ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 166

เยี่ยนจ้าวเกอกินลูกกลอนเซียนกว่างเฉิงตั้งแต่แรกที่ได้รับมาแล้ว โอสถเม็ดนี้สามารถเสริมความคล่องแคล่วปราณจิตราของจอมยุทธ์ได้ ช่วยให้จอมยุทธ์สัมผัสฟ้าดินได้ง่ายขึ้น

สรรพคุณดูเหมือนจะเรียบง่าย ทว่าที่เหนือกว่าคือประสิทธิผลล้ำเลิศ ต่อให้จอมยุทธ์มหาปรมาจารย์ใช้กิน ก็ล้วนมีประโยชน์อันหาที่สุดไม่ได้ หากเป็นจอมยุทธ์ปรมาจารย์กินเข้าไป ประสิทธิผลยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง

ในความเป็นจริงแล้ว จอมยุทธ์ระดับปรมาจารย์ส่วนใหญ่ไม่สามารถย่อยฤทธิ์ลูกกลอนเซียนกว่างเฉิงได้ทั้งหมด ฤทธิ์ยาลูกกลอนจะคงอยู่ในร่างกายจอมยุทธ์ เก็บเล็กผสมน้อย ออกฤทธิ์ยาวนาน ส่งผลประโยชน์ต่อจอมยุทธ์ในการฝึกฝนตลอดเวลา

ในฐานะที่เป็นยาลูกกลอนระดับสูงสุดที่เขากว่างเฉิงมีในปัจจุบัน ต่อให้เป็นเยี่ยนจ้าวเกอที่มีประสบการณ์และความรู้กว้างขวาง ก็ยังกล่าวชื่นชมต่อสรรพคุณของมันเป็นอย่างยิ่ง

ขณะนี้เยี่ยนจ้าวเกอนั่งขัดสมาธิ ปราณบริสุทธิ์ภายในจุดตันเถียนกระจายออก ร้อนเย็นหมุนเวียนสลับกัน หยินหยางส่งเสริมซึ่งกันและกัน ราวกับเตาฟ้าดินขนาดใหญ่ที่กำลังหลอมฤทธิ์โอสถอย่างไรอย่างนั้น

จากนั้นปราณจิตราในกายของเยี่ยนจ้าวเกอก็นำพาฤทธิ์ยากระจายสู่แต่ละส่วนอย่างไม่หยุดยั้ง จุดลมปราณทั่วร่างเปิดๆ ปิดๆ พลังปราณประหนึ่งมังกรเพลิงและมังกรน้ำแข็งหลายตัวเคลื่อนไหวอยู่ตลอด

พลังปราณกลายรูปเป็นร่างมังกรอย่างแท้จริง เกล็ดทั่วร่างสั่นไหว เปี่ยมไปด้วยสติปัญญา พลางส่งเสียงคำรามทุ้มต่ำและยิ่งใหญ่ออกมาเป็นพักๆ

เยี่ยนจ้าวเกอลืมตาทั้งสองขึ้น ในดวงตาข้างขวาพลันมีแสงสายฟ้าสว่างวาบ

เศษชิ้นส่วนของอาวุธศักดิ์ ดวงตาราชันสายฟ้าปรากฏอยู่ในลูกตาดำดวงตาขวาของเยี่ยนจ้าวเกอ

ดวงตาราชันสายฟ้าส่องประกายระยิบระยับพักหนึ่ง ลำแสงที่ส่องประกายคล้ายกับก่อนสมัยโบราณกาลเริ่มก่อตัว สายฟ้าสายหนึ่งฟาดลงมา แยกฟ้าดินออกจากกัน

ถึงตอนนี้ทุกสรรพสิ่งค่อยๆ กลายรูป โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลเกิดวิวัฒน์เปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆ

โลกหล้าล้วนเปลี่ยนแปลงไม่เที่ยงแท้ ทุกอย่างกลับตาลปัตร เกิดแม่น้ำแห่งแสงไร้สิ้นสุดโหมกระหน่ำซัด คล้ายชั่วพริบตาและราวกับชั่วนิรันดร์อยู่ในที

เยี่ยนจ้าวเกอเชื่อมโยงกับจิตใจของดวงตาราชันสายฟ้าในชั่วพริบตาเดียว คล้ายกับรู้สึกได้ถึงสภาพการเกิดดับในชั่วพริบตานั้นเช่นกัน

ถึงแม้ว่าอัสนีสวรรค์จะโหดเหี้ยมน่าหวาดกลัว แต่กลับไม่อาจทิ้งร่องรอยเอาไว้ในสมองของเยี่ยนจ้าวเกอแม้แต่นิดเดียว

ชายหนุ่มปิดเปลือกตาลงเบาๆ จากนั้นเปิดเปลือกตาอีกครั้ง

เพียงระยะเวลาพริบตาเดียวนี้ แต่เหมือนกับว่าเวลาผ่านไปแล้วเป็นเวลาร้อยล้านปี

ในเวลานี้เอง เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกได้ว่าการเชื่อมโยงของตนเองกับเศษชิ้นส่วนดวงตาราชันสายฟ้าพัฒนาไปอีกขั้นอย่างชัดเจน ถึงขั้นเกิดความรู้สึกที่จิตวิญญาณเชื่องโยงถึงกัน

เขาตะโกนร้องเบาๆ ทั่วกายศีรษะจรดเท้าล้วนปะทุแสงสายฟ้าโหมซัดออกมาพักหนึ่ง ทั้งยังส่งเสียงฟ้าร้องดังออกมาด้วย

ด้านนอกเรือนไม้ไผ่ ท้องฟ้าเหนือเกาะปิดนภาปรากฏเมฆหมอกโหมพลิกไปมา ราวกับว่าก็ส่งเสียงฟ้าคำรามออกมาเช่นกัน ก่อนจะมีสายฟ้าแลบสายหนึ่งวาดทะลุข้ามท้องฟ้า!

‘ครืน!’ เสียงฟ้าร้องจากบนท้องฟ้าและพื้นดินดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ราวกับว่าสมัยบรรพกาลเพิ่งจะเริ่มต้น!

รอบกายของเยี่ยนจ้าวเกอเต็มไปด้วยมังกรเขียวมากมายที่กลายสภาพมาจากปราณจิตราหลากหลายตัว ระหว่างที่เกล็ดทั่วร่างของพวกมันเปิดปิดอยู่นั้น สายฟ้ามากมายก็พุ่งออกมาจากด้านใน

สายฟ้าถี่ยิบแล่นอยู่ภายในเรือนไม้ไผ่เล็กๆ ก่อนจะรวมตัวเข้าด้วยกัน ประหนึ่งกับทะเลสายฟ้าผืนหนึ่ง พวกมันโหมซัดสาด ทว่ากลับไม่ทำลายเรือนน้อยสักนิดเดียว มังกรเขียวปราณจิตราหลายตัวลืมตาขึ้น มีลำแสงส่องประกายวาบทั้งสิ้น เปี่ยมล้นไปด้วยสติปัญญาและกำลังวังชา มังกรลวงตากลายสภาพเป็นมังกรแท้แล้ว

เยี่ยนจ้าวเกอยื่นมือหนึ่งออกมา แล้วดันออกไปด้านหน้าเป็นแนวราบ

มังกรเขียวปราณจิตราหลายตัวรุกล้ำ กลายสภาพเป็นธาตุอากาศ!

ไร้จุดเริ่มต้น ไร้จุดสิ้นสุด ไม่มีก่อนหน้า ไม่มีหลังจากนั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นปรากฏการณ์ลวงตาอันแปรสภาพมาจากปราณจิตรา กระนั้นก็สามารถทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงท่วงทำนองอันลึกลับที่แฝงอยู่ภายใน

นี่ก็คือโลกลวงตาอันแปรสภาพมาจากเจตจำนงหมัดปราณจิตราของเยี่ยนจ้าวเกอ!

การที่ปราณจิตราแปรสภาพเป็นโลกลวงตานั้น เป็นเครื่องหมายอันแสดงถึงระดับปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาระยะกลางนั่นเอง!

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย พลังฝ่ามือเปลี่ยนแปลง กลางฝ่ามือของเขาเปลี่ยนเป็นแดงฉาน ปรากฏการณ์ธาตุอากาศลวงตาอันแปรสภาพมาจากปราณจิตรา ก็เปลี่ยนแปลงเป็นสีแดงม่วงผืนหนึ่งตามเช่นกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี