ขณะมองฉากที่สองฝั่งสู้กัน คนที่อยู่รอบๆ ต่างเพ่งสมาธิทั้งหมด
พอเห็นฉวีซูเส้นผมหลุดร่วมหมดสิ้น หลังศีรษะปรากฏแสงพุทธที่กลมสมบูรณ์ เหมือนกับตรัสรู้ครั้งใหญ่ แต่จิตกระบี่และทิฐิของตนก็พุ่งสู่จุดสูงสุดเช่นกัน เหล่าผู้ชมการต่อสู้ สีหน้าเคร่งขรึมตามหลายส่วน
“ยอดเยี่ยมอยู่บ้าง” หนอนเก้าเศียรพึมพำ “แดนอภิรดีศูนย์กลางในปัจจุบันถึงกับยังปรากฏบุคคลเช่นนี้ เป็นตัวประหลาดโดยแท้”
ลู่ยาเต้าจวินที่อยู่ด้านข้างเขาพยักหน้าเบาๆ “มิผิด”
ในสายตาของพวกเขา ฉวีซูบุตรกระบี่รุ่นใหม่วินาทีนี้พูดถึงขีดความสามารถด้านการต่อสู้ฆ่าฟัน ถึงขั้นเหนือกว่าพุทธะแห่งแดนสุขาวดีตะวันตกส่วนหนึ่งที่สำเร็จผลพุทธสายหลัก!
แม้จะเป็นอินทรเกตุธวัชราชาพุทธะ นรสิงห์พุทธะ กุศลวิจิตรพุทธะ ก็ด้อยกว่าพุทธะอันดับหนึ่งรองจากพระศรีอริยเมตไตรยแห่งแดนสุขาวดีบัวขาวผู้นี้
อีกด้านหนึ่ง มารจิตแรกเริ่มถอนใจพูดกับมารเงาเช่นกันว่า “ต่อให้เป็นก่อนมหาภัยพิบัติก็นับได้ว่า ตั้งแต่แดนสุขาวดีบัวขาวปรากฏขึ้นมา กาลเวลาผ่านไปหลายหมื่นปี นี่สมควรเป็นเซียนสวรรค์มหาชาลที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่ประวัติศาสตร์เคยมีมา”
“เขาสมควรเป็นจุดสูงสุดที่เซียนสวรรค์มหาชาลเส้นทางนอกรีตไปถึงได้ พูดถึงการต่อสู้ฆ่าฟัน ไม่มีทางปรากฏเซียนสวรรค์มหาชาลเส้นทางนอกรีตที่แข็งแกร่งกว่าเขาแล้ว” มารเงากล่าวเสียงเบาเช่นกัน
นักบวชศาสนาพุทธอย่างมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์ชมการต่อสู้ เงียบงันไม่พูดอะไร
ทางด้านสำนักเต๋า นาจาพลันส่งเสียง “น่าเสียดาย”
ตอนนี้เจ้าแม่อู๋ตังอยู่ด้านข้างเขา ครู่หนึ่งค่อยถอนใจว่า “ถูกต้อง น่าเสียดาย”
เฟิงอวิ๋นเซิงไม่พูดอะไร เทียบกับฉวีซูแล้ว นางเป็นห่วงเยี่ยนจ้าวเกอมากกว่า
เลอะเลือนราวกับโคมม้าวิ่ง ใบหน้ามากมายแวบขึ้นตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ
มีเย่จิ่งที่ทั่วร่างเต็มไปด้วยลวดลายอัคคี เคียดแค้นชิงชัง
มีจ้าวฮ่าวที่จมูกชี้ฟ้า ใช้หางตามองคน
ยังมีหลินมู่กล่าวโทษที่เยี่ยนจ้าวเกอเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ที่เขาคุ้นเคย
มีซินตงผิงที่ขณะเป็นผู้ปกครองบึงน้ำไร้ขอบเขตก็เป็นผู้อาวุโสของสำนักบนเขากว่างเฉิง ชักนำให้นพยมโลกเปิดร่องแยกบนโลกแปดพิภพด้วยมือเดียว
มีหวงกวงเลี่ย หวงซวี่ หวงเซินครอบครัวสามรุ่นซึ่งสู้กับเขากว่างเฉิงมาหลายปี ทำศึกกับเขากว่างเฉิงอย่างสาแก่ใจ มีจางเชาปราชญ์อาทิตย์ในอดีต ทุกฝ่ายสู้กันตั้งแต๋โลกแปดพิภพมาถึงโลกซ้อนโลก
มาถึงในโลกซ้อนโลก มีสำนักแสงสว่าง มีราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง มีจวงเซินกับจวงจาวฮุยพ่อลูกแห่งเนินต้นจักรพรรดิเขาลีลาหงส์
มีกานหยวนจื่อเซียนจริงแท้ มีเฉินกานหวาประมุขทิศบน
จนกระทั่งให้หลัง ปะทะกับผู้สืบทอดของเจี่ยงเซิ่นราชันพระอังคารเพราะเสวี่ยชูชิงผู้เป็นมารดา
ย้อนนึกถึงตอนออกจากโลกซ้อนโลก ห่างจากวันนี้สี่ร้อยกว่าปีแล้ว
เงาคนที่โผล่ขึ้นตรงหน้าต่อจากนั้น พร้อมกับกาลเวลายิ่งมายิ่งเข้าใกล้ ความรู้สึกแปลกหน้าที่ยาวนานก็ยิ่งมายิ่งจืดจาง คนยิ่งมายิ่งคุ้นเคย เยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่คิดจะดูต่อไปแล้ว
‘ผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว…’ หลังจากถอนใจอย่างสะทกสะท้อน บุปผาแสงก็รวมตัวบนศีรษะเยี่ยนจ้าวเกอ
นอกจากบุปผาจิต บุปผาปราณก็ปรากฏเหนือศีรษะเยี่ยนจ้าวเกอเช่นกัน
แก่นเซียนที่ยิ่งใหญ่ทั่วร่างเขาเพิ่มระดับขึ้นมากมาย ราวกับคลื่นสูง
ปราณขาวและเมฆดาราที่ตอนแรกถูกควันดำซึ่งเกิดจากแรงกรรมห่อหุ้ม พลันพองตัวออกรอบๆ ด้วยสภาวะที่เหมือนไร้สิ้นสุด
เสียงเบาๆ ในตอนที่ปราณขาวกับควันดำสัมผัสกันก่อนหน้า ตอนนี้เริ่มดังกังวาน สั่นสะเทือนแก้วหู
ข้างหูผู้ชมดูการต่อสู้เหมือนแว่วเสียงสายฟ้าถั่งโถม
ควันดำหายไปอย่างรวดเร็ว ภาพสังสารวัฏหกวิถีสูญสลาย
มีเพียงร่างของเยี่ยนจ้าวเกอยิ่งมายิ่งสูงใหญ่ สภาวะน่าตื่นตระหนก
ถึงจะมีแค่สองบุปผาบนกระหม่อม ยังไม่เหยียบทำลายภัยพิบัติฟ้ากำเนิด เปลี่ยนแก่นเซียนเป็นบุปผาเซียน
ทว่าผู้เข้มแข็งระดับมหาชาลที่อยู่รอบๆ นอกจากคนจำนวนน้อยนิดอย่างเฟิงอวิ๋นเซิง ลู่ยาเต้าจวิน นาจา และมารจิตแรกเริ่ม ตอนนี้คนอื่นๆ อยู่ต่อหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ ถึงกับรู้สึกได้ถึงแรงกดดันมากมาย
อำนาจอันน่าสะพรึงที่ดูเหมือนบดขยี้ขอบเขตฟ้ากำเนิดได้นั้น โยกคลอนหลักการทั่วไปในความรู้ของทุกคน
เพียงแต่ติดที่ค่ายกลลงทัณฑ์เซียน สุดท้ายท่านก็ไม่ลงมือ
เยี่ยนจ้าวเกอกวาดมองรอบๆ คนที่ชมดูการต่อสู้บริเวณใกล้ๆ สัมผัสสายตาของเขา ส่วนใหญ่ถึงขั้นรู้สึกเจ็บปวด
ฉวีซูมรณะ แต่ร่างไม่สลาย ซากสังขารยังสมบูรณ์
บนผิวท่านค่อยๆ มีแสงสีทองจางๆ สว่างขึ้นชั้นหนึ่ง ทำให้ดูราวกับพระพุทธรูปทองเหลือง
พุทธรูปสมจริงราวมีชีวิต ผิวกลับไม่มีความเสียหายแม้แต่นิดเดียว
เยี่ยนจ้าวเกอแตะนิ้วเบาๆ ทำให้พระพุทธรูปลอยไปด้านข้าง
ณ ที่แห่งนั้น แท่นบัวสีขาวลอยโดดเดี่ยว หลังพุทธรูปตกลงด้านบน กระบี่ด้านข้างก็สั่นไหวเบาๆ ในฝักกระบี่
“ที่นี่ไม่มีคนในแดนสุขาวดีบัวขาวอยู่ด้วย” เยี่ยนจ้าวเกอโบกมือ บัวขาวลอยเข้าหาลู่ยาเต้าจวิน “ได้แต่รบกวนเต้าจวินส่งคน นำสังขารของสหายร่วมเส้นทางฉวีท่านนี้ส่งกลับแดนสุขาวดีบัวขาว”
ลู่ยาเต้าจวินรับไว้ ยังไม่ตอบคำ เยี่ยนจ้าวเกอก็หันไปอีกด้านแล้ว
“หนอนเก้าเศียร ตอนนี้สมควรเป็นศึกระหว่างเราแล้ว”
สองบุปผาบนศีรษะเยี่ยนจ้าวเกอรวมตัวสว่างไสว เหยียบบนความว่างเปล่า สายตาจ้องมองหนอนเก้าเศียร
คนอื่นๆ ได้ยินดังนั้นก็พากันส่งเสียงฮือฮา
เยี่ยนจ้าวเกอใช้ระดับเซียนกำเนิดสุญญตา หลังจากสู้คู่ต่อสู้ระดับมหาชาลสองคนได้แก่มารเงาและฉวีซูติดต่อกัน กลับเหมือนม้าไม่หยุดกีบเท้า ท้าสู้หนอนเก้าเศียรผู้เป็นมหาเทวะเผ่าปีศาจ ผู้เข้มแข็งระดับมหาชาลอีกคนหนึ่งต่อทันที
“พี่ร่วมเส้นทางนาจาท้าสู้ทีปังกรพุทธะ อดีตพุทธะหลบเลี่ยงมาหลายร้อยปี ที่สุดพวกเขาสองคนต่างเป็นระดับมหาชาล” เยี่ยนจ้าวเกอไม่พูดถึงว่าเมื่อครู่ตนเพิ่งรับการท้าสู้ของฉวีซู เพียงใช้นิ้วชี้ตัวเอง จากนั้นชี้หนอนเก้าเศียร
“ตอนนี้ข้าเซียนกำเนิดสุญญตาคนเดียวท้าสู้มหาเทวะเผ่าปีศาจผู้ยิ่งใหญ่เช่นท่าน ท่านคงไม่หลบเลี่ยงกระมัง?”
………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี