จอมมารที่ควบคุมธงแดนเมฆสีม่วงนั้น ปล่อยควันหอมหลายชั้น ปกป้องพวกเนี่ยจิงเสินที่ได้สารีริกธาตุมา ขัดขวางมหาวิทยราชมยุรี
เนี่ยจิงเสินเปิดทาง พวกราชาปีศาจกระทิงและเซียนหัวมองกรที่อยู่รอบนอกรับช่วง เหล่ามารทะลวงออกไปด้านนอก
พวกพุทธจากแดนสุขาวดีตะวันตกกับมหาวิทยราชมยุรีย่อมไม่ปล่อยให้พวกเขาจากไปเช่นนี้
สองฝ่ายพัวพัน สงครามสับสนไม่หยุดลง
มหาวิทยราชมยุรีกับนักบวชศาสนาพุทธทำลายการขัดขวางจากธงแดนเมฆสีม่วงไม่ได้ กระนั้นพวกเนียจิงเสินคิดจากไปก็ไม่ง่ายเช่นกัน
ยามนี้ในความว่างเปล่าพลันปรากฏบัวเขียวหลายดอก
ผู้นำเปี่ยมปัญญาเมตตาสงสาร เป็นพระโพธิสัตว์กวนอิม
นักบวชศาสนาพุทธกลุ่มหนึ่งด้านหลังท่าน ล้วนเป็นคนที่ออกจากแดนสุขาวดีตะวันตกเป็นกลุ่มแรกเมื่อก่อนหน้า ปิดบังหูตาคนอื่นๆ อำพรางให้แก่นักบวชศาสนาพุทธที่ออกไปเป็นกลุ่มที่สองอย่างพวกวัชรอภิณฑ์พุทธะ
ถึงแม้ผลลัพธ์จะไม่ได้ดีพออย่างที่คิดไว้ ทว่าหลังจากพวกพระโพธิสัตว์กวนอิมวนอ้อมรอบหนึ่ง ก็มาถึงที่นี่ทันเวลา กลายเป็นทัพหนุนของศาสนาพุทธ
พระโพธิสัตว์กวนอิมพอปรากฏตัว ในมือเพิ่มขวดหยกใบหนึ่ง ปากขวดมีกิ่งหลิวปักเอียงอยู่
พระโพธิสัตว์หยิบกิ่งหลิวขึ้นมาโบกเบาๆ น้ำทิพย์เทลง
น้ำทิพย์กระจายทั่ว ทำให้คนอื่นๆ เต็มไปด้วยความกระปรี้กระเปร่า แต่ทำทำให้เหล่ามารเหมือนถูกสาดน้ำมัน ร่างมีควันลอย ส่งเสียงร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด
เนี่ยจิงเสินถูกน้ำทิพย์ชะโลมร่าง ก็ส่งเสียงครางหนักๆ คำหนึ่ง
ประกายกระบี่ในมือเขาวูบไหว กลายเป็นจุดความโกลาหลจุดหนึ่ง สั่นไหวมิติเวลารอบๆ
น้ำทิพย์หลายหยดล้วนถูกเนีย่จิงเสินใช้ประกายกระบี่จับไว้ หุบเป็นจุดเดียวแล้วหายไป
พระโพธิสัตว์กวนอิมมือถือกิ่งหลิว อีกมือถือแจกันหยก เทปากแจกันวใส่เนี่ยจิงเสิน
ในปากแจกันพลันส่งแรงดึงดูดมหาศาลมา ต้องการดูดเนี่ยจิงเสินเข้าไปด้านใน
ประกายกระบี่ของเนี่ยจิงเสินหนึ่งหุบหนึ่งกาง เหมือนกับความโกลาหลระเบิดแตก ความขมุกขมัวถูกเปิดผ่า กระแทกแจกันหยกออกไป
จากนั้นเขาขยับกระบี่ดุจโบยบิน ฟันออกอีกหนึ่งกระบี่ ปะทะกับความสามารถถลึงตาปราบมารของวัชรอภิณฑ์พุทธะทันที ทำให้อีกฝ่ายชนกำแพงกลับไป
ยอดฝีมือจำนวนมากของสองฝ่ายรบกันไม่เลิกราดุจโคมม้าวิ่ง ไม่ยอมถอยให้กัน
ทว่าทันใดนั้น ความว่างเปล่าพลันแตกออก นกเผิงยักษ์ปีกทองตัวหนึ่งกระพือปีกบินมา มาถึงในพริบตา
เพียงเวลาชั่วกะพริบตา แสงทองหมื่นสาย นักบวชศาสนาพุทธที่อยู่รอบๆ ไม่มีผู้ใดไม่ถูกมันจู่โจม
ถึงกับเป็นเผิงท่องเมฆหมื่นลี้รุดมาถึง
มหาวิทยราชมยุรีสาดแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีลงอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ไม่กล้ารับกระบวนท่า รีบร้อนหลบหลีก
ทว่าเทพมารที่ได้รับสารีริกธาตุมาแล้วตนนั้น กลับโบกมือ ส่งสารีริกธาตุไปไว้ในมือของเผิงท่องเมฆหมื่นลี้
เผิงท่องเมฆหมื่นลี้รับสารีริกธาตุศากยมุณี ก็หนีไปไกลโดยไม่หันหน้ากลับทันที
มหาวิทยราชมยุรีสีหน้าไร้อารมณ์ แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีไหลเวียน ไม่ปรานีพี่น้องร่วมครรภ์แม้แต่น้อย
ภายใต้ผลของแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีที่ม้วนพัดไปทั่วฟ้าดิน เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ถึงกับเกิดความรู้สึกบินไม่ได้ชั่วขณะ
มหาวิทยราชมยุรีไม่สนใจมารปีศาจตนอื่น สาวเท้ายาวๆ ไล่ตามเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ไป
เผิงท่องเมฆหมื่นลี้แม้ความเร็วจะได้รับผลกระทบ แต่ยังพยายามโบยบินออกไป
จอมปีศาจสองตนที่รากฐานเป็นวิหคเหมือนกัน ท่านไล่ข้ามตาม พริบตาเดียวก็ออกไปไกล
เมื่อไม่มีมหาวิทยราชมยุรีคอยคุกคามอยู่ด้านข้าง ไม่ว่าเหล่ามารแห่งนพยมโลกหรือว่าจอมปีศาจ พลันผ่อนคลายลงไม่น้อย
แดนสุขาวดีตะวันตกก็หมดความมั่นใจที่จะรั้งพวกเขาทั้งหมดไว้ที่นี่
ทว่าในตอนนั้นเอง ในอาณาบริเวณเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
พวกเยี่ยนจ้าวเกอที่ซ่อนเร้นร่องรอย คอยสังเกตการณ์อย่างเงียบๆ มาโดยตลอด ในที่สุดก็เคลื่อนไหวแล้ว
กายทองมหาเทวะที่พ่านพ่านแปลงกายขึ้นยกกระบองสารพัดนึกฟาดมา ตีธงวิเศษบัวเขียวที่ไม่อาจสำแดงความสามารถหลุดจากมือวัชรอภิณฑ์พุทธะ
เยี่ยนจ้าวเกอถือโอกาสคว้าธงมาไว้ในมือ
พวกพระโพธิสัตว์กวนอิม สมันตภัทรโพธิสัตว์ต้องการหยุดยั้ง หากแต่เฟิงอวิ๋นเซิง พ่านพ่าน จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ไม่มีทางให้พวกท่านสมหวัง
พวกราชาปีศาจกระทิง เซียนหัวมังกร กับเทพมารทั้งหลายหน้าบอกบุญไม่รับ ห้อมล้อมเข้ามา
หลายฝ่ายผนึกกำลัง ตอนนี้เป็นตานักบวชศานาพุทธต้องกังวลว่า ตนจะออกจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
แต่ว่าแสงสว่างส่องระยิบระยับแต่ไกล เสียงมนตราบทสวดมนต์ดังขึ้นอีกครา
นักบวชศาสนาพุทธที่ก่อนหน้านี้เฝ้าแดนสุขาวดีตะวันตก คอยดำเนินพิธีกรรามค้นหาสารีริกธาตุศากยมุณีกับทีปังกรพุทธะ ยามนี้รุดมาถึง กลายเป็นทัพหนุนกลุ่มหนึ่ง
ขณะมองธงวิเศษบัวเขียวที่ตกไปอยู่ในมือเยี่ยนจ้าวเกอ ผู้ยิ่งใหญ่ศาสนาพุทธต่างก็เงียบงัน
พวกท่านคิดจะลองชิงธงกลับมา ทว่าภายใต้การขัดขวางจากพวกเฟิงอวิ๋นเซิง ยากจะสมปรารถนาได้ชั่วขณะ
รอบนอบถึงจะมีทัพหนุนฝ่ายตนรุดมาถึง แต่เผ่าปีศาจ สำนักเต๋า กับนพยมโลกก็อาจจะมีการสับสนุนตามมาเช่นกัน
มหาวิทยราชมยุรีไล่ตามสารีริกธาตุศากยมุณีจากไป พวกท่านคิดสู้ต่อยากยึดครองความได้เปรียบ พร้อมกับเวลาที่ผ่านไปยังอาจยิ่งมายิ่งลำบาก
ขณะถอนใจ เหล่าพุทธะแห่งแดนสุขาวดีละทิ้งความอาวรณ์และความยึดติด เริ่มหาโอกาสถอยหลัง
สายตาของเยี่ยนจ้าวเกออยู่บนร่างของเนี่ยนจิงเสิน
กลับเห็นเนี่ยจิงเสินหลังจากเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ได้สารีริกธาตุศากยมุณี สู้ๆ หยุดๆ กับมหาวิทยราชมยุรีพร้อมหนีไป ก็เก็บกระบี่ ไม่มีความคิดเคลื่อนไหวต่ออีก
ในสงครามชุลมุน ณ เวลานี้ เขาเพียงหันกาย ออกจากที่นี่
“ศิษย์พี่เนี่ย!” เยี่ยนจ้าวเกอร้องเรียกคำหนึ่ง เนียจิงเสินไม่หยุดเท้า
เฟิงอวิ๋นเซิงมองเยี่ยนจ้าวเกอ เยี่ยนจ้าวเกอส่ายหน้า ไล่ตามเนี่ยจิงเสิน เฟิงอวิ๋นเซิงติดตามไปด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี