เยี่ยนจ้าวเกอจ้องเฉินหลินเขม็งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงเอ่ยถาม “เจ้าอยากให้สุนัขป่าปีศาจทมิฬเป็นตัวแทนเจ้า ท้ารบปี่เซียะภูเขาของข้ารึ”
“ข้ารู้อยู่แก่ใจว่าพลังฝึกปรือของข้าสู้ศิษย์พี่เยี่ยนไม่ได้ มีเพียงเรื่องการเลี้ยงสัตว์วิเศษหนึ่งเดียวเท่านั้นที่มีประสบการณ์อยู่บ้าง จึงอยากขอคำชี้แนะจากศิษย์พี่เยี่ยนสักคราหนึ่ง” เฉินหลินกล่าวอย่างเชื่องช้า “การเลี้ยงดูสัตว์วิเศษ ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่สักแต่เลี้ยงเพียงอย่างเดียวก็ใช้ได้แล้ว การต่อสู้จริงอันสำคัญก็เป็นเรื่องที่จำเป็นเช่นกัน”
เยี่ยฉงโจวสีหน้าเปลี่ยน เยี่ยนจ้าวเกอจึงโบกมือไปทางเขา บอกเป็นนัยๆ ว่าเขาไม่ต้องเคลื่อนไหว
เยี่ยนจ้าวเกอมองสุนัขป่าปีศาจทมิฬของเฉินหลินตัวนั้นพลางส่ายศีรษะกล่าว “ก่อนหน้าสุนัขป่าปีศาจทมิฬตัวนั้นของเจ้าต่อสู้กับมังกรวารีทมิฬไปแล้วครั้งหนึ่ง หากต่อสู้กับปี่เซียะภูเขาของข้าอีก ต่อให้ชนะข้าก็ไม่สมศักดิ์ศรี”
เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม เยี่ยฉงโจวรู้สึกแปลกประหลาดใจอยู่ลึกๆ เพราะฟังอย่างไรก็เหมือนว่าเขาไร้ความมั่นใจเป็นอย่างยิ่ง คล้ายกับกำลังเกรงกลัวจึงหาข้ออ้างเลี่ยงการต่อสู้
“ศิษย์พี่เยี่ยนคุณธรรมสูงส่ง เฉินหลินเลื่อมใส เพียงแต่ไม่จำเป็นต้องกังวลแต่อย่างใด”
เฉินหลินยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน “สภาพของสุนัขป่าไม่ได้อยู่ในจุดที่ยอดเยี่ยมที่สุด แต่ข้ายังมีเจวี๋ยหานอีกตัวหนึ่ง สามารถลงสนามประลองกับปี่เซียะภูเขาของศิษย์พี่เยี่ยนได้”
ฝูงชนรู้สึกได้ถึงการใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็วของไอเย็นเยียบกลุ่มหนึ่งในทันที พร้อมกับเสียงเป่าปากของเฉินหลิน
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง สุนัขป่าปีศาจทมิฬรูปร่างเกรียงไกรทรงพลังมากยิ่งกว่า ไอสังหารรอบกายรุนแรงหนานักยิ่งกว่า ก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้าฝูงชน!
กลุ่มคนของเยี่ยฉงโจวต่างก็หน้าเปลี่ยนสี ไม่ว่าอย่างไรก็นึกไม่ถึงเลยว่าเฉินหลินจะมีสุนัขป่าปีศาจทมิฬอันแกร่งกล้าถึงสองตัว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุนัขป่าปีศาจทมิฬตัวหลังนามว่าเจวี๋ยหานนี้ เพียงแค่พละกำลังและเนื้อหนังมังสาของมัน ก็เพียงพอที่จะทัดเทียมมังกรวารีทมิฬของเยี่ยฉงโจวได้แล้ว อีกทั้งไอสังหารคาวเลือดทั่วร่างก็ยิ่งมีชัยเหนือมังกรวารีทมิฬไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า
“…พ่ายเสียจนไม่ยุติธรรม” เยี่ยฉงโจวทอดถอนใจคำหนึ่ง
มังกรวารีทมิฬของเขา หากเปรียบกับสุนัขป่าปีศาจทมิฬเจวี๋ยหานของเฉินหลิน ถึงมันจะไม่ใช้กลยุทธ์ลอบโจมตี ปะทะกันโดยตรงก็มีความมั่นใจอยู่เจ็ดแปดส่วนว่าจะได้รับชัยชนะ
“จริงๆ แล้วนี่สิถึงจะเป็นอาหารจานหลัก การต่อสู้กับมังกรวารีทมิฬของศิษย์พี่เยี่ยก่อนหน้า เป็นเพียงแค่การปูเรื่องเท่านั้น”
เยี่ยนจ้าวเกอมองเฉินหลิน พลางยิ้มเย็นอยู่ในใจ ‘เจ้าพุ่งเป้ามาที่ปี่เซียะภูเขาของข้าตั้งแต่เริ่มแรกสินะ’
เฉินหลินยิ้มพลางเอ่ยถามว่า “เป็นอย่างไร ศิษย์พี่เยี่ยนจะสามารถปล่อยเจ้าปี่เซียะตัวนั้นออกมาได้หรือไม่”
ชายหนุ่มมีท่าทีเป็นกังวลอยู่บ้าง ทว่ากลบเกลื่อนได้ดีอย่างยิ่ง “ก็เหมือนเช่นที่ศิษย์พี่เยี่ยกล่าวไปก่อนหน้านี้ สัตว์วิเศษเหล่านี้สติปัญญามีจำกัด แต่พละกำลังแข็งแกร่งนัก หากต่อสู้กันถึงชีวิตละก็ เกรงว่ายากยิ่งนักที่พวกเราจะหยุดยั้งได้ทันกาล การต่อสู้เมื่อครู่นั้น ศิษย์น้องหลิน ไม่ใช่ว่าเจ้าก็ไม่สามารถหยุดยั้งสุนัขป่าปีศาจทมิฬตัวนั้นของเจ้าได้ในทันทีหรอกหรือ”
“การต่อสู้ระหว่างสัตว์วิเศษ บาดเจ็บถึงแก่ชีวิตล้วนเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยง” เฉินหลินยิ้มกล่าว “แต่ถ้าหากศิษย์พี่เยี่ยนไม่มั่นใจจริงๆ ละก็ ข้าเองก็จะไม่ดึงดัน”
ศิษย์ตำหนักอัสนีสวรรค์ที่อยู่ข้างๆ ล้วนมีรอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้า
หลังจากมองดูกลุ่มคนของเฉินหลินแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอพลันหัวเราะอย่างไม่มีเสียงขึ้นมา
ถึงแม้ว่าเขาจะรักการแก้มือเป็นชีวิตจิตใจ กระนั้นสำหรับเขาแล้ว ลูกไม้ยั่วยุให้ฮึกเหิมตื้นๆ เช่นนี้ใช้ไม่ได้ผล
เยี่ยนจ้าวเกอรู้ว่าเหตุใดกลุ่มของเฉินหลินถึงได้มั่นอกมั่นใจเช่นนี้ เหมือนกับว่าพวกเขาจับตนได้อยู่หมัดแล้ว
พวกเขาน่าจะสืบเสาะจากหนทางใดหนทางหนึ่ง จนรู้ว่าปี่เซียะของเยี่ยนจ้าวเกอยังอยู่ในช่วงวัยเด็ก อีกทั้งประสบการณ์การต่อสู้ยังค่อนข้างน้อย ต่อให้ศักยภาพจะน่าตกตะลึง ก็ต้องการเวลาที่เพียงพอในการบ่มเพาะด้วยเช่นกัน
สัตว์วิเศษอย่างปี่เซียะภูเขาก็เหมือนกับสัตว์ป่า ช่วงวัยเด็กล้วนไม่ได้เติบโตมากนัก แต่ในสถานการณ์ปกติก็จำเป็นต้องใช้เวลาที่แน่นอนตามกำหนดในการเจริญเติบโตเช่นกัน
ถ้าหากเยี่ยนจ้าวเกอจะปฏิเสธการต่อสู้เพื่อที่จะปกป้องปี่เซียะภูเขาเด็กละก็ แน่นอนว่าย่อมได้
ทว่าพันธมิตรทั้งสามสำนักได้แก่ เขากว่างเฉิง เมืองทะเลมรกต และเขาไร้พรมแดน เผชิญหน้ากับตำหนักอัสนีสวรรค์และสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ ผลการต่อสู้กาลก่อนไม่ค่อยสู้ดีนัก
ซ่งเฉาแห่งเมืองทะเลมรกตพ่ายแก่ถังหย่งฮ่าวแห่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ การประมือของสวีเฟยกับถังหย่งฮ่าวเองก็จบลงด้วยการเสมอกัน
จ้าวฮ่าวและเซียวอวี่แห่งเขาไร้พรมแดน เผชิญหน้ากับศิษย์ตำหนักอัสนีสวรรค์ พ่ายหนึ่งชนะหนึ่ง ทว่าไม่มีผู้ใดสามารถต่อกรกับเสียจื่ออี้ได้เลย
บัดนี้มังกรวารีทมิฬของเยี่ยฉงโจวก็ปราชัยไปอีกคราหนึ่ง หากเยี่ยนจ้าวเกอจะเป็นเต่าหดหัวอยู่ในกระดองอีกคนหนึ่ง ก็จะเป็นการทำลายขวัญกำลังใจเกินไปแล้วจริงๆ
ใบหน้ากลมของแม่นางจางเหยาซีดเซียวอยู่บ้าง นางกระซิบกระซาบกล่าวกับเยี่ยนจ้าวเกอว่า “ศิษย์พี่เยี่ยน ขออภัย ข้าคิดไม่ถึงว่า…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี