เหล่านักบวชศษสนาพุทธจากแดนสุขาวดีตะวันตกแตกตื่นที่ธงแดนเมฆสีม่วงถึงกับตกไปอยู่ในมือนพยมโลก
ธงวิเศษบัวเขียวของฝ่ายตนแปดเปื้อนน้ำทะเลจากเหวทะเลมารแห่งนพยมโลกแล้ว อีกฝ่ายกลับพลิกฝ่ามือหยิบธงแดนเมฆสีม่วงที่ได้รับการเรียกขนานเทียบเท่ากับธงวิเศษบัวเขียวออกมา
คนในศาสนาพุทธที่อยู่รอบๆ ไม่มีความสามารถอันใดมาแก้ไขธงแดนเมฆสีม่วง
นี่เหมือนกับการประชดประชันที่มองไม่เห็นสำหรับคนในศาสนาพุทธ
ทว่าเผชิญกับหมู่มารที่จู่โจมมา พวกผู้ยิ่งใหญ่แห่งศาสนาพุทธอย่างวัชรอภิณฑ์พุทธะกับสมันตภัทรโพธิสัตว์สงบอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว ต้านทานศัตรูที่บุกมาถึง
ตรงหน้าวัชรอภิณฑ์พุทธะ เนี่ยจิงเสินนำหน้าทัพ
พลันมีจิตกระบี่อันน่าตกตะลึงแห่งการทำลายล้างฟ้าดินบังเกิดขึ้นบน่ร่างของบุรุษอาภรณ์ดำที่ก่อนหน้านี้สงบราบคาบ
ภายใต้การส่องสะท้อนจากกลิ่นอายอันน่ากลัว พุทธเกษตรที่วัชรอภิณฑ์พุทธะเสกออกมา ต่างปรากฏสภาพเสื่อมทรามพินาศ
วัชรอภิณฑ์พุทธะขมวดคิ้วทันที
ท่านคือพุทธะที่เป็นรองเพียงพระศรีศากยมุณีพุทธเจ้า ในสามสิบห้าพุทธะแห่งแดนอภิรดีศูนย์กลางครั้งยุคโบราณตอนกลาง เป็นผู้เข้มแข็งที่อยู่ในชั้นแถวหน้าของแดนอภิรดีศูนย์กลาง ณ ขณะนั้น
ถึงจะไม่เก่าแก่เท่าผู้ยิ่งใหญ่ศาสนาพุทธอย่างทีปังกรพุทธะ แต่วัชรอภิณฑ์พุทธะก็มีชื่อเสียงโด่งดังมามากกว่าเวลายุคสมัยหนึ่ง
ครั้งกระโน้น ท่านเคยต่อสู้กับมารดาบ มารทองแก่รุ่นก่อนหน้าด้วยตัวเอง
ทว่าวัชรอภิณฑ์พุทธะขณะนี้ยืนยันได้โดยเด็ดขาดว่า เนี่ยจิงเสินมารทองแก่รุ่นใหม่ผู้อยู่ตรงหน้า แข็งแกร่งกว่ามารดาบในตอนนั้น
ตามที่วัชรอภิณฑ์พุทธะทราบ เกรงว่าจะมีแค่มารทองแกรุ่นที่หนึ่งที่โผล่ขึ้นมาพร้อมกับธรรมชาติ ใช้ชีวิตร่วมกับฟ้าเท่านั้น จึงจะเทียบเคียงกับเขาได้
แลสิ่งที่น่าหวั่นเกรงยิ่งกว่าก็คือ คนตรงหน้าถึงกับคล้ายมีศักยภาพแข็งแกร่งกว่า อยากจะสำแดงเต็มแก่
‘เทพมารกรอกศีรษะไม่อาจข้ามขีดจำกัดของรุ่นก่อนได้ แต่คนผู้นี้กลับคล้ายยังพัฒนาต่อได้ เกรงว่าเขาจะเป็นมารทองแกที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ประวัติศาสตร์เคยมีมา และก่อนหน้านี้ไม่เคยปรากฏมาก่อน’
วัชรอภิณฑ์พุทธะสงบจิตใจของตัวเอง ใช้อิริยาบถที่ดีที่สุดของตัวเองต้านรับคู่ต่อสู้อ่อนเยาว์ตรงหน้า
ไม่เพียงแต่พุทธะเหมือนกับกลายเป็นเทวราช แข็งแกร่งไม่อาจทำลาย แดนสุขาวดีพุทธเกษตรรอบๆ ตัวท่านก้เปลี่ยนจากสีเครื่องเคลือบ เป็นสีทองบริสุทธิ์ด้วยเหมือนกัน
แสงพุทธที่บริสุทธิ์และโปร่งแสงผืนหนึ่ง ดูเหมือนเปราะบาง หากแต่แข็งแกร่งทนทานถึงขีดสุด แสดงจิตพลังแห่งเทวราชไม่พังทลาย และความเป็นความตายความไม่เที่ยงของศาสนาพุทธถึงขีดจำกัดของขอบเขตในปัจจุบัน
ไม่นับอิทธิฤทธิ์อย่างอื่น เพียงพูดถึงระดับควาทนทานของกายทองแห่งศาสนาพุทธ วัชรอภิณฑ์พุทธะที่แล้วมาได้รับคำชมเชยเป็นอันดับหนึ่งแห่งพุทธะ เหนือวก่าผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดของศาสนาพุทธอย่างทีปังกรพุทธะ พระโพธิสัตว์กวนอิม
กายทองไร้ประมาณ พุทธเกษตรเทวราชปรากฏ แม้แต่จิตกระบี่ที่ดุร้ายของเนี่ยจิงเสินก็เมหือนกับยากจะแทรกเข้าไปอยู่ชั่วขณะ
วัชรอภิณฑ์พุทธะที่แล้วมาไม่ใช่คนที่เอาแต่ป้องกัน
พลังป้องกันที่แข็งแกร่งสุดขีด ความจริงหมายถึงความสามารถการโจมตีซึ่งหน้าที่แข็งแกร่ง ระหว่างหนึ่งมือหนึ่งเท้ายิ่งใหญ่หนาหนักเหมือนกับเขาเทพพลิกคว่ำ ธารสวรรค์ม้วนพลิก สภาวะไม่อาจต้านทาน
พุทธะยกฝ่ามือขึ้น ตบมาใส่เนี่ยจิงเสิน
เนี่ยจิงเสินมองวัชรอภิณฑ์พุทธะอย่างเย็นชา ปราณกาลีไร้สิ้นสุดผนึกรวมในมือ กลายเป็นกระบี่ยาวสีทองหม่นอันเย็นเยียบ
ประกายกระบี่สาดแวบ ถึงกับเร็วกว่าความเร็วในการใช้คัมภีร์กระบี่ลวงเซียนของเจ้าแม่อู๋ตัง ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเหนือพิสุทธิ์
วัชรอภิณฑ์พุทธะเพิ่งจะยกมือขึ้น คมกระบี่ของเนี่ยจิงเสินก็บรรลุถึงตรงหน้าท่านแล้ว
ประกายกระบี่ที่รุนแรงหุบ ถึงกับหดกลายเป็นจุดจุดเดียวในชั่วพริบตา
แสงสีทองหม่นหายไป ประกายแสงเจิดจ้าสูญหาย เวลาก่อนหลังกับเป็นตาายหยินหยาง วินาทีนี้เหมือนกับสูญเสียนิยาม ทุกอย่างกลับไปอยู่ในความขมุกขมัวสับสน ก่อนการเปิดฟ้า
ไร้หน้าไร้หลัง ไร้ซ้ายไร้ขวา ไร้เริ่มต้นไร้สิ้นสุด ไร้เย็นไร้ร้อน มิติเวลายังไม่กำหนด สรรพชีวิตยังไม่ปรากฏ
เพียงแต่จุดจุดเดียว เหมือนเล็กจนยากบรรยาย ซ้ำยังเหมือนใหญ่จนไม่อาจใหญ่กว่านี้
อีกด้านหนึ่ง สมันตภัทรโพธิสัตว์เซ่นบัวทองสามธรรม คลุมมายังศีรษะของเนี่ยจิงเสิน
บัวทองทองหมุนวน เวลา มิติ หยินหยาง ความมหัศจรรย์สามอย่างต่างบังเกิดขึ้น มาจากจิตหลักการของผู้สืบทอดหยกพิสุทธิ์แห่งสำนักเต๋า หลอมรวมกับวัฏจักร อนัตตา ความไม่เที่ยงสามความคิดแห่งศาสนาพุทธ ลี้ลับไร้สิ้นสุด
เนี่ยจิงเสินเผชิญกับการคุกคามนี้ ไม่อาจไม่หมุนตัวออกกระบี่ ต่อสู้กับบัวทองสามธรรมก่อน
ประกายกระบี่ของเขาเหมือนกับหดตัวเป็นจุดเดียว ต้องการดูดบัวทองสามธรรมเข้าไป
บัวทองสามธรรมแสดงความลี้ลับ หมุนติ้วพลางพ่นแสงหลายสายไปรอบๆ ต้านทานกานเปลี่ยนแปลงของมิติเวลา ไม่ให้ประกายกระบี่ของเนี่ยจิงเสินหดตัวได้ต่อ
ทว่าประกายกระบี่จุดหนึ่งขยายขึ้นทันที ยิ่งใหญ่ไม่ธรรมดา พลังผลักภูเขาถมทะเลระเบิดออก กระแทกบัวทองสามธรรมออกไป!
บนกลีบดอกบัวสีทองถึงขั้นปรากฏรอยแตก ขยายใหญ่ออกอย่างต่อเนื่อง
สมันตภัทรโพธิสัตว์รีบร้อนเก็บบัวทองสามธรรม หลังจากกระบี่นี้ของเนียจิงเสิน ก็คล้ายไร้ารหยุดนิ่ง หนึ่งกระบี่กดดันวัชรอภิณฑ์พุทธะต่อ!
แต่ว่าวัชรอภิณฑ์พุทธะได้รับการช่วยเหลือจากสมันตภัทรโพธิสัตว์ พุทธเกษตรเทวราชที่เสกออกมาพลันเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งสมบูรณ์อีกรอบหนึ่ง
กายทองพุทธะมหึมาสุดเปรียบปราน โต้ตอบเนี่ยจิงเสิน
ทว่าเนี่ยจิงเสินหนึ่งกระบี่ต่อหนึ่งกระบี่ ประกายกระบี่สีทองหม่นพลิกลอยซ้ายขวา ภาพอันขมุกขมัวเดี๋ยวหุบเดี๋ยวกาง ถึงกับเหมือนยิ่งสู้ยิ่งเหี้ยมหาญ
สมันตภัทรโพธิสัตว์คิดขึ้นหน้า แต่มีผู้ยิ่งใหญ่วิถีมารตนอื่นขัดขวาง
จอมมารในนพยมโลกตนอื่นๆ พากันจู่โจมนักบวชศาสนาพุทธที่เหลือ
เทพมารที่ทำให้ธงวิเศษบัวเขียวแปดเปื้อนตนนั้นฉวยโอกาสกระโดดขึ้น บรรลุถึงด้านข้างสารีริกธาตุศากยมุณีเก็บ สารีริกธาตุศากยมุณีแล้ว
เนี่ยจิงเสินเห็นดังนั้นก็ไม่คิดสู้ต่อ ขวางประกายกระบี่ กดดันวัชรอภิณฑ์พุทธะถอยหลังอย่างหักโหม ก่อนจะบัญชาเหล่ามารสู้พลางถอยพลาง ออกจากสถานที่แห่งนี้ทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี