พอสัมผัสได้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอเหมือนกับกำลังคุยโวโอ้อวด มหาเทวะเสมอฟ้าร่างจริงเป็นไปได้อย่างยิ่งว่ายากจะปรากฏขึ้นมาชั่วคราว มหาวิทยราชมยุรีก็ลอบคลายใจ
ท่านย่อมมีความทะนงตัว ไม่เกรงกลัวมหาเทวะเสมอฟ้า แต่ถ้าหากว่าขาดศัตรูแกร่งขวางทางเช่นนี้ไปสักคน การปฏิบัติการย่อมราบรื่นขึ้นมาก
ถึงแม้ในเวลาส่วนใหญ่แล้วคนอื่นๆ จะร่วมมือกันเล็งเป้าหมายไปที่มหาวิทยราชมยุรีคนเดียว แต่ว่านกยูงตัวนี้เหมือนไม่เห็นในสายตา เข้าใกล้ธงเหลืองโบ่วกี้
เห็นมหาวิทยราชมยุรีสุดท้ายแข็งแกร่งที่สุด กำลังจะเก็บธงเหลืองโบ่วกี้เข้าย่าม มหาสถามปราบต์โพธิสัตว์อดถอนใจไม่ได้ พยักหน้าให้แก่มารจิตแรกเริ่ม
มารจิตแรกเริ่มเห็นดังนั้น ก็เซ่นธงแดนเมฆสีม่วงทันที
ครั้งนี้มันใช้ธงแดนเมฆสีม่วง กลับทำให้ควันหอมหนาแน่นหลายกลุ่มห้อมล้อมเมฆดารากระจัดกระจายที่ธงเหลืองโบ่วกี้อยู่ ป้องกันไม่ให้มหาวิทยราชมยุรีทำสำเร็จ
มหาวิทยราชมยุรีก็ไม่รีบร้อน สาดแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีใส่มารจิตแรกเริ่ม
มารจิตแรกเริ่มที่ในตอนนี้ไม่มีธงแดนเมฆสีม่วงคุ้มครองตัวเอง รีบร้อนหลบไปด้านข้าง เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับความร้ายกาจของแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีโดยตรง
“อาตมาไม่ได้ ท่านก็อย่าได้คิดนำของไป ทุกคนผลาญพลังทิ้งที่นี่ต่อไปเถอะ” มหาวิทยราชมยุรีกล่าวอย่างราบเรียบ “หรือว่ามารสวรรค์ไร้พันธนาต้องการลงมือด้วยตัวเอง?”
มารจิตแรกเริ่มยิ้ม “มารสวรรค์ไร้พันธนาไม่มีความคิดลงมือ”
ถึงแม้ขุมกำลังแต่ละฝ่ายจะปรนเปรอหรือแม้แต่ช่วยเหลือนพยมโลกให้ทำสำเร็จในที่ลับ แต่มิได้หมายความว่านพยมโลกจะเคลื่อนไหวอย่างเหิมเกริมได้
เจ้ามรรคาส่วนใหญ่มีคู่ต่อสู้ของใครของมัน ต่างฝ่ายต่างต่อสู้กันไม่หยุดยั้ง กอปรเป็นการสะกด ถ้ามารสวรรค์ไร้พันธนาเคลื่อนไหวอย่างเป็นอิสระ นั่นเท่ากับไม่ว่าไปที่ใดล้วนได้ประโยชน์
นี่ไม่เป็นที่ยินยอมของคนอื่น ดังนั้นหลายปีมานี้ถึงการปฏิบัติการของนพยมโลกจะเปิดเผยเป็นอิสระขึ้นมาก แต่ว่ามารสวรรค์ไร้พันธนากลับสงบเสงี่ยมกว่าเดิม ปรากฏตัวไม่กี่ครั้ง หลบเลี่ยงการผนึกกำลังโจมตีของผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาคนอื่นๆ
มารสวรรค์ไร้พันธนาไม่ลงมือด้วยตัวเอง ในฐานะการดำรงอยู่อันดับแรกรองจากระดับมรรคา มหาวิทยราชมยุรีอยู่ในสถานการณ์ตอนนี้ ย่อมแข็งแกร่งสุดขีด
ทว่ามารจิตแรกเริ่มไม่รีบร้อน เพียงแต่ทำให้ธงแดนเมฆสีม่วงสะกดตำแหน่งที่ธงเหลืองโบ่วกี้อยู่แต่ไกล จนมหาวิทยราชมยุรีไม่อาจสำเร็จได้ชั่วขณะ
อีกด้านหนึ่ง มหาสถามปราบต์โพธิสัตว์พนมมือ “วิทยราช ล่วงเกินแล้ว” แล้วเริ่มสวดมนต์ทันที ผู้เข้มแข็งศาสนาพุทธที่อยู่รอบๆ ต่างเคลื่อนไหวเหมือนกัน
ในความว่างเปล่าที่ตอนแรกสับสนวุ่นวาย เวลานี้เมฆมงคลสีทองหลายสายรวมตัว ในชั้นเมฆแยกออกเป็นร่องแยกสายหนึ่ง แสงทองสาดออกมาจากด้านใน
มหาวิทยราชมยุรีขมวดคิ้ว เกิดลางสังหรณ์ขึ้นในใจรางๆเพ่งตามองไป เห็นในชั้นเมฆนั้นเหมือนกับบิดมิติเวลา เชื่อมไปยังแดนสุขาวดีพุทธเกษตร
ในหมอกแสงขมุกขมัว มีร่างของพระสมันตภัทรโพธิสัตว์นั่งสงบนิ่งอยู่ในแดนสุขาวดีพุทธเกษตร
กลับมิใช่พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ต้องการลงมา แต่ว่าในแดนสุขาวดีตะวันตกที่ท่านอยู่กางค่ายกลค่ายหนึ่งไว้ เชื่อมต่อกับพวกมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์ที่อยู่ที่นี่
พระสมันตภัทรโพธิสัตว์พนมมือเปล่งเสียงสรรเสริญคุณทันที
ทางด้านท่านพลันมีลำแสงสายหนึ่งปรากฏ พุ่งออกจากแดนสุขาวดีตะวันตก ผ่านพลังของค่ายกล ข้ามความว่างเปล่ามาถึงที่นี่ กดดันใส่ศีรษะมหาวิทยราชมยุรี!
เพ่งตามองไป กลับเป็นวัชระปลุกเสกของศาสนาพุทธท่อนหนึ่ง
‘ของสิ่งนี้อยู่ในมือทีปังกรจริงๆ?’ มหาวิทยราชมยุรีสีหน้าประหลาดใจอยู่บ้าง ความสะท้อนใจมีมากกว่าความตกใจและความโกรธ ใช้แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีต้านรับ หมุนวนพลางต้านวัชระปลุกเสกที่ร่วงหล่นจากฟ้าท่อนนั้น
แต่ว่าแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีที่ก่อนหน้านี้ไม่ว่าไปที่ใดล้วนมีชัย ไม่มีสิ่งใดไม่ชำระ ตอนนี้กลับมิอาจสาดส่องวัชระปลุกเสกท่อนนั้นได้
ตรงกันข้าม วัชระปลุกเสกปรากฏตราอาคมนับไม่ถ้วนกระจายถี่ยิบ แสงสว่างไหลเวียนพุ่งลงไม่หยุดยั้ง กลับทำให้มหาวิทยราชมยุรีเกิดความรู้สึกรับภาระมหาศาลอย่างเลือนราง
นกยูงไม่มีโทสะ กล่าวอย่างราบเรียบ “ทีปังกรมีความสามารถนี้ ไม่น่าปล่อยให้เขาเจอของวิเศษชิ้นนี้ วันนี้ดูเหมือนอาตมาเอาธงเหลืองโบ่วกี้ไปไม่ได้แล้ว”
แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีถั่งโถม ป้องกันบริเวณรอบๆ ทำให้คนอื่นๆ ยากเข้าใกล้ ไม่มีวิธีฉกฉวยความได้เปรียบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี