ได้ยินคำพูดของมารจิตแรกเริ่ม มารเงาใคร่ครวญ เงามืดใต้ต้นไม้ส่ายไหวเบาๆ
“หรือว่า…” มารเงากล่าว “ถึงมารสวรรค์ไร้พันธนาจะมีการจัดการอย่างอื่น แต่สุดท้ายยังคงเกี่ยวกับทางเฟิงอวิ๋นเซิง”
“ถ้าเริ่มต้นสำเร็จ ภายหลังจะง่ายดายขึ้นมาก” มารจิตแรกเริ่มกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เป็นเช่นนั้น” ในเสียงของมารเงาแฝงแววยิ้มเยาะ “น่าเสียดายเยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงแต่งงาน เรื่องใหญ่เช่นนี้ พวกเรากลับไม่อาจไปร่วมพิธีจริงๆ สวรรค์ทรงโปรด ทางพวกเราก็นับเป็นบ้านเจ้าสาวได้ครึ่งหนึ่งกระมัง?”
มารจิตแรกเริ่มยิ้ม “เจ้าสาวคนใหม่คงไม่คิดเช่นนี้”
“ดังนั้นจึงน่าเสียดายแล้ว” มารเงาถอนใจ “ความผิดพลาดของย่างก้าวในตอนนั้น เพิ่มความยุ่งยากมากมายขนาดนี้ ยังดีที่มารสวรรค์ไร้พันธนามีการเตรียมการอื่น”
“ไม่พูดถึงทางสำนักเต๋าแล้ว” มารจิตแรกเริ่มรอยยิ้มหายไปจากใบหน้า สีหน้าเปลี่ยนเป็นสงบนิ่ง เงยหน้ามองท้องฟ้า “หาทางเอาดินโบ่วกลับมาจากแดนสุขาวดีตะวันตกก่อนค่อยกว่ากัน”
…
ณ สวรรค์ไท่ซู่ในเขาดาราทะเลดวงดาว บนต้นชบาศักดิ์สิทธิ์ ลู่ยาเต้าจวินนั่งขัดสมาธิบนลำต้น
ด้านข้างยืนไว้ด้วยอีกาสามขาตัวหนึ่ง กลับเป็นมหาเทวะอีกาทอง ญาติสายตรงของลู่ยาเต้าจวิน
“นึกไม่ถึงว่าหนอนเก้าเศียรจะตายด้วยมือเยี่ยนจ้าวเกอเทวกษัตริย์น้อย” มหาเทวะอีกาทองถอนใจ “ชื่อ ‘เทวกษัตริย์น้อย’ ของเขานี้ วันนี้คิดดู กลับไม่สมกับความจริงอยู่บ้าง”
‘ไม่สมกับความจริง’ ที่มหาเทวะอีกาทองว่า ย่อมไม่ใช่เป็นความหมายแย่ แต่เป็นการถอนใจชมเชยอย่างหนึ่ง
บอกเป็นเทวกษัตริย์น้อย แต่กลับมีมหาเทวะเผ่าปีศาจกับพุทธะศาสนาพุทธที่ตำแหน่งเทียบเท่ากับเทวกษัตริย์สำนักเต๋าหลายคนตายด้วยน้ำมือเยี่ยนจ้าวเกอ นี่จะให้ผู้ที่ตายไปเหล่านั้นไปหาเหตุผลจากผู้ใด?
ถ้าหากบอกว่าก่อนหน้านี้ยังมีปัญหาของกายทองมหาเทวะหรือค่ายกลลงทัณฑ์เซียน เช่นนั้นตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกก็อาศัยพลังฝึกปรืของตัวเอง สร้างผลการรบอันเจิดจรัสที่หายากทั้งในอดีตและปัจจุบันอย่างแท้จริง
ระหว่างต่อสู้ เขากลับใช้อาวุธมากมายได้แก่เสามังกรหลบเร้น ลูกตุ้มโกลาหล กลองไต่สวรรค์ช่วยเหลือ
แต่ขอแค่ได้เห็นคนที่ต่อสู้ ก็มองออกได้ไม่ยากว่า ต่อให้มีแค่มือเปล่าหมัดเปลือย เยี่ยนจ้าวเกอก็เอาชนะได้เหลือเฟือ
ความหมายในการใช้อาวุธ หลักๆ ก็เพื่อกดข่มความพิสดารการคงอยู่ทุกที่ของผู้เข้มแข็งระดับมหาชาล ป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายหลบลีก ทั้งยังเป็นการโจมตีสุดท้าย ทำลายอุปสรรคที่แก่นเซียนยากทำร้ายเซียนสวรรค์
การโจมตีป้องกันซึ่งหน้า เยี่ยนจ้าวเกอเหนือกว่าผู้เข้มแข็งอย่างหนอนเก้าเศียร ฉวีซู และจินจา
ต่างกล่าวว่าเซียนกำเนิดยากทำร้ายเซียนสวรรค์ แต่ว่าเซียนสวรรค์มหาชาลเช่นหนอนเก้าเศียร ไหนเลยส่งผลคุกคามต่อความปลอดภัยของเยี่ยนจ้าวเกอได้จริงๆ?
อีกาทองที่เป็นมหาเทวะเผ่าปีศาจเหมือนกันสำนึกตัวว่า ประจัญหน้ากับเซียนกำเนิดเช่นนี้ ต้องถอยหนีให้ไกล
เป็นอีกฝ่ายไม่อาจใช้เหตุผลทั่วไปวัดได้โดยสิ้นเชิง
“เขาไม่ธรรมดาจริงๆ” ลู่ยาเต้าจวินหลังจากเหม่อลอยเล็กน้อย ก็สงบจิตใจ กล่าวอย่างแช่มช้า “แต่ข้ากลับสนใจคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตของเขามากกว่า”
มหาเทวะอีกาทองถาม “ท่านบรรพบุรุษอาวุโส คัมภีร์นภาไร้ขอบเขตของเยี่ยนจ้าวเกอนั่นที่แท้…”
“ความโกลาหลไร้ขอบเขต เดิมที่ยากจะหยั่งถึง ไม่อาจสรุปยืนยันอย่างถูกต้องได้ง่ายๆ” ลู่ยาเต้าจวินเอ่ย “แต่ข้าเอนเอียงไปในทางคิดว่า เยี่ยนจ้าวเกอมีคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตที่สมบูรณ์อยู่แล้วเผื่อไว้ หนำซ้ำ…”
เว้นเล็กน้อย ลู่ยาเต้าจวินกล่าวต่อ “…หนำซ้ำ ยากบอกยิ่งว่า คัมภีร์นภาไร้ขอบเขตนี้เป็นเหล่าจวินมอบให้เขาหรือไม่”
พูดถึงไท่ซ่างเหล่าจวิน มหาเทวะอีกาทองสีหน้าเคร่งขรึมขึ้น
“ปัจจุบันพอนึกย้อนถึง การหลุดพ้นจากใต้เขาเบญจคีรีของซุนหงอคงมหาเทวะเสมอฟ้าพอดีเกิดเพราะเยี่ยนจ้าวเกอ” ลู่ยาเต้าจวินเลิกขนคิ้วสองครั้ง “ความคิดของเหล่าจวินยากทำความเข้าใจจริงๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี