ว
ภายใต้การควบคุมของเหมาหยวนเซิง เนินต้นจักรพรรดิไม่รีบไม่ร้อน ตั้งใจสั่งสอนคนในสำนัก ค่อยๆ ฟื้นฟูปราณกำเนิด
มาถึงปัจจุบัน เนินต้นจักรพรรดิได้ผงาดขึ้นมาใหม่บนแคว้นทักษิณในฟ้าเหนือฟ้า กลายเป็นตัวตนแข็งกล้าที่ไม่ว่าผู้ใดในแคว้นทักษิณก็มิกล้าดูแคลน
“ท่านเหมาเข้าใจดี เชื่อว่าจะไม่กระทำอะไรโง่เขลา” เมิ่งหวานออกจากยอดเขาเรืองรองพร้อมกับถังหย่งฮ่าว มุ่งหน้าไปยังเขาโถงทอง ขณะที่เดินทางก็พูดคุยไปด้วย
“พวกเราไม่ว่าผู้ใดรู้ว่า ถ้าหากว่าเขากว่างเฉิงเอาเรื่องจริงๆ เนินต้นจักรพรรดิคงหายไปแต่แรก ไหนเลยมีวันที่ฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง”
เมิ่งหวานรำพึงรำพัน “ถึงแม้เนินต้นจักรพรรดิจะรุ่งเรืองอีกครั้ง แต่เทียบกับเขากว่างเฉิงในปัจจุบันแล้ว ไม่ต่างจากแสงหิ่งห้อยสาดแสงสู้ตะวันจันทรา ไหนเลยจะเทียบได้?”
“เพียงแต่เนินต้นจักรพรรดิมีคนคร่ำครึอยู่มาก ยังต้องตักเตือนบ้าง ป้องกันไม่ให้มีคนหน้ามืดตามัวไปชั่วขณะ”
นางมองถังหย่งฮ่าว “ดูจากทางด้านนี้ สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์เริ่มใหม่แต่ต้น ศิษย์ในสำนัก ณ ขณะนี้ไม่มีความคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องในครั้งนั้นอีกแล้ว สถานการณ์ยังดูดีกว่ามาก”
ถังหย่งฮ่าวว่า “ถ้าเขากว่างเฉิงคิดสะกดไว้ สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์มิอาจก่อตั้งขึ้นอีกครั้ง”
เขาเงียบงันเล็กน้อย ก่อนจะกล่าว “คนด้านบนประพฤติตนไม่ถูก คนด้านล่างก็เลวร้ายไปด้วย สิ่งที่ทำให้ผู้คนยอมเสี่ยงมิใช่ความแค้น แต่เป็นความปรารถนาและทะยานอยากของตัวเอง”
เมิ่งหวานกล่าว “การมีความมุ่งมั่น หรือความปรารถนาและความทะเยอทะยานมิใช่เรื่องแย่ แต่มิอาจเสี่ยงเพราะผลประโยชน์เล็กน้อย”
“ตอนนี้สำนักเต๋าสายหลักของพวกเรามีความหวังที่จะเจริญรุ่งเรือง ทั้งเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เป็นเวลาที่ทุกคนควรรวมใจเป็นหนึ่ง”
สตรีอาภรณ์ขาวกล่าวอย่างแช่มช้า “งูไร้หัวไม่ได้ เขากว่างเฉิงยิ่งใหญ่ สร้างสภาพหัวมังกรแห่งฟ้าเหนือฟ้า พวกเขายิ่งแกร่ง ฟ้าเหนือฟ้าก็ยิ่งแกร่ง สำนักเต๋าของเรามีสภาพยิ่งใหญ่และรุ่งเรืองเร็วกว่าเดิม สหายร่วมเส้นทางทุกคนล้วนได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี