เยี่ยนจ้าวเกอฝ่าภัยพิบัติปฐมลี้ลับ ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด สำเร็จระดับสุญญตา ย่อมกลายเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฟ้าเหนือฟ้าในวันนี้
นอกจากคนของผาบัวแแดงที่มีฟู่อวิ๋นฉือเป็นผู้นำแล้ว ขุมกำลังจากแต่ละแห่งย่อมรวมตัวกันที่เขากว่างเฉิง เพื่อแสดงความยินดีกับเยี่ยนจ้าวเกอ
มรกตท่องฟ้ากับฟ้าน้ำพุหยกได้รับข่าว มีคนมาเพื่อแสดงความยินดีและเข้าร่วมพิธีเช่นกัน
เสียงหนึ่งดังออกมาจากด้านในดวงตาของเยี่ยนจ้าวเกอ แสดงความยินดีกับเขา
“ยินดีกับใต้เท้ากษัตริย์เยี่ยนที่เลื่อนสู่ระดับเซียนกำเนิดสุญญตา ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด!” เฟิงอวิ๋นเซิงพูดพลางหัวเราะ
เยี่ยนจ้าวเกอสั่งการความคิด ส่งกระแสเสียงแก่นาง กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ตอนคนอื่นๆ เรียกข้าใช้ฉายานี้ยังพอทำเนา ถ้าเจ้าใช้ข้ากลับไม่คู่ควรแล้ว หากจะยึดกฎจริงๆ ก็สมควรเป็นข้าเรียกเจ้าว่าท่านเทวกษัตริย์จึงจะถูก”
เฟิงอวิ๋นเซิงน้ำเสียงอ่อนโยน หัวเราะคิก “ตอนที่ข้ายังไม่ขึ้นสู่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ ข้าก็เรียกท่านแบบนี้มาก่อน”
ตามการเห็นพ้องแต่โบราณที่ตกลงกันจนกลายเป็นธรรมเนียมก่อนมหาภัยพิบัติ ถ้าไม่ใช่เซียนจริงแท้ห้ามเรียกจักรพรรดิ มิใช่เซียนลี้ลับห้ามเรียกษัตริย์ ผู้ฝ่าฝืนเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะถูกคนรวมตัวกันโจมตี ถึงขั้นที่จักรพรรดิและกษัตริย์ตัวจริงหาเรื่อง
ตอนยังอยู่บนโลกลอยน้ำ เยี่ยนจ้าวเกอถล่มใต้หล้า บนโลกลอยน้ำมีคำเรียก ‘กษัตริย์เยี่ยน’
นั่นเป็นผลผลิตพิเศษในโลกที่มีระดับค่อนข้างต่ำ ซึ่งอารยธรรมหลังมหาภัยพิบัติสร้างขึ้นใหม่ เพียงกระจายอยู่ในโลกเบื้องล่าง ตามปกติแล้วคนที่อยู่ในระดับสูงกว่าต่อให้รู้เข้า ก็ยึดถือเป็นเรื่องตลก ไม่มีทางเอาเรื่องเหมือนก่อนมหาภัยพิบัติ
ทว่าวันนี้ กษัตริย์เยี่ยนมีชื่อสมกับความเป็นจริงมาหลายปี ปัจจุบันเยี่ยนจ้าวเกอยิ่งก้าวข้ามระดับเซียนลี้ลับ สำเร็จเป็นเซียนกำเนิดสุญญตา ขึ้นสู่ตำแหน่งจ้าวสวรรค์
หันกลับไปมองอดีต กาลเวลาร้อยกว่าปีผ่านไป สำหรับคนธรรมดาอาจยาวนาน แต่สำหรับจอมยุทธ์แล้ว กลับเร็วจนทำให้คนต้องร้องอุทาน
แต่ในโลกลอยน้ำ ณ เวลานั้น ระดับพลังฝึกปรือของทุกคนถึงขึ้นไปไม่ถึงระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ เฟิงอวิ๋นเซิงกลับมีความรู้สึกที่รุนแรงในใจว่า สุดท้ายเยี่ยนจ้าวเกอจะได้ฉายา ‘กษัตริย์เยี่ยน’ มาครอง
ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่คิดไว้
กษัตริย์เยี่ยน เป็นแค่จุดเริ่มต้น
“เจ้ายังเร็วกว่าข้า” เยี่ยนจ้าวเกอพูดพลางหัวเราะเช่นกัน
“ข้าเป็นวาสนาความบังเอิญ อนาคตจะมีเพทภัย” เฟิงอวิ๋นเซิงมีน้ำเสียงราบเรียบยิ่ง เหมือนกับคนที่จะเจอภัยพิบัติมิใช่ตัวเอง
เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำ “กาลสมัยสร้างวีรบุรุษ วีรบุรุษสร้างกาลสมัย ไหนเลยจะแบ่งกันได้ชัดเจนแบบนั้น ผู้ใดบอกได้บ้างว่ามิอาจพึ่งพาวาสนาความโชคดีของตัวเองได้? เรื่องราวในอนาคตยังไม่แน่นัก เพียงกระทำให้เต็มที่ จิตใจจะได้สงบสุข”
“เช่นนั้นพวกเรามาพยายามกับเรื่องตรงหน้าเท่าที่จะทำได้เถอะ” เฟิงอวิ๋นเซิงเอ่ยขึ้น
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ “ถูกต้อง ด่านมัจฉากระโดดข้ามประตูมังกร หากผ่านไปได้ก็จะเป็นฟ้าดินแห่งใหม่ ยุคสมัยใหม่ หลังมหาภัยพิบัติ สำนักเต๋าสายหลักของพวกเราสั่งสมมาหลายปีขนาดนี้ จะเปลี่ยนแปลงฟ้าดินได้หรือไม่ อยู่ที่ด่านนี้ ก้าวสุดท้ายในการเดินทางหมื่นลี้”
พิธีกรรมจบลง แขกบางส่วนมิได้จากไป
อย่างเช่นเกาชิงเสวียนกับหลงซิงเฉวียน
ตอนนี้เหล่ายอดฝีมือระดับสุดยอดในจักรวาลฟ้าฟื้นรวมตัวกันที่ห้องโถง วางแผนเรื่องราวต่อจากนี้
แทบจะเป็นในเวลาเดียวกัน ด้านนอกจักรวาลฟ้าฟื้น ยอดฝีมือศาสนาพุทธกับมหาเทวะเผ่าปีศาจกลุ่มหนึ่งเริ่มโอบล้อมสำนักเต๋าสายหลักอีกครั้ง
ทุกคนกำลังจับตาดูขีดจำกัดเวลาสี่สิบเก้าปีอยู่
หลายปีมานี้ การเล็งเป้าที่จักรวาลฟ้าฟื้นของพวกทีปังกรพุทธะ บางครั้งก็ผ่อนคลายบางครั้งก็เร่งร้อน
ในสถานการณ์ที่คนบนจักรวาลฟ้าฟื้นยิ่งสงบเสงี่ยม ลดร่องรอยการออกไปด้านนอก ความยากในการค้นหากลุ้มรุมของอีกฝ่ายก็เพิ่มขึ้นมาก มีโอกาสดีๆ ไม่กี่ครั้ง
แต่ว่าวันนี้ครบสี่สิบเก้าปีแล้ว พวกทีปังกรพุทธะย่อมเร่งการกดดันและโอบล้อมสำนักเต๋าสายหลักอย่าง ‘สามัคคี’ เพื่อ ‘สะกด’ การตามหากระบี่เล่มสุดท้ายของพวกเยี่ยนจ้าวเกอ
ทางโถงเซียนกับแดนสุขาวดีบัวขาวรบรากันไม่เลิก เกิดสงครามร้อยปีขึ้นอีกครั้ง
เยี่ยนจ้าวเกอเพิ่มออกฌานอย่างสมบูรณ์ได้ไม่ทันไร ก็เจอของขวัญใหญ่จากพวกทีปังกรพุทธะและเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี