หลี่ว์เยว่มองหวังก่วนอย่างประหลาดใจอยุ่บ้าง
อีกฝ่ายก่อนหน้านี้มีท่าทางเกียจคร้านมาโดยตลอด ปกติไม่สนใจเรื่องใด เหมือนกับหลับไม่ตื่น
แม้แต่น้ำเสียงที่ใช้พูดคุยของหวังก่วน ทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกขี้เกียจ ไม่กระตือรือร้น
ทว่าตอนนี้บนใบหน้าของหวังก่วน ไหนเลยยังมีลักษณะตาปรือซึมเซาเหมือนปกติ
ความอิดโรยในน้ำเสียงเหมือนกับทำงานมาทั้งวัน เหน็ดเหนื่อยถึงขีดสุด ไม่ใช่ครึ่งหลับครึ่งตื่น
ถ้าหาบอกว่าหวังก่วนในยามปกติต่างเป็นลักษณะที่นอนไม่พอทุกวัน เช่นนั้นเขาในตอนนี้ กลับเหมือนนอนไม่หลับติดต่อกันหลายวัน
ตั้งแต่หลี่ว์เยว่รู้จักหวังก่วน นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาได้เห็นท่าทางนี้ของหวังก่วน
ครั้งแรกเป็นตอนที่หวังก่วนได้รู้ว่าโอวสือหยางกลายเป็นมารเมื่อหลายพันปีก่อน
ถึงจะอยู่เส้นทางนอกรีต แต่ว่ากับผู้โดดเด่นรุ่นหลังอย่างพวกหวังก่วนและโอวสือหยาง ถึงพลังฝึกปรือยังต่ำ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งโถงเซียนอย่างหลี่ว์เยว่ก็ให้ความสนใจเช่นกัน
เรื่องราวได้พิสูจน์แล้วว่า หวังก่วนในอดีต ปัจจุบันเหนือกว่าเหล่าเซียนแห่งโถงเซียนแล้ว
เพราะแบบนี้ ท่าทางผิดปรกติของหวังก่วนในตอนนี้จึงสะกิดความสนใจของหลี่ว์เยว่
“ท่านนึกเสียดายแทนฉวีซูหรือ?” หลี่ว์เยว่เอ่ยถาม
“เล็กน้อยกระมัง” หวังก่วนตอบอย่างเหน็ดเหนื่อย “ทั้งนึกเสียดายแทนพวกเรา”
หลี่ว์เย่ได้ยินพลันขมวดคิ้ว
หวังก่วนกับฉวีซูสะกดกันและกัน สู้กันมาหลายพันปี ต่างเป็นชนชั้นเลิศล้ำน่าทึ่ง พูดถึงพลังส่วนตัว ถึงขั้นเป็นสองอัจฉริยะของเส้นทางนอกรีต
ในระหว่างที่ต่อสู้กันไม่หยุด ต่างชมเชยกัน แสดงความเข้าใจกัน ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ถึงแม้ว่าหลี่ว์เยว่จะไม่มีประสบการณ์คล้ายๆ กัน แต่ก็เข้าใจได้คร่าวๆ ถึงอย่างไรนิสัยของคนกับคนย่อมไม่เหมือนกัน
เทียบกับคนในเส้นทางนอกรีตคนอื่นๆ แล้ว ผู้เข้มแข็งระดับมหาชาลนึกถึงอำนาจของตัวเองมากกว่า
ดังนั้นถ้าหวังก่วนรู้สึกนึกเสียดายแทนฉวีซู รู้สึกเศร้าใจเพราะศัตรูคู่อาฆาตตลอดมาตายด้วยมือคนอื่น หลี่ว์เยว่ไม่ประหลาดใจ แต่ดูจากตอนนี้ สถานการณ์เหมือนอยู่เหนือความคาดหมาย
“สหายร่วมเส้นทางหวัง ระวังคำพูดด้วย” หลี่ว์เยว่กล่าวอย่างแช่มช้า
หวังก่วนอดหัวเราะไม่ได้ “แดนสุขาวดีบัวขาวไม่มีฉวีซูแล้ว โถงเซียนมีข้าไม่มีข้า ความจริงก็ไม่สำคัญแล้วกระมัง? ในใจของสหายร่วมเส้นทางจำนวนมาก ข้ามกับฉวีซูตกตายร่วมกัน เดิมจึงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ถูกต้องหรือไม่?”
“นั่นอยู่ในเงื่อนไขที่พวกเราทำลายล้างมารร้ายบัวขาว เทวกษัตริย์ไร้ประมาณหลุดพ้นสำเร็จ” หลี่ว์เยว่กล่วอย่างราบเรียบ “ถ้าไม่อย่างนั้น ทุกอย่างก็เป็นแค่เรื่องล้อเล่น ไหนเลยมีหลักการยังไม่ทันสำเร็จ ก็แบ่งฝักแบ่งฝ่ายเสียก่อน”
“ถูกต้อง มิผิด” หวังก่วนพยักหน้า “คนฝ่ายเดียวกันทุกคนคงจะเข้าใจหลักการที่อยู่ด้านในได้เหมือนพี่ร่วมเส้นทางหลี่ว์ ก่อนหน้านี้เป็นข้าพลั้งปากไป เพียงแต่ว่าทุกคนต่างต้องการประสบความสำเร็จในตอนสุดท้าย คงไม่มีใครอยากให้ล้มเหลวกระมัง? วันที่สำเร็จ ทุกสิ่งที่ควรมาสุดท้ายก็จะมา”
เขาหัวเราะอย่างเหน็ดเหนื่อย “พี่ร่วมเส้นทางหลี่ว์ พวกเราไม่เหมือนกัน เรื่องราวมากมายก่อนที่ท่านจะตัดสินใจ ท่านก็รู้เรื่องแล้ว แต่ข้ากลับเดินมาถึงวันนี้อย่างเลอะเลือนมึนงงตลอดทาง”
หลี่ว์เยว่มองหวังก่วน ตกสู่ความเงียบงันชั่วขณะ ครู่ต่อมาค่อยถามว่า “ดังนั้นตอนนี้ท่านต้องการทำอะไร?”
“เป็นเวลานี้แล้ว ยังทำอะไรได้?” เสียงของหวังก่วนค่อยๆ กลับสู่ความไม่ยี่หร่ะ เกียจคร้านผ่อนคลายเหมือนยามปรกติ
เขาเผชิญสายตาสงสัยของหลี่ว์เยว่ อดหัวเราะอย่างไม่อาจควบคุมอีกครั้ง “ท่านคงไม่คิดว่าข้าจะไปแก้แค้นให้ฉวีซูกระมัง? ข้าไหนเลยมีความคิดอย่างนั้น มิสู้ไปหลับนอน มิสู้ไปหลับนอน…”
หวังก่วนเดินสะบัดก้นไป ทางหนึ่งเดิน ทางหนึ่งโบกมือให้แก่หลี่ว์เย่ “ข้าจะงีบชดเชย พี่ร่วมเส้นทางตามสบาย คิดเสียว่าอยู่ในตำหนักตัวเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี