ยอดฝีมือสำนักเต๋าต่อสู้กับนักบวชศาสนาพุทธจากแดนสุขาวดีตะวันตกจนฟ้าพลิกแผ่นดินคว่ำ
เวลานี้พวกจอมปีศาจที่จับตาดูอยู่ใกล้ๆ ในที่สุดก็โผล่มา
ปราณปีศาจเทียมฟ้าแผ่พุ่ง ทำให้น้ำในธารสวรรค์ขุ่นขลั่กกว่าเดิม คาวเลือดกว่าเดิม
บุปผาเซียนของเทวกษัตริย์สำนักเต๋ากับแสงพุทธของเหล่าพุทธะแห่งแดนสุขาวดีถูกกระตุ้น สว่างขึ้นพร้อมกัน
ลมปีศาจม้วนพัด เผยร่างที่แท้จริงของจอมปีศาจกลุ่มหนึ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอช้อนตามองไป เห็นผู้นำของอีกฝ่าย ก็คือชายชราที่สวมเสื้อคลุมสีแดง ใบหน้าแปลกประหลาดผู้หนึ่ง
เป็นลู่ยาเต้าจวิน บุคคลหมายเลขสองแห่งเผ่าปีศาจในปัจจุบัน!
ครั้งนี้ลู่ยาเต้าจวินออกเขามาถึงที่นี่ด้วยตัวเองเหมือนกับทีปังกรพุทธะ
ด้านข้างเขายืนไว้ด้วยนกเผิงยักษ์ปีกทองตนหนึ่ง ย่อมเป็นเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ที่มีพลังกล้าแข็ง
สายตาอันแข็งกร้าวของเผิงท่องเมฆหมื่นลี้กวาดมองพวกเยี่ยนจ้าวเกอ สุดท้ายหยุดอยู่บนค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ดวงตาเย็นเยียบกว่าเดิม
ตอนนั้นฝูหลัวจื่บุตรคนเดียวของเขา ตกตายเพราะพวกเยี่ยนจ้าวเกอกางค่ายกลลงทัณฑ์เซียน
ด้านข้างลู่ยาเต้าจวินกับเผิงท่องเมฆหมื่นลี้แยกกันยืนไว้ด้วยจอมปีศาจตนอื่น แต่ละตนต่างมีสภาวะน่าสะพรึง
ปีศาจลมเหลือง หนอนเก้าเศียร เซียนหัวมังกรที่ก่อนหน้านี้พวกเยี่ยนจ้าวเกอได้สู้ด้วยล้วนมาถึง นอกจากนี้ยังมียอดฝีมือผู้เหี้ยมหาญคนอื่นๆ
โดยเฉพาะวานรขนสีขาวที่ร่างกายใหญ่โตเหมือนภูเขาตัวหนึ่ง ปราณปีศาจอันยิ่งใหญ่บนร่างดึงดูดสยตาเป็นพิเศษ
ความโชติช่วงของลมปราณทั่วร่างของมันทำให้คนตกตะลึง เหมือนกับอาศัยแค่กายเนื้อ ก็สามารถบดขยี้ความว่างเปล่าในฟ้าดินเป็นผุยผงได้แล้ว
วานรยักษ์มองกายทองมหาเทวะสามร่างที่อยู่บนสมรภูมิด้วยสายตาซับซ้อนอยู่บ้าง ลูกตากลอกกลิ้งไม่หยุด
“สหายร่วมเส้นทางหยวนหง ท่านเองก็มาแล้ว” จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋พูดขึ้น
วานรขาวที่ใหญ่โตเหี้ยมหาญตัวนี้ มีชื่อว่าหงหยวน ในยุคสถาปนาเทพโบราณตอนต้น เคยมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วใต้หล้า กอปรด้วยพละกำลังไร้สินสุด เชี่ยวชาญการเปลี่ยนแปลงกายเนื้อ เป็นปีศาจวานรที่มีชื่อเสียงที่สุดก่อนมหาเทวะเสมอฟ้า
ภายหลังประสบภัยพิบัติขึ้นสู่ทำเนียบเซียน จนกระทั่งหลังจากมหาภัยพิบัติในยุคสมัยนี้ ค่อยเป็นอิสระ เข้าไปฝึกฝนในเขาดาราทะเลดวงดาว ไม่นานมานี้เพิ่งปรากฏตัวขึ้น
ตอนที่เขาดาราทะเลดวงดาวต่อสู้กับแดนสุขาวดีตะวันตก หงหยวนก็ได้แสดงอานุภาพเทพ ทำให้เหล่าพุทธะแห่งแดนสุขาวดีกริ่งเกรง
วันนี้ติดตามลู่ยาเต้าจวินมายังสมรภูมิด้านนี้
“ไม่ได้เจอกันนาน หนานจี๋ โฮ่วถู่…” หงหยวนกวาดมองพวกจักรพรรดิอายวุัฒนาหนานจี๋ สุดท้ายสายตาหยุดบนร่างของเจ้าแม่อู๋ตัง “…ยังมีสหายร่วมเส้นทางอู๋ตัง”
สายตาของลู่ยาเต้าจวินหยุดยอยู่ที่เจ้าแม่อู๋ตังกับกระบี่สังหารเซียนซึ่งแสงหยกค่อยๆ ถดถอยไปหมดเล่มนั้น
ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่รีบปรากฏตัว ด้านหนึ่งเพื่อสำรวจสถานการณ์ ด้านหนึ่งเพื่อรอรอยตราซึ่งเทวกษัตริย์ไร้ประมาณทิ้งไว้ในกระบี่สังหารเซียนถดถอยไป
วินาทีนี้จังหวะเวลาสุกงอมแล้ว
ถึงแม้มารสวรรค์ไร้พันธนาจะลงมือสะกดกษัตริย์บูรพาไท่อี้ แต่ว่าการมาถึงของอามิตาภพุทธเจ้าก็ช้าลงเพราะพิณฝูซีเช่นกัน
ตอนนี้เป็นโอกาสลงมือของเผ่าปีศาจ
สายพิณบนพิณฝูซีเหลียงเพียงสองเส้น สำหรับสำนักเต๋ากับเผ่าปีศาจ เวลาไม่อาจถ่วงช้า
พวกจอมปีศาจก็ไม่เกรงใจ พุ่งเข้าไปหาค่ายกลลงทัณฑ์เซียนและพวกเยี่ยนจ้าวเกอกับเจ้าแม่อู๋ตังทันที!
ด้านหนึ่งเป็นแสงพุทธกระจายไปทั่ว ด้านหนึ่งเป็นลมปีศาจนับหมื่นลี้
สองฝ่ายแม้นเป็นศัตรู ทว่าตอนนี้หนีบค่ายกลลงทัณฑ์เซียนไว้ตรงกลาง คนจากสำนักเต๋าสถานการณ์พลันเปลี่ยนเป็นอันตรายหวาดเสียวทันที
วานรยักษ์ค้ำฟ้าที่ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเปลี่ยนแปลงร้องคำราม ควงกระบองกดดันยุทธวิชัยพุทธะถอยหลัง จากนั้นก็กระโจนร่าง โดดไปนอกวงล้อม
ขณะเดียวกัน กายทองมหาเทวะอีกสองร่างก็เคลื่อนไหวอย่างเดียวกัน
ยุทธวิชัยพุทธะเห็นดังนั้น ก็ไม่ขัดขวาง กลับดิ่งร่างลง นำเหล่าพุทธะ พุ่งเข้าหาค่ายกลลงทัณฑ์เซียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี