เมิ่งหวานมองไปที่ไกล เห็นคนที่สวมเสื้อผ้าตามขนบของเขากว่างเฉิงขึ้นสู่ยอดเขาโถงทอง ภายใต้การต้อนรับจากจอมยุทธ์เขาโถงทอง
คนที่เป็นผู้นำเป็นบุรุษวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ผู้หนึ่ง สายตาแน่วแน่ บุคลิกผ่าเผย
เมิ่งหวานความจริงรู้จักบุรุษวัยกลางคนผู้นี้เช่นกัน
เป็นเจ้าสำนักคนปัจจุบันของเขากว่างเฉิง สวีเฟย
หลังจากที่นำกระบี่ลวงเซียนกลับมาแล้ว เยี่ยนตี๋เจ้าสำนักรุ่นก่อนของเขากว่างเฉิงก็ได้มอบตำแหน่งให้สวีเฟยที่เป็นผู้อาวุโสระดับหนึ่งแห่งวิหารปฏิบัติกิจกว่างเฉิงรับดูแลสำนัก จากนั้นก็ตั้งใจฝึกฝน
ตอนนั้นเป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งในฟ้าเหนือฟ้า เมิ่งหวานเคยไปเข้าร่วมพิธีที่เขากว่างเฉิงพร้อมกับฟู่อวิ๋นฉือผู้เป็นบิดา เป็นสักขีพยาน การเปลี่ยนชื่อ ‘วิหคเวหา’ ของสวีเฟยตามประเพณีในแต่ละยุคของกว่างเฉิง เป็น ‘วิหคบังฟ้า’
พริบตาเดียวผ่านไปหลายปีแล้ว
ตอนนั้นสวีเฟยเป็นบุคคลชั้นผู้นำในศิษย์รุ่นสามของเขากว่างเฉิง รับหน้าที่สำคัญในสำนักมาเป็นเวลานาน
แต่สำหรับคนในโลกภายนอก เมื่อเทียบกับเยี่ยนจ้าวเกอพ่อลูกและเฟิงอวิ๋นเซิงที่สร้างชื่อข่มขวัญอยู่ด้านนอก สวีเฟยดูธรรมดาไป
เรื่องที่เขาครอบครองกายทองมหาเทวะ ตอนแรกมิได้มีการประกาศอย่ากว้างขวาง
แต่ว่าหลังจากเขารับเขากว่างเฉิงต่อ การพัฒนาของสำนักก็เป็นไปอย่างมีลำดับขั้นตอน พลังของสวีเฟยค่อยๆ แสดงออกมาทีละนิดทีละน้อยตากาลเวลาที่ผ่านไป บารมีส่วนตัวยิ่งมายิ่งแข็งแกร่ง
มาถึงวันนี้ กลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งที่ชื่อสมกับความเป็นจริง อิทธิพลมาจากตัวเอง มิใช่สถานะเจ้าสำนักคนใหม่ของเขากว่างเฉิง
ขุมกำลังที่มีตำแหน่งสูงมากพอ ทั้งมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับเขากว่างเฉิงอย่างเขาโถงทองและผาบัวแดง ย่อมทราบอะไรมากกว่า รู้จักความเหี้ยมหาญที่สวีเฟยครอบครองกายทองมหาเทวะดี
“ข้าขอขอบคุณเจ้าสำนักสวีที่เดินทางมาไกล และขอต้อนรับแทนอาจารย์” ถั่งหย่งฮ่าวในฐานะผู้ต้อนรับแขก คำนับสวีเฟยด้วยรอยยิ้ม
ในสายเขากว่างเฉิง เยี่ยนตี๋ เยี่ยนจ้าวเกอ เฟิงอวิ๋นเซิงมีระดับพลังฝึกปรือค่อนข้างสูง หากมาจะกลายเป็นแขกมีหน้ามีตากว่าเจ้าภาพ
คนที่มีพลังฝึกปรือตำกว่าคนอื่นๆ มาอวยพร จะดูทะนงตนไร้มารยาท
เฉาเจี๋ยมองจากภายนอกแม้นเป็นบุรุษวัยกลางคน แต่ว่าตอนอยู่บนโลกซ้อนโลกก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงมาหลายปี อายุจริงยังมากกว่าใครในเขากว่างเฉิง
ถึงสวีเฟยจะมีวัยวุฒิอ่อนอยู่ แต่ว่าเขามาแสดงความยินดีในฐานะเจ้าสำนักคนใหม่ของเขากว่างเฉิง ไม่ว่าจะยึดถืออย่างไรต่างเป็นการให้เกียรติเขาโถงทอง
หนำซ้ำถึงเขาจะมีบารมีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่างไรยังคงด้อยกว่าเยี่ยนจ้าวเกอพ่อลูก การจัดการเรื่องราวประจำวันก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่าเยี่ยนจ้าวเกอพ่อลูก ดังนั้นไม่ถึงกับทำให้จุดหลักของพิธีฉลองในวันนี้เอียงไป
คนอีกคนที่มิได้ยิ่งใหญ่มากนัก แต่ว่ามีความสำคัญมากพอไม่ถึงกับเสียมารยาท ก็คือหยวนเจิ้งเฟิงเจ้าสำนักคนเก่าของเขากว่างเฉิง อาจารย์ปู่ของเยี่ยนจ้าวเกอและสวีเฟย
หากพูดถึงคุณวุฒิของเยี่ยนตี๋กับเยี่ยนจ้าวเกอ หรือว่าสถานะด้านในเขากว่างเฉิง หยวนเจิ้งเฟิงมีสถานะมากพอ ส่วนอายุและระดับพลังฝึกปรือของเขายังน้อยกว่าเฉาเจี๋ย
ทว่าปัจจุบันหยวนเจิ้งเฟิงเข้าฌานฝึกฝน มิได้ออกมา ย่อมไม่สะดวกกับการมาแสดงความยินดีที่เขาโถงทอง
“ศิษย์พี่ถังกับสหายร่วมเส้นทางบนเขาโถงทองทุกท่านเกรงใจแล้ว เป็นข้าผู้แซ่สวีรบกวนจึงถูกต้อง” สวีเฟยยิ้ม ตอบตามมารยาท
จอมยุทธ์เขากว่างเฉิงคนอื่นๆ ด้านข้างเขาพากันคารวะตอบคนของเขาโถงทอง
ถังหย่งฮ่าวมองไปไกล เห็นใบหน้าคุ้นเคยในกลุ่มคนอยู่บ้าง
คนหนึ่งในนี้เป็นคนหนุ่มที่สุภาพอ่อนโยน ประสานมือให้เขา “ก่อนหน้านี้ได้ยินพี่ร่วมเส้นทางจากสำนักท่านพูดถึง ศิษย์พี่ถังอยู่ใกล้กับระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายแค่คืบแล้ว ขอแสดงความยินดี ณ ที่นี้ไว้ก่อน”
“อยู่ใกล้แค่คืบมิกล้าเอ่ย ขอรับคำอวยพรของสหายร่วมเส้นทางเฟิงด้วย” ถังหย่งฮ่าวยิ้มพร้อมคารวะตอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี