สายพิณที่เหลืออยู่บนพิณฝูซีขาดลงตามลำดับ จนสายสุดท้ายก็ไม่เหลือ
แสงสว่างกะพริบ รูปยันต์แปดทิศรูปหนึ่งสว่างขึ้นอีกครั้ง ปกคลุมท้องฟ้าและดวงตะวัน ครอบคลุมท้องนภา
บัวเขียวกลับคืนสู่ความสงบ ทว่าสงครามตรงหน้ายังคงดำเนินต่อ
พอเห็นว่าสายพิณเส้นสุดท้ายขาดลง ไม่ว่าจะเป็นคนในศาสนาพุทธ หรือเหล่าปีศาจจากเขาทะเลล้วนรู้สึกได้ว่า ตอนนี้เหลือเวลาช่วงสุดท้ายแล้ว
อีกสักพัก ที่นี่จะต้อนรับการมาถึงของอามิตาภพุทธเจ้า
สงครามของทั้งสองฝั่งโกลาหลกว่าเดิม และดุเดือดกว่าเดิม
มหาเทวะเสมอฟ้า มหาวิทยราชมยุรี ทีปังกรพุทธะ สั่วหมิงจาง เฟิงอวิ๋นเซิง หยวนหง หยางเจี่ยน เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ ยุทธวิชัยพุทธะ มหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ เยี่ยนตี๋ กุศลวิจิตรพุทธะ…ทุกคนล้วนสู้กันอย่างรุนแรง
ลู่ยาเต้าจวินที่ก่อนหน้าถูกมหาเทวะเสมอฟ้าทำร้าย ตอนนี้ไม่สนใจว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส กัดฟันเข้าสู่สนามรบ เตรียมตัวลงมือ
จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋กับจักรพรรดิโกวเฉินเพิ่งหลุดจากแสงศักดิ์สิทธิห้าสี ไม่มีเวลากล่าวมากความ รีบขัดขวางลู่ยาเต้าจวิน ทั้งต่อสู้กับบุญกุศลพุทธะ เซียนหัวมังกร และหนอนเก้าเศียร
ด้านในค่ายกลลงทัณฑ์เซียน เวลานี้เจ้าแม่อู๋ตังฝืนนั่งขัดสมาธิ ลมปราณยังคงอ่อนแรงสุดขีด เหมือนกับใกล้จะสิ้นชีวิต
เกาชิงเสวียนร่างจริงอาศัยพลังทั้งหมดในกระบี่แหนเขียว เร่งการหลอมเปลี่ยนแสงหยกจุดสุดท้ายบนกระบี่สังหารเซียน
เยี่ยนจ้าวเกอร่างจริงควบคุมค่ายกลลงทัณฑ์เซียนกับร่างแยกของเกาชิงเสวียน
เวลานี้กลับเห็นนักพรตชุดดำคนหนึ่ง ทางหนึ่งมองมหาเทวะเสมอฟ้ากับมหาวิทยราชมยุรีในศึกดุเดือดอย่างระมัดระวัง ทางหนึ่งเข้ามาในค่ายกลลงทัณฑ์เซียน
เป็นเซียนเมฆดำไปแล้วกลับมา!
เมื่อครู่เขาหลบหลีกเพราะมหาวิทยราชมยุรี ไม่กล้าปะทะกับอีกฝ่าย
แต่ตอนนี้มหาวิทยราชมยุรีถูกมหาเทวะเสมอฟ้าขัดขวาง สองฝ่ายกำลังสู้รบกันดุเดือด ความคิดของเซียนเมฆดำเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นอีกครั้ง
ลู่ยาเต้าจสวินแม้ได้รับบาดเจ็บ ก็ยังทำให้จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋และจักรพรรดิโกวเฉินไม่อาจดูแคลน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบุญกุศลพุทธะอยู่ด้วย
ตอนนี้เซียนเมฆดำถึงกับเป็นอิสระ คว้าโอกาสไว้ พุ่งเข้ามาในค่ายกลลงทัณฑ์เซียนใหม่ หมายจะใช้ช่องโหว่ว
เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ในค่ายกลเห็นดังนั้น กลับหัวเราะฮ่าๆ
“เซียนเมฆดำ ปรโลกไร้เส้นทาง ท่านกลับทะลวงเข้ามาแล้ว!”
“หือ?” เซียนเมฆดำที่เพิ่งเข้ามาในค่ายกล รู้สึกได้ว่ามีปราณสังหารคุกคามคน แม้ว่าเขาจะรู้จักผังค่ายกลลงทัณฑ์เซียน จิตใจก็เกิดเงาแห่งความตาย
ความรู้สึกนี้แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับตอนที่เขาทะลวงเข้ามาในค่ายกลเมื่อครั้งก่อน
การเข้ามาในครั้งก่อน เขาไม่ใช่ผู้คุมค่ายกล แม้จะลำบาก แต่ว่าสามารถเคลื่อนไหวไปด้านหน้า มิได้มีความรู้สึกอันตรายเหมือนจิตสังหารกรายถึงศีรษะเช่นตอนนี้
ขณะนี้กลับเหมือนเป็นอย่างที่เยี่ยนจ้าวเกอพูด คล้ายกับว่าตนทะลวงเข้ามาในดินแดนอันตรายที่มีแต่ความตายรออยู่
เซียนเมฆดำแตกตื่น เห็นขณะที่แสงทองและหมอกเหลืองแผ่พุ่งในค่ายกล ประตูที่ตั้งอยู่บนแท่นสี่แท่น ก็เสถียรมั่นคงแล้ว
บนคานประตูของประตูสามบาน ลอยไว้ด้วยกระบี่ลงทัณฑ์เซียน ลวงเซียน และผนึกเซียน ประกายเย็นเยียบหนาวเหน็บ
นอกจากนี้ยังมีบนคานของประตูอีกบาน ก็ปรากฏเงามายาของกระบี่สังหารเซียนแขวนลอยอยู่
ตอนนี้ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนเริ่มทำงาน สำแดงอานุภาพ ไหนเลยยังมีลักษณะไม่มั่นคงเช่นก่อนหน้า?
‘ก่อนหน้านี้ยังวัดกำลังกับค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งอยู่แท้ๆ…’ เซียนเมฆดำพลันนึกอะไรได้ สีหน้าเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
เห็นลมโรคาสีดำสนิทที่ก่อนหน้านี้กระจายทั่วธารสวรรค์ สลายหายไปมากแล้ว
น้ำในธารสวรรค์มิได้ขุ่นเท่ากับก่อนหน้า กระจ่างใส่กว่าเดิมไม่น้อย
ดวงดาวหลายจุดลอยจมกลางน้ำในธารสวรรค์อีกครั้ง บัดเดี๋ยวสูญหายบัดเดี๋ยวปรากฏ
ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนยิ่งมายิ่งมั่นคง ยิ่งมายิ่งแข็งแกร่ง
ค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งกลับตรงกันข้าม ยิ่งมายิ่งอ่อนแอ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี