การพัฒนาของผู้ฝึกกระบี่มีความยากลำบาก ยิ่งขึ้นสูงยิ่งเป็นเช่นนี้ โดยเฉพาะหลังจากขึ้นสู่ระดับเซียนแล้ว
การซ่อมคมหล่อเลี้ยงกระบี่ เป็นวิชาลับที่คนรุ่นก่อนของสายเหนือพิสุทธิ์ศึกษาและสร้างขึ้นเพื่อทำลายคอขวด
ลับมีดไม่เสียเวลาฟันฟืน การหยุดนิ่งในตอนนี้ ก็เพื่อที่เส้นทางในอนาคตจะได้ราบเรื่นกว่าเดิม
เพียงแต่วิชานี้ยากฝึกฝน คนที่มีความสามารถฝึกฝนสำเร็จเดิมก็มีน้อยมากอยู่แล้ว ในนี้มีคนที่มีความสามารถแต่ไม่เหมาะสม ต้องลดจำนวนลงอีกส่วนหนึ่ง
เช่นเกาเสวี่ยจี้เป็นต้น หรือว่าถ้าเยี่ยนตี๋ฝึกฝนมรรคากระบี่ ก็ไม่เหมาะกับการซ่อนคมหล่อเลี้ยงกระบี่เช่นกัน
เมื่อเป็นแบบนี้ คนที่ฝึกฝนการซ่อนคมหล่อเลี้ยงกระบี่จึงน้อยกว่าเดิม
ทว่าเกาฉิงกลับฝึกฝนวิชานี้ได้ ตอนนี้ถึงแม้จะหยุดอยู่ที่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ชั่วคราว ถึงขั้นอาจหยุดนิ่งหลายปี แต่เป็นการสร้างรากฐานเผื่ออนาคต มีประโยชน์มากกว่าโทษ
“เผลอแปปเดียวก็ผ่านไปร้อยปีแล้ว คนรุ่นใหม่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างสะท้อนใจ “ฟังว่าหลายปีมานี้มรกตท่องฟ้าให้กำเนิดอัจฉริยะรุ่นหลังอีกคนหนึ่ง ศักยภาพและพรสวรรค์ไม่ด้อยกว่าอาจารย์ลุงหลงกับศิษย์พี่อวี่เมื่อครั้งกระโน้น ช่างน่ายินดีจริงๆ”
เทียบกับเกาเสวี่ยพอและหลงเสวี่ยจี้สองพี่น้องแล้ว เยี่ยนจ้าวเกออายุน้อยมาก แต่ว่าเขาใช้น้ำเสียงผู้อาวุโสวิจารณ์อัจฉริยะสำนักเต๋าที่ปรากฏขึ้นมาใหม่ พวกเกาเสวี่ยพอไม่คิดว่ามีปัญหาอะไร
หลงเสวี่ยจี้กล่าวต่อวาจาของเยี่ยนจ้าวเกอด้วยสีหน้าเป็นธรรมชาติ “เป็นเหล็กที่ดี แต่ยังรอการหลอมตี จึงค่อยสามารถหลอมกลายเป็นเหล็กกล้าได้”
“ทุกคนยินดีเหมือนกัน” เกาเสวี่ยพอเอ่ย “ไม่กี่ปีมานี้ฟ้าเหนือฟ้าก็ไม่ใช่ว่ามีอัจฉริยะสะท้านโลกอีกครั้งหรอกหรือ? ยังเป็นศิษย์กว่างเฉิง”
เยี่ยนจ้าวเกอพูดด้วยรอยยิ้ม “เด็กคนนั้นหากใช้คำพูดของอาจารย์ลุงหลงล่ะก็ ยังรอการเคี่ยวกรำอยู่”
“และมีคนที่เคี่ยวกรำดีแล้วด้วย” เกาเสวี่ยพอใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม “แม้เป็นก่อนมหาภัยพิบัติ ก็หายากที่ต่างฝ่ายต่างมีจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุขที่เตรียมตัวผลักเปิดประตูเซียนจำนวนมากขนาดนี้”
“นี่เป็นความบังเอิญ” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “หนำซ้ำจะต้องมีก่อนมีหลังแน่นอน ไม่ถึงกับผลักเปิดประตูเซียนได้พร้อมกัน ยังต้องดูวาสนาของแต่ละคนด้วย”
เป็นอย่างที่เกาเสวี่ยพอว่า ภายใต้การสั่งสมมาหลายปี คนของเขากว่างเฉิงค่อยมีพร้อมพรัก กำลังทะลักอีกรอบหนึ่ง
ไม่เพียงแต่ก่อนหน้านี้ไม่นานหยวนเจิ้งเฟิงเพิ่งผลักเปิดประตูเซียนสำเร็จ หลังจากเขา ตามติดด้วยฟางจุ่น อิงหลงถู ซือคงจิง และเซี่ยกวง
อาหู่ถึงแม้ไม่ใช่ศิษย์กว่างเฉิง แต่ก็กลายเป็นประมุขในหมู่คนมาหลายปีแล้วเช่นกัน กำลังเตรียมตัวเพื่อผลักเปิดประตูเซียน
ถ้าหากไม่ประมาท ในเวลาไม่กี่ปีนี้ เขากว่างเฉิงมีความเป็นไปได้ที่จะปรากฏเซียนจริงแท้มากกว่าห้าคนขึ้นไปติดต่อกัน
จำนวนนี้ใกล้เคียงจำนวนคนจากทุกเขตแดนของมรกตท่องฟ้าที่เลื่อนสู่ระดับเซียนในไม่กี่ปีมานี้
มิน่าเกาเสวี่ยพอจึงได้ถอนใจชมเชย
นอกจากฟ้าเหนือฟ้าและเขากว่างเฉิงแล้ว เพียงเพิ่มฟู่ถิง เหอซีสิง กับไป๋เทาเซียนจริงแท้สามคน
สั่งสมอย่างเงียบๆ มาหลายปี ในที่สุดยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ของฟ้าเหนือฟ้า ก็ค่อยๆ ทะยอยทะลวงสู่ระดับเซียน
ตอนนี้ถึงแม้จะเร็วไป แต่ว่าในอนาคตจะมีคนจำนวนมากกว่าเดิมท้าสู้ภัยพิบัติมนุษย์เซียน
สือจวินแห่งเขากว่างเฉิง เสี่ยวอ้ายแห่งหุบเขาเจิดจรัส หลงฮั่นหวาและถังหย่งฮ่าวแห่งโถงทอง เมิ่งหวานแห่งผาบัวแดงบนยอดเขาอัศจรรย์ ต่างเลื่อนสู่ระดับประมุขในหมู่คนแล้ว เริ่มสั่งสมอย่างเงียบๆ
นอกจากนี้ยังมีหวังผู่แห่งเขานครหยก เสิงม่อแห่งอารามคงมายาบนเขาหอเมฆหา ก็เป็นแบบนี้เช่นนี้
ภัยพิบัติสัจพิศวงไม่ใช่ธรรมดา หากล้มเหลวพ่ายแพ้ก็จะเสียชีวิต
ดังนั้นการขวางกั้นของมนุษย์เซียนจึงมีคนติดอยู่หลายคน ทั้งติดเป็นหลายปี นี่เป็นกฎเกณฑ์เชิงภววิสัย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี