ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 1657

เหล่านักบวชศษสนาพุทธจากแดนสุขาวดีตะวันตกแตกตื่นที่ธงแดนเมฆสีม่วงถึงกับตกไปอยู่ในมือนพยมโลก

ธงวิเศษบัวเขียวของฝ่ายตนแปดเปื้อนน้ำทะเลจากเหวทะเลมารแห่งนพยมโลกแล้ว อีกฝ่ายกลับพลิกฝ่ามือหยิบธงแดนเมฆสีม่วงที่ได้รับการเรียกขนานเทียบเท่ากับธงวิเศษบัวเขียวออกมา

คนในศาสนาพุทธที่อยู่รอบๆ ไม่มีความสามารถอันใดมาแก้ไขธงแดนเมฆสีม่วง

นี่เหมือนกับการประชดประชันที่มองไม่เห็นสำหรับคนในศาสนาพุทธ

ทว่าเผชิญกับหมู่มารที่จู่โจมมา พวกผู้ยิ่งใหญ่แห่งศาสนาพุทธอย่างวัชรอภิณฑ์พุทธะกับสมันตภัทรโพธิสัตว์สงบอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว ต้านทานศัตรูที่บุกมาถึง

ตรงหน้าวัชรอภิณฑ์พุทธะ เนี่ยจิงเสินนำหน้าทัพ

พลันมีจิตกระบี่อันน่าตกตะลึงแห่งการทำลายล้างฟ้าดินบังเกิดขึ้นบน่ร่างของบุรุษอาภรณ์ดำที่ก่อนหน้านี้สงบราบคาบ

ภายใต้การส่องสะท้อนจากกลิ่นอายอันน่ากลัว พุทธเกษตรที่วัชรอภิณฑ์พุทธะเสกออกมา ต่างปรากฏสภาพเสื่อมทรามพินาศ

วัชรอภิณฑ์พุทธะขมวดคิ้วทันที

ท่านคือพุทธะที่เป็นรองเพียงพระศรีศากยมุณีพุทธเจ้า ในสามสิบห้าพุทธะแห่งแดนอภิรดีศูนย์กลางครั้งยุคโบราณตอนกลาง เป็นผู้เข้มแข็งที่อยู่ในชั้นแถวหน้าของแดนอภิรดีศูนย์กลาง ณ ขณะนั้น

ถึงจะไม่เก่าแก่เท่าผู้ยิ่งใหญ่ศาสนาพุทธอย่างทีปังกรพุทธะ แต่วัชรอภิณฑ์พุทธะก็มีชื่อเสียงโด่งดังมามากกว่าเวลายุคสมัยหนึ่ง

ครั้งกระโน้น ท่านเคยต่อสู้กับมารดาบ มารทองแก่รุ่นก่อนหน้าด้วยตัวเอง

ทว่าวัชรอภิณฑ์พุทธะขณะนี้ยืนยันได้โดยเด็ดขาดว่า เนี่ยจิงเสินมารทองแก่รุ่นใหม่ผู้อยู่ตรงหน้า แข็งแกร่งกว่ามารดาบในตอนนั้น

ตามที่วัชรอภิณฑ์พุทธะทราบ เกรงว่าจะมีแค่มารทองแกรุ่นที่หนึ่งที่โผล่ขึ้นมาพร้อมกับธรรมชาติ ใช้ชีวิตร่วมกับฟ้าเท่านั้น จึงจะเทียบเคียงกับเขาได้

แลสิ่งที่น่าหวั่นเกรงยิ่งกว่าก็คือ คนตรงหน้าถึงกับคล้ายมีศักยภาพแข็งแกร่งกว่า อยากจะสำแดงเต็มแก่

‘เทพมารกรอกศีรษะไม่อาจข้ามขีดจำกัดของรุ่นก่อนได้ แต่คนผู้นี้กลับคล้ายยังพัฒนาต่อได้ เกรงว่าเขาจะเป็นมารทองแกที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ประวัติศาสตร์เคยมีมา และก่อนหน้านี้ไม่เคยปรากฏมาก่อน’

วัชรอภิณฑ์พุทธะสงบจิตใจของตัวเอง ใช้อิริยาบถที่ดีที่สุดของตัวเองต้านรับคู่ต่อสู้อ่อนเยาว์ตรงหน้า

ไม่เพียงแต่พุทธะเหมือนกับกลายเป็นเทวราช แข็งแกร่งไม่อาจทำลาย แดนสุขาวดีพุทธเกษตรรอบๆ ตัวท่านก้เปลี่ยนจากสีเครื่องเคลือบ เป็นสีทองบริสุทธิ์ด้วยเหมือนกัน

แสงพุทธที่บริสุทธิ์และโปร่งแสงผืนหนึ่ง ดูเหมือนเปราะบาง หากแต่แข็งแกร่งทนทานถึงขีดสุด แสดงจิตพลังแห่งเทวราชไม่พังทลาย และความเป็นความตายความไม่เที่ยงของศาสนาพุทธถึงขีดจำกัดของขอบเขตในปัจจุบัน

ไม่นับอิทธิฤทธิ์อย่างอื่น เพียงพูดถึงระดับควาทนทานของกายทองแห่งศาสนาพุทธ วัชรอภิณฑ์พุทธะที่แล้วมาได้รับคำชมเชยเป็นอันดับหนึ่งแห่งพุทธะ เหนือวก่าผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดของศาสนาพุทธอย่างทีปังกรพุทธะ พระโพธิสัตว์กวนอิม

กายทองไร้ประมาณ พุทธเกษตรเทวราชปรากฏ แม้แต่จิตกระบี่ที่ดุร้ายของเนี่ยจิงเสินก็เมหือนกับยากจะแทรกเข้าไปอยู่ชั่วขณะ

วัชรอภิณฑ์พุทธะที่แล้วมาไม่ใช่คนที่เอาแต่ป้องกัน

พลังป้องกันที่แข็งแกร่งสุดขีด ความจริงหมายถึงความสามารถการโจมตีซึ่งหน้าที่แข็งแกร่ง ระหว่างหนึ่งมือหนึ่งเท้ายิ่งใหญ่หนาหนักเหมือนกับเขาเทพพลิกคว่ำ ธารสวรรค์ม้วนพลิก สภาวะไม่อาจต้านทาน

พุทธะยกฝ่ามือขึ้น ตบมาใส่เนี่ยจิงเสิน

เนี่ยจิงเสินมองวัชรอภิณฑ์พุทธะอย่างเย็นชา ปราณกาลีไร้สิ้นสุดผนึกรวมในมือ กลายเป็นกระบี่ยาวสีทองหม่นอันเย็นเยียบ

ประกายกระบี่สาดแวบ ถึงกับเร็วกว่าความเร็วในการใช้คัมภีร์กระบี่ลวงเซียนของเจ้าแม่อู๋ตัง ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเหนือพิสุทธิ์

วัชรอภิณฑ์พุทธะเพิ่งจะยกมือขึ้น คมกระบี่ของเนี่ยจิงเสินก็บรรลุถึงตรงหน้าท่านแล้ว

ประกายกระบี่ที่รุนแรงหุบ ถึงกับหดกลายเป็นจุดจุดเดียวในชั่วพริบตา

แสงสีทองหม่นหายไป ประกายแสงเจิดจ้าสูญหาย เวลาก่อนหลังกับเป็นตาายหยินหยาง วินาทีนี้เหมือนกับสูญเสียนิยาม ทุกอย่างกลับไปอยู่ในความขมุกขมัวสับสน ก่อนการเปิดฟ้า

ไร้หน้าไร้หลัง ไร้ซ้ายไร้ขวา ไร้เริ่มต้นไร้สิ้นสุด ไร้เย็นไร้ร้อน มิติเวลายังไม่กำหนด สรรพชีวิตยังไม่ปรากฏ

เพียงแต่จุดจุดเดียว เหมือนเล็กจนยากบรรยาย ซ้ำยังเหมือนใหญ่จนไม่อาจใหญ่กว่านี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี