หนอนเก้าเศียรยืดศีรษะเก้าข้าง ทั้งหมดล้วนมีสีหน้าดุร้าย ดวงตาสิบแปดข้างเปล่งประกายอำมหิต
“เด็กโอหัง ใยต้องใช้วิธียั่วยุแม่ทัพ? เจ้าคิดเล่นป่าหี่เล็กๆ เหล่านี้ ให้ข้าสั่งสอนเจ้าเอง” ถึงแม้เมื่อครู่จะเพิ่งเห็นการต่อสู้ระหว่างเยี่ยนจ้าวเกอกับมารเงาและฉวีซู แต่หนอนเก้าเศียรยังดุร้ายดุจเดิม
เขาเหลือบมองเยี่ยนจ้าวเกอ “ในเมื่อเจ้ารู้ว่าเจ้าใช้สุญญตาท้าสู้มหาชาล ถ้าข้าชนะแล้วเจ้าไม่ยอมวางสิ่งของ ข้าอาศัยอะไรต้องตอบรับเจ้าทั้งๆ ที่โดนกล่าวหาว่าใช้ใหญ่ข่มเหงเล็ก”
“เจ้าผู้นี้มีหน้ามาคุยโวที่นี่อีกหรือ?” นาจาที่อยู่ด้านข้างหัวเราะเย็นชา “ตอนเจ้าเป็นสุญญตา เคยต่อสู้สังหารเซียนสวรรค์มหาชาลสองคนติดกันหรือ? ถ้าทำไม่ได้ เจ้าก็เหมาะจะโดนว่าใช้ใหญ่ข่มเหงเล็กแล้วนี่?”
หนอนเก้าเศียรหัวเราะเหอะๆ “ถึงสังสารวัฏกระบี่พุทธะจะแพ้ แต่เขาเป็นเขา ข้าคือข้า”
เขากลับไม่พูดถึงมารเงาที่อยู่อีกด้าน เพียงมองเยี่ยนจ้าวเกอพลางเอ่ยว่า “ไม่ต้องการของอย่างอื่นของเจ้า เจ้าทิ้งธงวิเศษบัวเขียวไว้เป็นหลักประกัน ข้าจะรับการท้าสู้รอบนี้ของเจ้า เจ้ากล้าเดิมพันหรือไม่?”
มารนพยมโลก และเหล่าพุทธแห่งแดนสุขาวดีตะวันตกได้ยินคำพูดนี้ สายตาล้วนสั่นไหว
พวกเขาถึงแม้ไม่ได้ขึ้นหน้ามา แต่สภาวะคนมากก็มีแรงกดดันมากพอ
เซียนสวรรค์สำนักเต๋าเช่นพวกเฟิงอวิ๋นเซิงตั้งประจัญกับหมู่ศัตรูตรงหน้าอย่างตาต่อตาฟันต่อฟัน สภาพตึงเครียดขึ้นมาก
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินคำพูดของหนอนเก้าเศียรก็หัวเราะขึ้น “ไหนเลยต้องยุ่งยากเช่นนี้ ศึกเราครั้งนี้สู้เป็นตายก็จบแล้วมิใช่หรือ?”
“ธงวิเศษบัวเขียวแปดเปื้อนน้ำทะเลจากทะเลหุบเหวนพยมโลก มิอาจใช้ได้ชั่วคราว ข้าพกติดตัวไว้ ไม่มีทางมอบให้ผู้อื่น ถ้าท่านสังหารข้าได้ ของย่อมตกเป็นของท่าน”
“ท่านเองก็พกเศษเหล็กเศษสำริดเช่นกัน ข้าไม่ได้ต้องการ ครั้งนี้เพียงขอยืมศีรษะเก้าข้างของท่านมาใช้” เยี่ยนจ้าวเกอชี้หนอนเก้าเศียร “พวกเราไม่ตายไม่เลิกรา ท่านกล้าหรือไม่?”
หนอนเก้าเศียรมองเยี่ยนจ้าวเกอ ตวาดว่า “ประเสริฐสุด เด็กน้อยรับความตาย!”
เสียงยังไม่ทันขาดลง เขาพัดลมวายุเก้าสวรรค์ ร่างบรรลุถึงตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอในพริบตา
การบุกอย่างกระทันหันนี้ใกล้เคียงกับการลอบโจมตี นาจาเห็นเข้าก็สบถด่า ปรารถนาใคร่รับศึกนี้แทนเยี่ยนจ้าวเกอ แต่มีลู่ยาเต้าจวินคุมเชิงอยู่ไกลๆ ค่อยหยุดลง
หนอนเก้าเศียรไม่สนใจคำด่าของนาจา
พอลงมือจริงๆ ความทะนงตนเหิมเกริมก่อนหน้านี้ของเขาพลันหายไป เหลือเพียงความเยือกเย็น
“อีกเดี๋ยวท่านอย่าได้หนีแล้วกัน” เยี่ยนจ้าวเกอหน้าไม่เปลี่ยนสี แสงสีเขียวมรกตเชื่อมเป็นอักขระอาคมหลายสายในสองตา
ชายหนุ่มเผชิญพลั่วพระธรรมในมือหนอนเก้าเศียรที่ฟันลงมาแล้ว ไม่ถอยกลับบุก
เขาสืบเท้าออกก้าวหนึ่ง หลบรอดความแหลมคมของพลั่วพระธรรม ชิงคลุกวงใน ยกมือขึ้นกันด้ามของพลั่วพระธรรม
ร่างของสองฝ่ายสั่นสะเทือนพร้อมกัน แต่พลั่วพระธรรมนั้นถึงกับถูกเยี่ยนจ้าวเกอปัดป้อง
หนอนเก้าเศียรเปิดกลางหน้าอกกว้าง เยี่ยนจ้าวเจอผลักอีกฝ่ามือหนึ่งไปทันที หนอนเก้าเศียรรีบร้อนผลักอีกมือหนึ่งออกมาขวางไว้ตรงหน้าอก ป้องกันฝ่ามือนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ
ในเสียงตูม พลังของคนสองคนปะทะกัน
เยี่ยนจ้าวเกอร่างส่ายวูบ หนอนเก้าเศียรเซถอยหลังก้าวหนึ่ง
‘รอยตราพลิกฟ้าหยกพิสุทธิ์ ไม้เท้ากวาดทำลายเอกพิสุทธิ์ คัมภีร์กระบี่ลวงเซียนเหนือพิสุทธิ์…’ ความคิดแวบขึ้นในใจหนอนเก้าเศียร ‘เป็นวรยุทธ์ใหม่ที่สร้างขึ้นจากการรวมสามพิสุทธิ์เป็นหนึ่ง จากนั้นก็ใช้การอนุมานของคัมภีร์เกิดนภาเป็นตัวช่วย’
นี่ความจริงมิใช่เขากับเยี่ยนจ้าวเกอสู้กันเป็นครั้งแรก
ในตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอเพิ่งห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด ก่อนการแย่งชิงค่ายกลลงทัณฑ์เซียน สองฝ่ายเคยมีการต่อสู้ชั่วสั้นๆ มาแล้ว
ตอนนั้นเยี่ยนจ้าวเกออาศัยความร้ายกาจของกระบี่ลวงเซียน ต้านทานสภาวะจู่โจมของหนอนเก้าเศียรได้
แต่ตอนนี้ กลับใช้มือเปล่าหมัดเปลือย ปะทะกับหมาเทวะเก้าเศียรตนนี้ซึ่งหน้า!
เยี่ยนจ้าวเกอหนึ่งกระบวนท่าได้โอกาส ได้เปรียบไม่ปรานี เท้าก้าวติดต่อกัน เป็นอีกหมัดหนึ่งต่อยใส่หนอนเก้าเศียร
หนอนเก้าเศียรก็ไม่ธรรมดา เผชิญอันตรายไม่ลนลาน พายุหลายสายม้วนขึ้นรอบตัว พุ่งใส่เยี่ยนจ้าวเกอจากทุกทิศทุกอย่าง เหมือนคมมีดผ่าฟ้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี