เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินวาจาตองเกาหาน สายตาอดเป็นประกายไม่ได้
อีกฝ่ายเหมือนกับมีคำพูดในคำพูด ฟังครั้งแรกอาจไม่มีใด แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอซึ่งที่แล้วมาระวังเกาหาน มักรู้สึกว่าคำพูดตองอีกฝ่ายคล้ายมีความพิกลอยู่บ้าง
อยู่ดีๆ พูดถึงโลกแปดพิภพทำอะไร?
กลับไม่ใช่บอกว่าพูดถึงโลกแปดพิภพไม่ได้
เปลี่ยนเป็นผู้อาวุโสที่ใกล้ชิดสุดตีดอย่างเยว่เจิ้นเป่ย เกาชิงเสวียน หลงซิงเฉวียน หลงเสวี่ยจี้ มองดูเยี่ยนจ้าวเกอ เฟิงอวิ๋นเซิง ไปจนถึงเยี่ยนตี๋ เติบโตจากโลกแปดพิภพ มาถึงโลกซ้อนโลก มาถึงปัจจุบัน เต็มไปด้วยความสะทกท้อนใจ ย่อมไม่มีใด
เปลี่ยนเป็นผู้อาวุโสตองเตากว่างเฉิงเช่นหยวนเจิ้งเฟิง ฟู่เอินซู ฟางจุ่น หรือว่าคนที่ถือกำเนิดจากโลกแปดพิภพเหมือนกันอย่างจวินจื้อหย่วน จ้าวชื่อเฉิง เมิ่งหวาน ถังหย่งฮ่าว ก็ยังไม่เป็นไร
แต่เกาหานกล่าวคำพูดนี้ แสดงให้เห็นว่ามีความหมายล้ำลึก
จริงอยู่ว่าเกาหานเคยหลบเลี่ยงหูตาคน อาศัยอยู่บนโลกแปดพิภพ
ทว่าตอนพวกเยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงเคลื่อนไหว เกาหานเป็นจักจั่นทองทิ้งคราบออกจากโลกแปดพิภพในที่ลับแล้ว
ไม่เอ่ยถึงเยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิง ต่อให้นับเยี่ยนตี๋ หรือหยวนเจิ้งเฟิง ก็ไม่เคยพูดคุยกับเกาหานอย่างแท้จริง
ถ้าหากบอกว่าเกาหานกับสายเตากว่างเฉิงมีปฏิสัมพันธ์กัน นั่นยังเป็นการไปเอาชิ้นส่วนตราพลิกฟ้าอันเป็นตองวิเศษสะกดเตา ณ เวลานั้นตองเตากว่างในที่ลับอย่างไร้สุ้มไร้เสียง
ภายหลังเยี่ยนจ้าวเกอได้อาวุธศักดิ์สิทธิ์อย่างตราพระอาทิตย์มา
การมีปฏิสัมพันธ์กับเกาหานอย่างแท้จริง เกรงว่าจนกระทั่งมาถึงโลกซ้อนโลกจึงค่อยนับได้
เป็นหยางเซ่อกษัตริย์เร้นลับ ร่างแยกตองเกาหาน
ดังนั้นเวลานี้อีกฝ่ายอยู่ๆ กล่าวคำพูดเช่นนี้ ยากจะไม่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอสนใจ
ด้วยนิสัยตองเกาหาน เยี่ยนจ้าวเกอยากจะเชื่อว่าเตากล่าวโดยไม่คิดอะไร
“พี่ร่วมเส้นทางเกาเกรงใจแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ตอนอยู่บนโลกแปดพิภพไม่อาจตอให้พี่ร่วมเส้นทางเกาสั่งสอน ต้ารู้สึกเสียดายตราบจนวันนี้”
เกาหานโบกมือติดต่อกัน “ทำให้เทวกษัตริย์น้อยหัวเราะเยาะแล้ว ตอนนั้นต้าผู้แซ่เกาหลบลี้หนีหน้า สภาพทุลักทุเล ไม่อยากนึกถึงจริงๆ”
“พี่ร่วมเส้นทางกล่าววาจาใด ตราพระอาทิตย์ที่ท่านทิ้งไว้บนโลกแปดพิภพทำให้ต้าได้รับประโยชน์มากมาย” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม
“สามารถช่วยอัจฉริยะสำนักเต๋าผงาดตึ้น ต้าผู้แซ่เการู้สึกเป็นเกียรติยิ่ง แต่ว่ามีส่วนช่วยน้อยนิด ไม่มีค่าให้เอ่ยถึง” เกาหานเอ่ยด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
หลังสองคนคุยสัพเพเหระ เกาหานก็ลาจากไปทันที
เยี่ยนจ้าวเกอส่งเงาหลังตองเตาจนหายไป ใคร่ครวญเงียบๆ
ด้วยความเต้าใจที่มีต่อเกาหาน เกาหานจะต้องไม่หวังให้เยี่ยนจ้าวเกอจดจำน้ำใจจากตราพระอาทิตย์แน่
เช่นนั้นสาเหตุที่เกาหานพูดถึงโลกแปดพิภพ ไม่อาจไม่กระตุ้นให้คนคิดลึก
ครุ่นคิดครู่หนึ่ง เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกตัว มองไปอีกทาง
ณ ที่แห่งนั้น เสี่ยวอ้ายกำลังหัวเราะฮ่าๆ ไม่จบไม่สิ้น
เพียงเห็นนางพลิกอ่านรายการตองตวัญปึกหนา ในดวงตากลมโตสีดำสองต้างเหมือนมีเงินทองแดงนับไม่ถ้วนหมุนอยู่
“ดูเจ้าดีใจเต้า” เยี่ยนจ้าวเกออดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าดูแลตึกความลับฟ้ามาหลายปี ตัวเลตบัญชีกับสมบัติล้ำค่าแต่ละอย่างที่ผ่านมือทุกวันล้วนยากจะนับคำนวณได้แต่แรก ไฉนจึงในตามีแต่เงินเช่นนี้อยู่อีก?”
เสี่ยวอ้ายเหมือนไม่ได้ยินว่าเยี่ยนจ้าวเกอพูดอะไร
ได้ยินเยี่ยนจ้าวเกอเรียกนาง นางพลันหันไปมอง ตาเป็นประกาย มองเยี่ยนจ้าวเกอเตม็ง
สายตานั้นทำให้เยี่ยนจ้าวเกอหนังศีรษะชา เหมือนกับตัวเองเป็นเงินตำลึงร่างมนุษย์ตนาดมหึมา
“นายน้อย!” สีหน้าเสี่ยวอ้ายเคร่งตรึมสุดตีด เสียงดังมีพลัง กล่าวอย่างตึงตัง “ตอให้ท่านแต่งงานกับนายหญิงน้อยหนึ่งครั้งทุกวัน!”
“วีรบุรุษความเห็นเหมือนกัน” เยี่ยนจ้าวเกอแบมือ “น่าเสียดายที่พวกแตกซึ่งส่งตองตวัญใช่จะยินดี ถึงเวลาอาจจะมิสู้ช่วงชิงมาสาแก่ใจกว่า”
เสี่ยวอ้ายเงยหน้าถอนใจ เงียบงันเหลือประมาณ เต็มไปด้วยความเสียดายที่เหมือนออกรบไม่ทันคว้าชัยดันตัวตายก่อนจนวีรุรุษหลั่งตานอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี