เฟิงอวิ๋นเซิงยืนอยู่ริมหน้าต่าง พิงอยู่ในอ้อมอกของเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ด้านหลังอย่างผ่อนคลาย
เยี่ยนจ้าวเกอห่มเสื้อคลุมตัวยาวชิ้นหนึ่ง กางออกไปสองข้าง จากนั้นคลุมเฟิงอวิ๋นเซิงที่อยู่ในอ้อมอกไปด้วย
เขาวางคางบนไหล่เฟิงอวิ๋นเซิงเบาๆ หัวเราะๆ เบาๆ เอ่ยว่า “ลูกเจี๊ยบ”
“คนที่เกือบถูกลูกเจี๊ยบหนีบหักเป็นผู้ใด?” เฟิงอวิ๋นเซิงหยีตาอย่างเกียจคร้าน โต้ตอบไม่ยอมลดละ
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ โอบกอดนางระซิบว่า “ตอนนี้ข้าไม่ช่ำชองเช่นกัน ผู้ใดให้ข้ารอคนเดียวหลายร้อยปีเล่า”
“ท่าน…” เฟิงอวิ๋นเซิงร่างพลันอ่อนยวบเล็กน้อย เอ่ยอย่างไม่ยอม “ท่าน…ท่านโกหก”
เยี่ยนจ้าวเกอจับมือนางแผ่วเบา ให้นางพิงกับ
“เปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว เมื่อคืนสำหรับข้าเป็นครั้งแรกในชีวิตเช่นกัน”
เฟิงอวิ๋นเซิงกดริมฝีปากเบาๆ รู้สึกแรงกดดันที่ยิ่งมายิ่งแนบชิด
…
เมฆาหายพิรุณหยุด เยี่ยนจ้าวเกอกอดเฟิงอวิ๋นเซิงกลับห้อง
“ท่านก็ฉวยอาศัยตอนนี้ข่มเหงข้าเช่นกัน” เฟิงอวิ๋นเซิงกล่าวอย่างเกียจคร้าน “ยิ่งผ่านไป ฝีมือท่านยิ่งไร้ประโยชน์”
เยี่ยนจ้าวเกอกลั้นหัวเราะไม่ไหว “เมื่อครู่มีฝีมืออันใด เป็นลูกเจี๊ยบบางตัวใช้ไม่ได้แล้ว”
เขาหัวเราะเหะๆ “ถ้ารอจนใช้ฝีมือจริงๆ เจ้ายังงรับไม่ได้ บางอย่างเจ้าต้องค่อยๆ เรียนรู้ไป”
“ต้องมีสักวันที่ชนะท่าน!” เฟิงอวิ๋นเซิงกัดฟันกรอดๆ
เยี่ยนจ้าวเกออดหัวเราะไม่ได้ “ก็ได้ ข้าจะรอ พวกเราต่อจากนี้ที่มีคือเวลา”
“ต่อจากนี้…” เฟิงอวิ๋นเซิงสายตาค่อยๆ อ่อนโยน
แต่ครู่ต่อมา หว่างคิ้วนางปรากฏความกังวลหลายส่วน
เยี่ยนจ้าวเกอไม่จำเป็นต้องก้มมอง ก็สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ของคนในอ้อมอก
เขาพูดเสียงอบอุ่น “วางใจเถอะ ตอนนี้ข้ามีความมั่นใจในการวางหมากต่อจากนี้บนนพยมโลกแล้ว”
กล่าวตามความจริง หยินหยางเมื่อสอดประสาน ทำให้เขาเข้าใจสถานการณ์ของเฟิงอวิ๋นเซิงชัดเจนกว่าเดิม
เจ้าสาวคนใหม่วาจาคล้ายดุดันกว่าเจ้าบ่าวคนใหม่ แต่ตอนนี้ได้ยินคำพูดของเยี่ยนจ้าวเกอ ใบหน้าเฟิงอวิ๋นเซิงยังแดงเรื่อหลายส่วน เพียงพยักหน้าเบาๆ
“แต่ว่าก็ทำให้ข้ามีความรู้สึกอื่นเช่นกัน” เยี่ยนจ้าวเกอกระซิบ “สิ่งที่ข้าให้ความสำคัญที่สุดเป็นเจ้า ทว่ายมโลกจะใช้ประโยชน์จากจุดนี้ส่งเสียงบูรพาตีประจิมหรือไม่?”
ได้ยินประโยคหลัง เฟิงอวิ๋นเซิงที่ก่อนหน้านี้ขวยเขินอยู่บ้าง สายตาพลันกระจ่าง “ส่งเสียงบูรพาตีประจิม?”
“เป็นเพียงความรู้สึกอย่างหนึ่ง เป็นเพราะมักรู้สึกว่านี่เกี่ยวข้องกับการวาหมากบนเส้นชะตาของวิถีมารนพยมโลก เจ้าเกี่ยวกับมารสวรรค์ปัจฉิมธรรม การเคลื่อนไหวของนพยมโลกสมควรไม่รวบรัด” เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำ “ตอนนี้ดูเหมือนพวกมันออกกระบวนท่าเบาไปบ้าง ต่ำกว่าการคาดการณ์ของข้า”
เฟิงอวิ๋นเซิงมองหน้าขึ้น เขาก้มหน้าเล็กน้อย สองคนสบตากัน
“ถ้าหากมีแค่มารจิตแรกควบคุมยังพอทำเนา แต่ถึงอย่างไรนพยมโลกยังมีมารสวรรค์ไร้พันธนาอยู่” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวต่อ
“ถูกต้อง” เฟิงอวิ๋นเซิงพยักหน้าเบาๆ
นางหัวเราะหนักใจ “ได้ยินท่านพูดแบบนี้ ข้าสมควรรูสึกผ่อนคลายบ้างถึงจะถูก แต่ไฉนกลับกระบวนกระวายใจกว่าเดิม?”
เยี่ยนจ้าวเกอนั่งลง ให้เฟิงอวิ๋นเซิงนั่งพิงอกเขา จากนั้นกล่าว “เป็นเพราะตอนนี้ไม่ทราบว่านพยมโลกวางแผนจากตรงไหน การคุกคามที่ยังไม่รู้มักเป็นการคุกคามที่ใหญ่ที่สุด”
“ทว่าแม้ไม่อาจประมาท แต่ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเกินไป การวางหมากตานี้ แรงกดดันของนพยมโลกมากกว่าฝ่ายใดๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี