พิจารณาจากพลังฝึกปรือ ผู้ที่เข้าร่วมการประชุมฝ่านภาครั้งนี้ยิ่งเป็นจอมยุทธ์ขั้นฝ่านภา ล้วนระดับขั้นสูงกว่าเยี่ยนจ้าวเกอ
ถึงแม้ว่าจอมยุทธ์ระดับขั้นฝ่านภาส่วนมากล้วนมุ่งบำเพ็ญเพียร น้อยนักจะออกมาเดินอยู่ภายนอก ทว่าการประชุมฝ่านภาก็เป็นสถานการณ์พิเศษ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์โดยรวมของโลกแปดพิภพในปัจจุบันค่อนข้างตึงเครียด การประชุมฝ่านภาครานี้จึงยิ่งปรากฏความสำคัญ
พิจารณาจากพลังความสามารถแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอในขณะนี้ ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถครองอันดับหนึ่งในการรวมตัวผู้มากความสามารถในการประชุมฝ่านภาได้
ทว่าระดับปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาระยะต้นของเขา เอาชนะหลิวเซิ่งเฟิงในระดับปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาระยะท้าย ก็มีความเป็นไปได้ว่าเขาจะเป็นที่หนึ่งเพียงคนเดียวในการประชุมฝ่านภาครั้งนี้
ถึงอย่างไรหลิวเซิ่งเฟิงก็แตกต่างจากจอมยุทธ์ขั้นเคียงนภาทั่วไป
อย่าเพิ่งไปสนใจว่าด้านอื่นจะเป็นอย่างไร เพียงแค่พลังฝึกปรือและวรยุทธ์ เขาเป็นศิษย์สืบทอดหลักของเขาไร้พรมแดน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งภูผาพิภพเสมอมา แม้จะมีปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาระยะท้ายหลายคนล้อมโจมตีเขาเพียงลำพัง เขาก็สามารถพลิกกลับมาเอาชนะได้
อย่างน้อยหากถามเซี่ยโยวฉาน หลิวเซิ่งเฟิงน่าจะเป็นสถานการณ์ครึ่งต่อครึ่ง แพ้หรือชนะต้องดูการสำแดงความสามารถ ณ สนามรบ
ดังนั้นบัดนี้มองดูเยี่ยนจ้าวเกอ เซี่ยโยวฉานชื่นชมชายหนุ่มด้วยน้ำใสใจจริง จางเหยาที่อยู่ข้างกายนางก็ยิ่งเลื่อมใสศรัทธา
เยี่ยนจ้าวเกอรับเอาเกราะภูผาวิญญาณของหลิวเซิ่งเฟิงมา เท่ากับซานสือเวิงยอมรับโดยปริยายแล้วว่ามันตกเป็นของเขาแล้ว
‘หากข้าเปิดนิทรรศการของที่ยึดมาได้จากคู่ต่อสู้ ทุกอย่างล้วนเป็นอาวุธต่อสู้ติดป้ายของศิษย์สืบทอดแต่ละสำนัก โดดเด่นน่ะโดดเด่น แต่จะถูกยกพวกตะลุมบอนเพราะกำแหงเกินไปหรือไม่เล่า’
มุมปากเยี่ยนจ้าวเกอกระตุกครั้งหนึ่ง ก่อนกล่าวกับเซี่ยโยวฉานว่า “ศิษย์พี่เซี่ยชมเกินไปแล้ว”
ชายหนุ่มมองบริเวณโดยรอบ บัดนี้เกาะน้อยเละเทะไปทั้งผืน เขาเอ่ยด้วยท่าทางทุกข์ใจจากความรู้สึกผิดอยู่บ้าง “นี่อาจสร้างความเสียหายมหาศาลกว่าที่เจ้าตัวใหญ่ตัวนั่นทำเสียอีก”
หมีสยงเมายักษ์ตัวนั้นถูไถเขาแล้วถูไถอีก แววตาปรากฏความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาอย่างยิ่ง
เซี่ยโยวฉานเอ่ย “ไม่เป็นไร มูลเหตุนั้นเกิดจากตัวหลิวเซิ่งเฟิง ผู้อาวุโสสำนักข้าจะเจรจากับผู้อาวุโสซานสือเวิงแห่งเขาไร้พรมแดนเอง”
หลังจากนั้นทุกคนก็เตรียมตัวออกเดินทางกลับเกาะปิดนภา
กลับไปครานี้ ทุกคนล้วนได้นั่งอยู่บนตัวหมีสยงเมายักษ์ตัวนั้น เจ้าทึ่มนี้ก็ไม่กลัวคนแปลกหน้าเช่นกัน บรรทุกทุกคนเดินทางเหยียบย่ำน้ำไป
ยกเว้นแต่เพียงจอมยุทธ์วัยกลางคนผู้นั้นคนเดียวเท่านั้น หมีสยงเมายักษ์เองก็ผูกพยาบาทเช่นกัน จำได้ว่าตอนนั้นอีกฝ่ายยิงมันในจุดหัวเลี้ยวหัวต่อสุดท้ายขณะที่มันกำลังเลื่อนขั้น
เพียงแต่แม้ว่าจะไม่ให้เขาขึ้นขี่ แต่มันก็ก่อกระแสน้ำสีดำสายหนึ่งออกมาด้านหน้า เพื่อประคองเขาไว้ พากลับเกาะปิดนภาพร้อมกัน
จอมยุทธ์วัยกลางคนผู้นี้ฐานะเดิมอยู่ที่ขุมกำลังใกล้ชิดกับหอคลื่นโหม หน้ามืดขออนุญาตหอคลื่นโหมเข้ามาทะเลสาบปิดนภาเพื่อหาโชค แต่กลับก่อเรื่องบนอาณาเขตทะเลสาบปิดนภา หอคลื่นโหมต้องมีการแสดงท่าทีไม่มากก็น้อยถึงจะใช้ได้
ยิ่งไปกว่านั้น คนผู้นี้บาดเจ็บหนักหน่วงยิ่ง หากรักษาให้รอดพ้นอันตรายไม่ทันกาล ยากจะเลี่ยงอันตรายถึงแก่ชีวิต ดังนั้นเซี่ยโยวฉานจึงตัดสินใจพาเขากลับเกาะปิดนภา
การที่นั่งอยู่บนหมีสยงเมายักษ์ จางเหยาเปี่ยมล้นไปด้วยความสนุกสนานยิ่ง อาหู่ก็ยิ้มแฉ่งเช่นกัน อย่างไรเสียปี่เซียะภูเขาก็หาพบได้ยาก
เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกสับสนอยู่บ้างเช่นกัน มองดูหมีสยงเมายักษ์ที่คล้ายกับช้างตัวน้อยด้านล่างบั้นท้ายตนด้วยสีหน้าแปลกประหลาด
“ลักษณะภาพมันช่างประหลาดอยู่บ้างจริงๆ…” เยี่ยนจ้าวเกอสังเกตคนอื่นๆ ด้วยความระมัดระวัง ทว่าคนอื่นล้วนไม่ใส่ใจ กลับจะสนุกสนานอย่างมากเสียด้วยซ้ำไป นี่ทำให้เขาสบายใจอยู่บ้างไม่มากก็น้อย
ชายหนุ่มเอ่ยถามเซี่ยโยวฉานว่า “ศิษย์พี่เซี่ย ที่แห่งนี้ของพวกท่าน มีโลหะเพลิงแดงกับโลหะแสงเย็นบ้างหรือไม่”
เซี่ยโยวฉานกล่าวตอบ “ล้วนแล้วแต่พบได้บ่อยยิ่ง แหล่งแร่ผลิตออกมาอย่างเพียงพอ แม้ว่าแถบทะเลสาบปิดนภาจะไม่มีสายแร่ แต่บนเกาะปิดนภาก็มีเก็บไว้อยู่บ้าง เจ้าต้องการรึ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี