เจ้าแม่อู๋ตังแตกฉานคัมภีร์กระบี่ลวงเซียน ไท่อี้จินหยินแตกฉานคัมภีร์นภากาลเวลาและคัมภีร์นภาความว่างเปล่า จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋แตกฉานคัมภีร์นภาความว่างเปล่า และสายฟ้าอนัตตา สายฟ้านิรันดร์ สายฟ้าชั่วพริบตาในสายฟ้าเซียนทั้งเก้า ล้วนออกคำสั่งได้ดุจแขนขา
เซียนสวรรค์มหาชาลสามคนเชี่ยวชาญมรรคาการเปลี่ยนแปลงมิติเวลา การสะท้อนที่เห็นได้โดยตรงอย่างหนึ่งคือพวกเขาต่างช่ำชองวิชาเคลื่อนที่ มี ‘ความเร็ว’ ไม่เชื่องช้า
ยอดฝีมือทำศึกใหญ่ ตอนนี้มิติเวลาปั่นป่วน ทำให้ผู้เข้มแข็งระดับมหาชาลยากจะเคลื่อนไหวได้ดั่งใจ
ทว่าอาศัยธงวิเศษบัวเขียวของเยี่ยนจ้าวเกอขวางไว้ พวกจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋สามคนก็ร่วมมือกัน เปิดทางเชื่อมเส้นหนึ่งขึ้นมา
นี่เป็นพวกเขาเตรียมตัวไว้ส่วนหนึ่งก่อนจะมาที่นี่ ดังนั้นตอนนี้การโจมตีจึงประสบผลสำเร็จ
เพียงแต่คู่ต่อสู้ที่สำนักเต๋าสายหลักเผชิญในครั้งนี้ ต่างมิใช่คนธรรมดา
มิพักเอ่ยถึงมหาวิทยราชมยุรีที่ยังปะทะกับวัชระปลุกเสกท่อนนั้นอยู่ มารจิตแรกเริ่มกับลู่ยาเต้าจวินไล่ตามมาเป็นพวกแรกๆ ด้วยความเร็วสูง
การขัดขวางของธงวิเศษบัวเขียวต่อมารจิตแรกเริ่มเดิมก็มีจำกัดอยู่แล้ว มันถึงแม้ไม่ทันขัดขวางไม่ให้คนในสำนักเต๋าเอาธงเหลืองโบ่วกี้ไปและเปิดช่องว่างเพื่อหลบหนี แต่กลับไล่ตามเข้าไปในร่องแยกมิติเวลานั้นทันที
ลู่ยาเต้าจวินกลายร่างเป็นแสงรุ้ง เร็วกว่าคนอื่นๆ แทบจะไม่ช้ากว่ามารจิตแรกเริ่ม
ตอนนี้สำนักเต๋านำธงเหลืองโบ่วกี้ไปแล้ว กลายเป็นผู้ชนะชั่วคราว และก็เป็นเป้าหมายร่วมกันของคนอื่นๆ มารจิตแรกเริ่มย่อมไม่จำเป็นต้องใช้ธงแดนเมฆสีม่วงขวางเส้นทางของลู่ยาเต้าจวินอีก คนทั้งสองเริ่มร่วมมือกันไล่ตามโจมตีพวกเยี่ยนจ้าวเกอ
ผู้เข้มแข็งที่เหลือในศาสนาพุทธ เผ่าปีศาจ และนพยมโลก ต่างรีบตามมา
นาจาสลัดจากมารเงา เข้าไปในร่องแยกมิติเวลานั้นพร้อมกับพวกเยี่ยนจ้าวเกอ ตอนนี้เห็นทัพไล่ตามด้านหลังไม่ยอมลดละ กล่าวว่า “พวกท่านไปก่อน ข้าจะขวางพวกมัน”
“พี่ร่วมเส้นทางไม่ต้องใจร้อน เตรียมการไว้แต่แรกแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอส่งกระแสงเสียงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เสียงยังไม่ทันขาด ในความว่างเปล่าที่เดิมทีไม่มั่นคง พลันมีประกายดาบสายหนึ่งสว่างขึ้น!
ลู่ยาเต้าจวินที่อยู่ด้านหลังเร็วถึงขีดสุด แซงมารจิตแรกเริ่ม เกือบไล่พวกเยี่ยนจ้าวเกอทันแล้ว
ทว่าในตอนนั้นเอง ประกายดาบสว่างขึ้นอย่างไร้วี่แวว ถึงกับฟันใส่หน้าลู่ยาเต้าจวินอย่างไร้สุ้มไร้เสียง!
‘เทวกษัตริย์หุบเหวปัจจิมธรรม!’ ด้วยความสามารถของลู่ยาเต้าจวิน ไม่อาจสัมผัสการซุ่มโจมตีในที่ลับนี้ได้ก่อน รอดาบกรายถึงศีรษะ จึงเกิดการตอบสนอง เย็นเฉียบไปทั่วร่าง
เฟิงอวิ๋นเซิงถึงแม้จะมาร่วมการช่วงชิงธงเหลืองโบ่วกี้ไม่ทัน แต่ว่านางที่มาสายไปก้าวหนึ่งก็มาถึงสถานที่ที่พวกไท่อี้จินหยินได้คาดการเตรียมตัวไว้ ดำเนินการประสานงานทันเวลา
การระเบิดดาบหนึ่งอย่างฉับพลัน ทำให้วินาทีนี้จิตใจของลู่ยาเต้าจวินเกิดเงามืดแห่งความตายชั้นหนึ่ง
ที่สุดแล้วเฟิงอวิ๋นเซิงมีชื่อเสียงด้านนอก พวกลู่ยาเต้าจวินประมาทขนาดไหน ส่วนลึกของจิตใจล้วนกริ่งเกรงระวังการลอบโจมตีสังหารของนาง
ดังนั้นประสบการซุ่มโจมตีอย่างฉับพลัน ลู่ยาเต้าจวินยังโต้ตอบได้ทัน
ประกายกระบี่อันน่ากลัวแหวกแสงรุ้ง ทว่าลู่ยาเต้าจวินเสกร่างพระไวโรจนพุทธะทันเวลา
ขณะการป้องการของกายทองยกระดับขึ้นสู่จุดสุงสุด แสงพุทธดวงอาทิตย์ที่กลมสมบูรณ์ดวงหนึ่งบนศีรษะเขาก็ปกคลุมทั่วร่าง
ประกายดาบยังคงแหวกแสงพุทธดวงอาทิตย์อย่างหักโหม ทั้งยังฟันผ่าศีรษะของกายทองพุทธะไปแล้ว
ทว่าพอช้าลง ลู่ยาเต้าจวินก็กลายเป็นรุ้งอีกรอบ ถอยไปทิศทางตรงกันข้ามด้วยความเร็วสูง สุดท้ายหลบพ้นดาบผ่าศีรษะนี้อย่างหวุดหวิด!
เพียงแต่ลู่ยาเต้าจวินที่กลายเป็นนักพรตอีกครั้ง ตอนนี้มงกุฎหางปลาบนศีรษะถูกฟันแยก คนมองไปทุลักทุเล
หลังจากดาบหนึ่งของเฟิงอวิ๋นเซิง สภาวะไม่ขาดตอน ฟันลงล่างต่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี