เซียนหัวมังกรได้ยินวาจานี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ สีหน้าก็เคร่งขรึมลง “…อู๋ตัง?”
เกาชิงเสวียนเป็นผู้สืบทอดเหนือพิสุทธิ์ ระดับเซียนกำเนิดสุญญตา มีพรสวรรค์เหนือกว่าคนอื่นๆ พลังเลิศล้ำ
คนที่เหมาะจะควบคุมกระบี่ลงทัณฑ์เซียนและกระบี่ลวงเซียนยิ่งกว่านาง ชื่อชื่อหนึ่งปรากฏขึ้นมาในใจของเซียนหัวมังกรทันที
เจ้าแม่อู๋ตัง ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของสายเหนือพิสุทธิ์แห่งสำนักเต๋าซึ่งตอนนี้ทราบว่ายังแข็งแรงและมีชีวิตอยู่ ผู้สืบทอดของเทวกษัตริย์รัตนวิเศษ และสำเร็จมรรควิถีกลายเป็นเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลในยุคโบราณตอนต้น
เกาชิงเสวียนเป็นผู้สืบทอดของเจ้าแม่อู๋ตัง
ตอนเยี่ยนจ้าวเกอตามหากระบี่ลวงเซียน ได้ขอให้เจ้าแม่อู๋ตังกระจายข่าวลวงเกี่ยวข้องกับเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอด ดึงดูดความสนใจของขุมกำลังอื่นๆ
เมื่อเจ้าแม่อู๋ตังที่เป็นเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาล และผู้คุมหางเสือสายเหนือพิสุทธิ์ในยุคปัจจุบันมีการเคลื่อนไหว ย่อมดึงดูดความสนใจของโถงเซียน แดนสุขาวดีบัวขาว ไปจนตลอดเผ่าปีศาจและแดนสุขาวดีตะวันตก
พอเป็นแบบนี้ ถึงแม้จะทราบว่ากระบี่ลวงเซียนยังอยู่ เจ้าแม่อู๋ตังก็มิอาจตามหาด้วยตัวเอง ไม่งั้นคงถูกคนรุมขัดขวาง
เจ้าแม่อู๋ตังเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความเป็นจริง ดังนั้นจึงเห็นด้วยกับข้อเสนอของเยี่ยนจ้าวเกอ ใช้ระดับมหาชาลของนางช่วยอำพรางให้แก่พวกเยี่ยนจ้าวเกอ สุดท้ายทำให้พวกเขาไปตามหากระบี่ลวงเซียนได้สะดวก ทั้งยังนำกระบี่กลับมาเป็นผลสำเร็จ
การตามหากระบี่ในครั้งนี้ สำนักเต๋าเลือกใช้วิธีการขัดกับหลักเหตุผลเมื่อเปรียบเทียบกับครั้งก่อน
ครั้งแรกไม่เจอกระบี่ กลับเจอแขนของกว่างเฉิงจื่อ ผลลัพธ์ถูกเซียนหัวมังกร เซียนงาวิญญาณ กับฉวีซูขัดขวาง หลังโจมตีอีกฝ่ายถอยไปได้ เยี่ยนจ้าวเกอก็เปลี่ยนแผนการ
ครั้งนี้พวกเขาเป็นนกต่อ จากนั้นติดต่อเจ้าแม่อู๋ตังลงมือ
เจ้าแม่อู๋ตังจึงเป็นคนที่หากระบี่ลงทัณฑ์เซียนในครั้งนี้อย่างแท้จริง
“นะโมอมิตาพุทธ” อินทรเกตุธวัชราชาพุทธะเปล่งคำสรรเสริญคุณ เอ่ยว่า “ประสกเยี่ยนฝีมือยอดเยี่ยม แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการเตรียมตัว สามารถหลอกลวงคนจำนวนมากขนาดนี้ได้ ช่างน่าเลื่อมใสจริงๆ”
ท่านมองเยี่ยนจ้าวเกอ ส่ายหน้าเบาๆ “บางทีอาจเป็นเพราะว่าในใจของพวกอาตมา โยมและกายทองมหาเทวะสามร่างมีการคุกคามเหนือกว่าเซียนสวรรค์สำนักเต๋าคนอื่นๆ ไปแล้ว”
มิใช่การคุกคามจากศักยภาพและอนาคต แต่เป็นอิทธิพลและความสำคัญอย่างแท้จริงซึ่งมีอยู่แล้วในตอนนี้
อย่างน้อยผลกระทบที่เยี่ยนจ้าวเกอสร้างขึ้นมาได้ในเรื่องการตามหาสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียน ก็มีมากกว่าเจ้าแม่อู๋ตังอย่างมิต้องสงสัย
ตอนที่ตามหากระบี่ลวงเซียน การใช้พิธีกรรมเป็นครั้งแรกของเยี่ยนจ้าวเกอทำให้คนอื่นๆ รับมือไม่ทัน
และเป็นเพราะแบบนี้ พวกหวังก่วนและฉวีซูในตอนนั้นจึงเสียท่าเพราะจำนวนคนไม่พอ
หลังจากนั้นมา คนอื่นๆ ก็รู้สึกได้ว่าสำนักเต๋ามีแผนการ สิ่งสำคัญยิ่งกว่าก็คือมีความสามารถในการตามหาสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียน เพื่อทำให้ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนอันน่ากลัวปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
ส่วนสำคัญในนี้ก็คือเยี่ยนจ้าวเกอ
ดังนั้นครั้งนี้พอมีการเคลื่อนไหว แม้ว่าพุทธปลอมกับเต๋าปลอม และพุทธเกษตรตะวันตกกับเผ่าปีศาจจะยังสู้กันอยู่ง แต่ก็แบ่งคนจำนวนหนึ่งมาตามหากระบี่ได้ทันกาล
สุดท้าย ครั้งนี้กลับเป็นเยี่ยนจ้าวเกอเป็นตัวล่อในการดึงดูดความสนใจของพวกเขา
อินทรเกตุธวัชราชาพุทธะกล่าวอย่างแช่มช้า “แต่เป็นเพราะแบบนี้ ถึงแม้จะสูญเสียกระบี่ลงทัณฑ์เซียนไป แต่ถ้าหากจัดการโยมลงที่นี่ได้ ผลลัพธ์ยังคงประเสริฐอยู่ดี”
“อินทรเกตุธวัชราชาพุทธะชมเกินไปแล้ว ข้าผู้แซ่เยี่ยนได้รับความเมตาที่คาดไม่ถึงจริงๆ” เยี่ยนจ้าวเกอยืนอยู่บนหัวไหล่ของวานรยักษ์ที่ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกแปลงขึ้น กวาดมองรอบๆ
เซียนหัวมังกรกล่าวเสียงเย็น “เด็กน้อยอย่าได้ใจไป จัดการเจ้าก่อน พวกเราค่อยพูดถึงเรื่องอื่น”
เขาพูดพลางส่ายร่างเปลี่ยนแปลง ปรากฏลักษณะดุร้ายของสิงโตเขียวที่กลืนฟ้ากินดิน ก่อนจะอ้าปากกว้าง ขย้ำพวกเยี่ยนจ้าวเกอ
“หลายปีมานี้เส้นทางนอกรีตพัฒนารวดเร็วไปแล้ว จัดการพวกเขาก่อน จากนั้นค่อยคุยเรื่องของพวกเราเป็นอย่างไร?” อินเจียวที่อยู่ด้านข้างพูดกับฉวีซูและจอมปีศาจอีกสองตน
“มีความคิดนี้อยู่พอดี!” เซียนงาวิญญาณส่งเสียงร้อง แสดงร่างช้างเผือกหกงา กระทืบเท้าลงด้านล่าง
จอมปีศาจถือสามง่าม ที่แม้จะมีศีรษะเป็นกวางตาเป็นหนู ทว่าสภาวะกลับน่าเกรงขามถึงขีดสุด มองอินทรเกตุธวัชราชาพุทธะอย่างเย็นชา ถือสามง่ามพุ่งเข้าไปหาวานรยักษ์สามตนที่ถูกห้อมล้อม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี