ใคร่ครวญครู่หนึ่ง มารจิตแรกเริ่มก็กล่าวอย่างแน่วแน่ “วันนี้ถึงเท่านี้”
“สถานการณ์ไม่เป็นผลดีจริงๆ แต่ถ้าไม่มีธงเหลืองโบ่วกี้หรือธงวิเศษบัวเขียว ด้านแดนสุขาวดีตะวันตกจะทำอย่างไร?” มารเงาถาม “คงจะไม่เอาธงแดนเมฆสีม่วงของพวกเราไปแลกกระมัง?”
“ค่อยคิดวิธี” มารจิตแรกเริ่มมองเยี่ยนจ้าวเกอ “เขาอาศัยความลี้ลับของคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตสะกดแปลี่ยนเงาเป็นจริงของท่าน เรื่องนี้มีเลศนัยอยู่ค่อนข้างมาก”
มารเงาได้ยินก็เงียบเสียง พยักหน้าแช่มช้า
“ได้เห็นเทวกษัตริย์น้อยแสดงท่วงทำนองวีรบุรุษในวันนี้ ไม่เสียเที่ยวจริงๆ” มารจิตแรกเริ่มประสานมือให้แก่เยี่ยนจ้าวเกอ “วันนี้เกี่ยวกับธงเหลืองโบ่วกี้ ในเมื่อมีผลลัพธ์แล้ว พวกเราไหนเลยกล้าพัวพันต่ออีก? ขอลาเท่านี้ เจอกันวันหลัง”
จอมมารจากนพยมโลกทั้งหมดร่างค่อยๆ ถอยไป เริ่มหายไปในความมืดผืนหนึ่งด้วยการนำของมารจริงแรกเริ่มและมารเงา
นักบวชศาสนาพุทธจาแดนสุขาวดีตะวันตกเช่นพวกมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์เห็นดังนั้น แม้นสีหน้าจะมืดครึ้ม แต่ต่างไม่ได้ขัดขวางหมู่มารแห่งนพยมโลกที่เดิมควรเป็นพันธมิตรไม่ให้จากไป เพียงแต่พนมมือ เปล่งเสียงสรรเสริญคุณ “นะโมอามิตาพุทธ”
แสงพุทธเคลื่องเคลือบบริสุทธิ์วูบไหว เหล่าพุทธแห่งแดนสุขาวดีต่างก็ถอยหลัง ร่างหายไปในความว่างเปล่า
ธงเหลืองโบ่วกี้เดิมเป็นแดนสุขาวดีตะวันตกขุดค้นและหาตำแหน่งเจอเป็นพวกแรกๆ
เพราะจะดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆ เพื่อทำให้สำเร็จ ทีปังกรพุทธะตอบรับคำท้าของนาจา
ผลคือถึงเวลา เหมือนกับดอกไม้ในกระจกดวงจันทร์บนน้ำ สุดท้ายก็เป็นฟองเงาลวงตา
ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าทีปังกรพุทธะที่ถูกหยางเจี่ยนยั่วยุในแดนสุขาวดีตะวันตกเป็นอย่างไร
ถ้าทีปังกรพุทธะบาดเจ็บด้วยมือหยางเจี่ยนอีก เช่นนั้นครั้งนี้แดนสุขาวดีตะวันตกไม่เพียงไม่ได้ประโยชน์ ถึงขั้นยังต้องชดใช้
ขอแค่คิดดูก็ทำให้คนอึดอัดผิดหวังแล้ว
“ทุกท่านเกรงใจแล้ว พวกเราต้องเจอกันอีกในวันอื่นแน่” เยี่ยนจ้าวเกอใช้สายตาส่งพวกมารจิตแรกเริ่มจากไป หัวเราะขึ้นมา
“เชื้อเชิญมิสู้พบกัน ครั้งนี้กลับสวรรค์จู๋ลั่วหวงเจีย ข้าผู้แซ่เยี่ยนกับภรรยาจะจัดพิธีใหญ่ ขอเชิญสหายร่วมเส้นทางทุกท่านมาเข้าร่วม ได้โปรดอย่าได้ปฏิเสธ”
เฟิงอวิ๋นเซิงได้ยิน ไม่เหนียมอาย มาถึงข้างกายเยี่ยนจ้าวเกอเงียบๆ
ขณะมองพวกเขาสองคนยืนเคียงไหล่กัน พวกมารจริงแรกเริ่มกับมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์ต่างเงียบงันครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวว่า “ยินดีกับท่านทั้งสอน ตอนนั้นต้องมีของขวัญส่งให้ แต่ว่าพวกเราใช่จะมีเวลาไปร่วมพิธี เทวกษัตริย์น้อยโปรดให้อภัย”
เสียงหลงเหลือลอยอ้อยอิ่ง ไม่ว่าพุทธหรือมารล้วนจากไป
อีกด้านหนึ่ง ขณะมองเยี่ยนจ้าวเกอที่ไม่มีความคิดจะส่งศพหนอนเก้าเศียรคืน ลู่ยาเต้าจวินก็กล่าวอย่างราบเรียบ “พวกเราก็ขอแสดงความยินดีกับท่านทั้งสอง อย่างที่สหายน้อยเยี่ยนกล่าว จะต้องพบกันอีกในวันอื่นแน่ ทั้งไม่จำกัดเพราะเวลา พวกเราไว้พบกันตอนนั้น”
จำนวนคนที่อยู่ที่นี่ของสำนักเต๋าดูเหมือนไม่มาก แต่ล้วนมิใช่ชนชั้นธรรมดา นพยมโลกกับศาสนาพุทธล้วนถอยหนี ผู้เข้มแข็งเผ่าปีศาจเช่นพวกลู่ยาเต้าจวินย่อมไม่มีความคิดจะรั้งอยู่ต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้นผู้ยิ่งใหญ่สำนักเต๋าอาจมาถึงตลอดเวลา โดยเฉพาะหยางเจี่ยนกับสั่วหมิงจางร่องรอยไม่แน่นอน ลู่ยาเต้าจวินรู้สึกกริ่งเกรงเช่นกัน
เผ่าปีศาจไม่ได้มีความคิดจะทำศึกโลหิตทุกด้านกับสำนักเต๋า
ถึงวันนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงติดต่อกัน ความจริงฝ่ายเขาดาราทะเลดวงดาวยังเสียหายยิ่งกว่าแดนสุขาวดีตะวันตก
ไม่เพียงแต่เผ่าปีศาจฝ่ายตนสูญเสียมหาเทวะเก้าเศียร แดนสุขาวดีบัวขาวก็สูญเสียปัทมาสน์อธิธรรมพุทธะและฉวีซูสองยอดมือดีติดต่อกันด้วย
โดยเฉพาะความตายของฉวีซู ส่งผลกระทบรุนแรงสุดขีด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี