“ผู้อาวุโสสั่วกับ…” หลังเยี่ยนจ้าวเกอสบตากับเฟิงอวิ๋นเซิง ก็มองหยางเจี่ยนใหม่ “…กับบิดา?”
“ดูเหมือนสหายร่วมเส้นทางสองคนจะสัมผัสได้แล้ว?” หยางเจี่ยนถาม
เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงเงียบงันเล็กน้อย จากนั้นเยี่ยนจ้าวเกอก็พยักหน้าแช่มช้า “สัมผัสได้บ้าง แต่ว่าไม่อาจยืนยัน เตรียมรอหลังจากบิดาฝ่าภัยพิบัติฟ้ากำเนิดขึ้นสู่ระดับเซียนสวรรค์มหาชาล ค่อยแยกแยะอีกที”
“บิดาเจ้าดูเหมือนจะสัมผัสได้เช่นกัน” หยางเจี่ยนเอ่ย “ทางสหายร่วมเส้นทางสั่วเชื่อว่าเป็นเหมือนกัน เพียงแต่ไม่เคยพูดถึงเท่านั้น”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าอย่างเงียบงัน
ตอนนี้เขาทราบว่าสิ่งที่หยางเจี่ยนกังวลคืออะไรแล้ว
อาจจะอีกนาน แต่เหมือนที่คำกล่าวโบราณในอดีตว่าไว้ คนไร้ความกังวลไกลย่อมมีความกังวลในเมื่อมีปัญหาบางอย่างค่อยๆ แสดงออกมา เช่นนั้นทางที่ดีที่สุดยังเป็นการไม่เอาหัวมุดลงในดินเหมือนนกกระจอกเทศ
ลูกศิษย์ของสำนักเต๋าสายหลังที่กำเนิดหลังมหาภัยพิบัติ เรียกได้ว่ามีคนมากฝีมือทยอยถือกำเนิดขึ้นจริงๆ
คลื่นยักษ์ล้างทราย หลังจากฝึกฝนขัดเกลา บางคนล้มเหลวกลางทาง บางคนโดดเด่นขึ้นมา สามารถขนานนามเคียงบ่าเคียงไหล่ ตั้งป้อมประจัญกับผู้ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงในหนังสือประวัติศาสตร์เหล่านั้นได้อย่างแท้จริง
นอกจากเยี่ยนจ้าวเกอที่ปัจจุบันเพิ่งสร้างชื่ออีกครั้งแล้ว สั่วหมิงจางกับเฟิงอวิ๋นเซิงขึ้นสู่ระดับเซียนสวรรค์มหาชาลก่อนก้าวหนึ่ง
นอกจากนี้อัจฉริยะบุคคลที่เป็นคลื่นลูกหลังกลบคลื่นลูกหน้า เหนือกว่าคนรุ่นก่อน ยังมีเยี่ยนตี๋ เนี่ยจิงเสิน กับอวี่เย่
อวี่เย่สืบเนื่องจากรับบาดเจ็บสาหัสในตอนนั้น แม้ศักยภาพจะยังแกร่งเหมือนเดิม แต่เสียเวลาไปส่วนหนึ่ง ตามหลังคนอื่นก้าวหนึ่ง จำเป็นต้องใช้เวลาที่สอดคล้องกันแสดงศักยภาพของตัวเองออกมา
ตัวนางมีพรสวรรค์ล้ำเลิศ ทั้งฝึกฝนคัมภีร์โกลาหลสูญ คนทุกคนต่างเล็งผลเลิศ
แต่เป็นเพราะคัมภีร์โกลาหลสูญ ดังนั้นเส้นทางของนางจึงกระจ่างชัดเห็นได้ ขอแค่พัฒนาตามลำดับขั้นตอนก็พอ
สถานการณ์ของคนอื่นๆ จะมากจะน้อยล้วนมีความแตกต่างกับนาง
มรรคากระบี่ของเนี่ยจิงเสินเป็นอีกแบบหนึ่ง ขึ้นสู่มหาชาลแล้วเหมือนสั่วหมิงจางและเฟิงอวิ๋นเซิง แต่นั่นเป็นเพราะเทพมารนพยมโลกกรอกศีรษะ กลายร่างเป็นมากระบี่
ถึงจะไม่มีเรื่องนี้เขาก็รอคอยมหาชาลได้ แต่ว่าปัจจุบันหากกล่าวกันจริงๆ เขามิอาจนับว่าเป็นอัจฉริยะที่สำนักเต๋าสร้างขึ้นมาได้อีกแล้ว
เฟิงอวิ๋นเซิงความจริงมีสถานการณ์คล้ายกัน ถึงตอนนี้จะกลับคืนสู่สำนักเต๋า แต่ก่อนที่นางจะทะลวงภัยพิบัติฟ้ากำเนิด ก็เป็นเพราะผลกระทบจากเทพมารกรอกศีรษะจึงพุ่งทะยานได้ เดินผ่านเส้นทางที่คนจำนวนมากไม่อาจเดินจนจบได้ตลอดชีวิตในระยะเวลาอันสั้น
จนกระทั่งถึงตอนที่นางอยู่บนจุดสูงสุดของระดับสุญญตา ทะลวงภัยพิบัติฟ้ากำเนิดแล้วสำเร็จเป็นมหาชาล ผลกระทบของนพยมโลกค่อยเจือจางลง ทั้งยังแผ้วเส้นทางใหม่เส้นหนึ่งขึ้น ทว่ายังคงไม่ไร้การเชื่อมต่อกับนพยมโลก
สั่วหมิงจางกับเยี่ยนตี๋ต่างก็บุกเบิกเส้นทางของตัวเองขึ้นเหมือนกับเฟิงอวิ๋นเซิงและเนี่ยจิงเสิน แต่งต่างกับคนรุ่นก่อน
เบื้องหลังพลังอันน่ายำเกรงของพวกเขา เป็นกระบวนการคลำทางไปด้านหน้าไม่หยุดยั้งของตัวเอง
สั่วหมิงจางฝึกฝนคัมภีร์นภาแรกเริ่มย้อนกลับ ทั้งพัฒนาขึ้นก้าวหนึ่งจากพื้นฐานนี้ สร้างคัมภีร์ตัดนภาที่เป็นของตัวเองเพียงผู้เดียว
คัมภีร์ตัดนภา เป็นการตัดท้องฟ้าตรงความหมายตามตัวอักษร
หากต้อง ‘ตัดท้องฟ้า’ อันดับแรกต้อง ‘รู้จักท้องฟ้า’ เสียก่อน
ต่างกล่าวกันว่า ทำลายง่ายกว่าสร้าง แต่การทำหนักให้เหมือนเบา กระทำตามใจชอบเหมือนสั่วหมิงจาง จะต้องรู้จักการดำรงอยู่ที่ตนจะทำลายเป็นอย่างดี จึงจะใช้พลังปราณที่น้อยที่สุด สร้างการทำลายล้างขั้นพื้นฐานได้โดยไม่มีผลข้างเคียง
คัมภีร์ตัดนภาของเขาเปลี่ยนยุ่งยากเป็นเรียบง่าย ความจริงครอบจักรวาล
เพียงแต่ว่าการแสดงออกในตอนสุดท้าย อยู่ที่คำว่า ‘ตัด’
แต่พอพลังฝึกปรือของเยี่ยนตี๋ค่อยๆ สูงขึ้น เส้นทางค่อยๆ ชัดเจนขึ้น มองดูเส้นทางมุ่งสู่ด้านหน้า ปรากฏลางสังหรณ์ขึ้นมาเลือนราง
ตอนที่ทะลวงสู่ระดับมรรคา ระหว่างเขากับสั่วหมิงจางคล้ายมีการขัดแย้งกัน
หลังจากมาถึงระดับของพวกเขา การศึกษาหลักการฟ้าดินจะได้รับการตอบแทน จิตใจเกิดกระแสคลื่น อันคำว่าลางสังหรณ์ น้อยครั้งจะไม่แม่นยำ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง
แต่สิ่งที่โชคร้ายก็คือ เยี่ยนจ้าวเกอที่ฝึกสามพิสุทธิ์ร่วมกัน ตอนนี้มีพลังน่าตกตะลึง กับเฟิงอวิ๋นเซิงที่ขึ้นสู่มหาชาลแล้ว ก็มีความรู้สึกเดียวกัน
“พี่ร่วมเส้นทางเป็นหนึ่งในตัวตนระดับสุดยอดรองจากระดับมรรคาในตอนนี้ เดิมทีข้าคิดรอหลังบิดาย่ำทำลายภัยพิบัติฟ้ากำเนิดก่อน ค่อยเชิญพี่ร่วมเส้นทางมาร่วมพิจารณา” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยด้วยรอยยิ้มหนักใจ
“ไม่ว่าเป็นบิดาเจ้า หรือสหายร่วมเส้นทางสั่วต่างก็มีความคิดต่างจากคนอื่น สร้างวรยุทธ์เลิศภพจบแดนขึ้นใหม่ ในสถานการณ์ที่ข้าไม่ได้ทำความเข้าใจลึกล้ำ มิอาจให้คำตอบที่แน่นอนได้” หยางเจี่ยนเอ่ย “แต่ในเมื่อบิดาเจ้ามีความรู้สึกนี้อยู่แล้ว สองอย่างยืนยันกันและกัน ความเป็นไปได้ก็มีมากจริงๆ”
“สถานการณ์ที่แย่ที่สุดคือ พวกเขาสองคนผู้ใดขึ้นสู่ระดับมรรคาได้ก่อน จะขวางเส้นทางของอีกฝ่าย ทำให้อีกฝ่ายไม่มีความหวังในระดับมรรคาตลอดกาล” หยางเจี่ยนถอนใจ “ถึงมิใช่เส้นทางเดียวกัน กลับเป็นผลลัพธ์ของการถึงก่อนได้ก่อน นอกเสียจากว่าคนเดินนำไม่อยู่แล้ว คนอยู่ด้านหลังจึงค่อยเดินต่อไปได้”
เจ้ามรรคาคนหนึ่งไม่อยู่ เช่นนั้นมีแค่ความเป็นไปได้สองประการ
หนึ่งคือตกตาย หนึ่งคือหลุดพ้น
เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงมองหน้ากัน ต่างส่ายหน้าพลางยิ้มหนักใจ
“ผู้อาวุโสสั่วใจกว้างยิ่ง ครั้งกระโน้นเขาเห็นบิดาครั้งแรกใช่ว่าจะสัมผัสไม่ได้ หากไม่ถือสากับการชี้แนะ”
“ข้าสมควรบอกว่า โชคดีที่ไม่ส่งผลต่อการฝ่าภัยพิบัติฟ้ากำเนิดของบิดากระมัง?” เยี่ยนจ้าวเกอตบหน้าผาก หัวเราะขื่นขม “โชคดีที่ไม่ส่งผลต่อการสำเร็จระดับเซียนสวรรค์มหาชาลของพวกเขา”
………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี