เซียนสวรรค์สำนักเต๋าคนอื่นๆ เช่นพวกเจ้าแม่อู๋ตังดึงดูดความสนใจของเจ้ามรรคาง่ายดายยิ่ง แตกต่างจากเฟิงอวิ๋นเซิงที่รองรับอำนาจของมารปัจฉิมธรรม จนได้หุบเหวโกลาหลสูญ
ดังนั้นเวลาส่วนใหญ่ในยามปกติ พวกเขาต่างหลบเร้นอยู่ในมิติไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน รวมกับความว่างเปล่า เข้าสู่สภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาเล่นงาน ตั้งใจป้องกันเทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรีอาริย์
หลายสิบปีมานี้ เป็นเพราะว่าเศษศิลามนุษย์กำเนิดจากเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอด เทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรีอาริย์จึงพัวพันไม่ยอมเลิกรา
เซียนสวรรค์ของสำนักเต๋าเช่นเจ้าแม่อู๋ตังมีสภาพปลอดโปร่งมากขึ้น เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระมากขึ้น เวลาที่หลุดจากความว่างเปล่าแสดงร่างที่แท้จริงเพิ่มขึ้น โอกาสมากขึ้น
ทว่ายังคงจำเป็นต้องระมัดระวังตัว ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย
เยี่ยนจ้าวเกอไหว้วานเกาชิงเสวียนส่งมอบแขนของเทวกษัตริย์กว่างเฉิงให้เจ้าแม่อู๋ตัง ขอให้เจ้าแม่อู๋ตังตามหากระบี่ลงทัณฑ์เซียนกับซากสังขารของเทวกษัตริย์กว่างเฉิงแทน
เจ้าแม่อู๋ตังทำสำเร็จ แต่ว่าก็รั้งอยู่ในสภาพปัจจุบันมานานแล้ว
ที่นางไม่กลับสู่ความว่างเปล่า ยังคงแสดงร่างแท้จริง หยุดอยู่ที่นี่ เป็นเพราะว่ากำลังพิจารณากระบี่ลงทัณฑ์เซียนกับซากสังขารของกว่างเฉิงจื่อ รู้สึกว่าด้านในคล้ายมีจุดแปลกประหลาดหลายส่วน
“ข้าได้เห็นร่องรอยที่หลงเหลือจากสงครามในครั้งนั้นแล้ว” เจ้าแม่อู๋ตังว่า “ถ้าหากดูจากการแสดงอดีต สหายร่วมเส้นาทงกว่างเฉิงเข่นฆ่าออกจากวงล้อม แต่สุดท้ายก็กลายเป็นตะเกียงหมดน้ำมันเสียชีวิตไป ซากสังขารกับกระบี่ลงทัณฑ์เซียนอยู่ด้วยกัน ซ่อนลึกอยู่ในความว่างเปล่า จนกระทั่งวันนี้ข้ามาตามหา จึงค่อยได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกครั้ง”
“ทว่า…” เจ้าแม่อู๋ตังดวงตาฉายความสงสัย “ข้ารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของสหายร่วมเส้นทางอีกคนบนกระบี่เล่มนี้”
“ถึงจะอ่อนแอยิ่ง แต่ข้าไม่มีทางมองผิด”
พวกเยี่ยนจ้าวเกอสายตาคมกริบอยู่บ้าง สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา
“โฮ่วถู่…” เจ้าแม่อู๋ตังกล่าวชื่อหนึ่้งออกมา
เยี่ยนจ้าวเกอหันไปมองกระบี่ลงทัณฑ์เซียน ปากพึมพำ “โฮ่วถู่…”
ผู้ที่เจ้าแม่อู๋ตังพูดถึงย่อมมีแค่คนเดียว
หนึ่งในสี่เทวราชสำนักเต๋าแห่งวังเทพในอดีต เจ้าแม่แห่งแผ่นดิน มีชื่อเต็มว่า ‘มารดาแห่งแผ่นดินผู้มีธรรมและเมตตาสืบทอดหลักแห่งฟ้า’ เจ้าแม่โฮ่วถู่ที่คนทั่วไปเรียกขาน
คำว่า ‘มารดาแห่งแผ่นดิน’ เป็นผู้คนเรียกนามคู่กับมหาเทวกษัตริย์แห่งหยก
ในทะเลหวงเจียบนเขตอาทิตย์อาคเนย์แห่งโลกซ้อนโลกเมื่อครั้งกระโน้นมีลายมือฉบับหนึ่งของนางซ่อนอยู่ ภายหลังตกมาอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอ
วันนี้ห่างจากสงครามในครั้งนั้นราวๆ ห้าสิบปี เพื่อช่วยสวีเฟย เยี่ยนจ้าวเกอยอมละทิ้งลายมือแห่งแผ่นดินฉบับนี้ สุดท้ายความลี้ลับน่าอัศจรรย์ของลายมือได้แยกกันหลอมเข้าไปในกายทองมหาเทวะสามร่าง
“ถ้าหากบอกว่าตอนนั้นเจ้าแม่โฮ่วถู่กลุ้มรุมเทวกษัตริย์กว่างเฉิง สมควรมิใช่” เกาชิงเสวียนสีหน้าสงบนิ่ง “เช่นนั้นหมายความว่า เจ้าแม่โฮ่วถู่เคยเจอซากสังขารของเทวกษัตริย์กว่างเฉิงและกระบี่ลงทัณฑ์เซียนหลังจากที่เขาได้เสียชีวิตไปแล้ว? แต่ไฉนนางจึงไม่นำกระบี่ไป หรือว่าฝังศพของเทวกษัตริย์กว่างเฉิง ยังคงทิ้งทุกสิ่งไว้ที่เดิม? ทำไม่ได้หรือว่าไม่ต้องการทำ?”
“ไม่มีใครทราบ” เจ้าแม่อู๋ตังเอ่ย “ความเป็นไปได้ที่จะไร้ความสามารถมีมากกว่าเล็กน้อย ถ้าหากว่าข้าได้กระบี่ลงทัณฑ์เซียนมาก่อน จากนั้นกลับไม่นำไป ยังคงทิ้งไว้ที่เดิม และไม่ต้องการให้คนอื่นทราบว่าข้าเคยมา สามารถลบร่องรอยทิ้ง แต่ก็มิใช่ว่าเจ้ามรรคามิอาจสัมผัสได้”
ขณะที่กำลังพูดอยู่ เจ้าแม่อู๋ตังพลันขมวดคิ้ว เงียบงันลง
พวกเยี่ยนจ้าวเกองงงัน เจ้าแม่อู๋ตังใคร่ครวญเสร็จก็เอ่ยว่า “เพิ่งได้รับข่าวว่าวังหยกปรากฏขึ้นมาอีกครั้งแล้ว”
ทุกคนพลันกลั้นหายใจ
วังหยกบนผากิเลนแห่งเขาคุนหลุน ผู้สืบทอดสำนักเต๋าทุกคนล้วนรู้จัก
นั่นเป็นสถานบำเพ็ญของบรมครูเทวกษัตริย์บรรพกำเนิดแห่งหยกพิสุทธิ์ ตั้งแต่เทวกษัตริย์บรรพกำเนิดหลุดพ้น ยุคโบราณตอนต้นจบลง มันก็หายไป ยากจะหาร่องรอย
ปัจจุบันถึงกับมีข่าวว่าวังหยกโผล่มาอีกครั้ง ไหนเลยไม่ทำให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอตกใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี