ในตำหนักใหญ่เงียบลงอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ครุ่นคิดเพราะความซับซ้อน
พวกเขามองกันไปกันมา ต่างเห็นว่าแต่ละคนมีคำตอบแล้ว
เพียงแต่คำตอบนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกกดดันอยู่ชั่วขณะ
“การวางหมากในนพยมโลกต่อจากนี้ ไม่เพียงเกี่ยวกับการแย่งชิงวาสนาระดับมรรคาของเซียนสวรรค์มหาชาลทั้งหลายเท่านั้น ยังเป็นวินาทีตัดสินแพ้ชนะของใต้เท้ากษัตริย์บูรพาและอามิตาภพุทธเจ้าด้วย?” นาจาเลียริมฝีปากโดยสัญชาตญาณ
เยี่ยนจ้าวเกอพิงหลังกับเก้าอี้ เงยหน้ามองเพดานตำหนัก “เป็นแบบนี้จริงๆ การวากหมากในนพยมโลกอาจจะจบยุคสมัยนี้ก่อนกำหนดก็ได้!”
ตามปกติแล้ว หนึ่งยุคสมัย เท่ากับหนึ่งศักราช คือหนึ่งแสนสองหมื่นเก้าพันแปดร้อยปี
เมื่อถึงเวลา ยุคสมัยจะเปลี่ยนผ่าน เปลี่ยนฟ้าดินเอง
ผู้ที่ไม่ถึงระดับมหาชาลล้วนกลายเป็นฝุ่นกระจัดกระจาย กลายเป็นเถ้าธุลีแห่งยุคสมัยตามการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยโชคชะตา
แม้แต่เซียนกำเนิดสุญญตาที่ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด มีอายุขัยหนึ่งศักราช ก็จะเข้าสู่จุดสิ้นสุดของชีวิต ตกตายลงก่อน
มีแต่ผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดเหนือสุญญตาคอยดูแลประคับประคอง จึงอาจหลบพ้นมหาภัยฟ้าดินที่ตามทฤษฎีแล้ว หนึ่งแสนสองหมื่นเก้าพันหกร้อยปีจะเกิดขึ้นสักครั้งตามธรรมชาตินี้
แต่เป็นเพราะสาเหตุพิเศษบางประการ ยุคสมัยอาจเปลี่ยนผ่านก่อนกำเนิด ยุคสมัยในปัจจุบันจบลง เข้าสู่ยุคถัดไป ตอนที่ยังไม่ครบหนึ่งแสนสองหมื่นเก้าพันหกร้อยปี
อย่างเช่น ตอนที่ผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาหลุดพ้น ฟ้าดินสั่นสะเทือน มหามรรคาพลิกคว่ำ ยุคสมัยประกาศการจบลงก่อนกำหนด เริ่มการเปลี่ยนผ่าน เข้าสู่ยุคถัดไป
“นพยมโลกฝืนธรรมชาติ สร้างภัยแก่สรรพสัตว์ การวากหมากนี้ถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวใหญ่ มีความเป็นไปได้ที่จะเร่งให้ยุคนี้จบลงก่อน” หยางเจี่ยนกล่าวอย่างแช่มช้า “ใต้เท้ากษัตริย์บูรพากับอามิตาภพุทธเจ้าต่างเตรียมตัวไว้แล้ว เพื่อหลีกเลียงราตรียาวนานความฝันมากมาย พวกเขาอาจจะเร่งการมาถึงของวิธีนี้ก็ได้”
“โดยเฉพาะใต้เท้ากษัตริย์บูรพา” เฟิงอวิ๋นเซิงพูดต่อ “พระศรีอริยเมตไตรยอยู่วันหนึ่ง อามิตาภพุทธเจ้ากลับช้ากว่าใต้เท้ากษัตริย์บูรพาหนึ่งก้าว ใต้เท้ากษัตริย์บูรพาเตรียมตัวไว้สมบูรณ์แบบแล้ว จุดจบของยุคสมัยนี้ยิ่งเร็วยิ่งดี”
เพียงแต่วินาทีนั้นเมื่อมาถึง พระเมตไตรยพุทธเจ้ายังคงอยู่ ลากถ่วงเท้าของอามิตาภพุทธเจ้า เช่นนั้นกษัตริย์บูรพาไท่อี้จัได้รับชัยชนะ
ตรงกันข้าม ถ้าหากว่าการวากหมากนี้ อามิตาภพุทธเจ้ากำจัดพระศรีอริยเมตไตรยได้สำเร็จ เช่นนั้นท่านไม่จำเป็นต้องสู้กับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ ก็จะได้รับชัยชนะเอง ผู้หลุดพ้นจะเป็นท่าน ไม่ใช่กษัตริย์บูรพาไท่อี้
“ตามคำพูดของบรมครูรวมถึงบรมครูเอกพิสุทธิ์กับเหนือพิสุทธิ์สองท่าน จำนวนที่หลุดพ้นเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นสิ่งที่จำกัด” หยางเจี่ยนพึมพำ “รายละเอียดถึงจะยังไม่แน่นอน แต่ไม่มีทางมากเด็ดขาด”
“ถูกต้อง ดังนั้นนพยมโลกจึงดึงดูดความเคียดแค้นขนาดนั้น ถ้าพวกมันทำสำเร็จ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าสิบสองเทพมารสวรรค์จะไปด้วยกัน หกสุดยอดมารจะเปลี่ยนแปลงอย่างปาฏิหาริย์ในห้วงนาทีสุดท้าย นี่เป็นความน่าอัศจรรย์ที่จำเพาะของนพยมโลก” เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงสบตากัน กล่าวอย่างแช่มช้า
เฟิงอวิ๋นเซิงสีหน้าสงบนิ่ง ไม่ได้พูดอะไร
“ถ้าใต้เท้ากษัตริย์บูรพากับอามิตาภพุทธเจ้าต่างก็ตัดสินผลแพ้ชนะสุดท้ายในการวางหมากตานี้ที่นพยมโลก เช่นนั้นเทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรีอาริย์ไม่มีทางไม่สนใจแน่” นาจาเอ่ย “ยุคสมัยนี้พวกเขาช่วงชิงไม่ได้ ก็ต้องเตรียมตัวเพื่อยุคสมัยถัดไป”
พระศรีอาริย์กับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณจะมีท่าทีอย่างไรกันแน่ ปัจจุบันเกรงว่ายากจะบอกให้ชัดเจน
โดยเฉพาะสำหรับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ สภาพการณ์ละเอียดอ่อนที่สุด
พระศรีอาริย์ก็เป็นเช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่าพื้นที่ว่างในการเลือก และช่องว่างสำหรับเคลื่อนไหวของท่านมีน้อยกว่า
ท่าทีของนพยมโลกในนี้ก็ทำให้คนครุ่นคิด แน่นอนว่าสิ่งที่พวกมันต้องพิจารณามากที่สุดก็คือ ถึงคนอื่นๆ คิดจะใช้ประโยชน์จากพวกมัน แต่ว่าในห้วงนาทีสำคัญที่สุด ทุกคนจะต้องโจมตีพวกมันก่อน ไม่ยอมให้นพยมโลกล้ำเส้น
จะทำลายขีดจำกัดล่างของศัตรูอย่างไรเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ หรือถ้าเกิดความล้มเหลว จะหยุดอย่างไร จะปกป้องตัวเองอย่างไร ก็คือปัญหาที่วางตรงหน้านพยมโลก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี