บรรยากาศรอบๆ ผนึกแข็งชั่วขณะ
ลู่ยาเต้าจวินกลับไม่ได้มองมหาวิทยราชมยุรีและทีปังกรพุทธะ เงยหน้าขึ้นมองพระศรีอาริย์ที่อยู่นอกนพยมโลก
เวลานี้ได้ยินเสียงมนตราบทสวดแว่วออกมาจากในบัวขาวบนนพยมโลก
เสียงมนตรายิ่งใหญ่กังวาน ได้ยินครั้งแรกยากเข้าใจความหมาย เพียงรู้สึกลี้ลับน่าประหลาด แต่ไม่ทันไรในใจผู้คนก็เหมือนเกิดเสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกัน
“ผ่านวันนี้ได้ จะให้วิทยราชสมความปรารถนา”
ทุกคนล้วนสั่นสะท้าน มหาวิทยราชมยุรีประนมมือ “ขอบคุณพระศรีอาริย์ทรงเมตตา”
เสียงนั้นถึงกับเปล่งจากพระศรีอริยเมตไตรย สัญญาว่าขอแค่ผ่านสถานการณ์ของนพยมโลกในวันนี้ไปได้ จะมอบสารีริกธาตุศากยมุณีชิ้นสุดท้ายให้มหาวิทยราชมยุรี ไม่สร้างความลำบากให้
วาจาเช่นนี้ตัดความกระอักกระอ่วนระหว่างข่งซวนและเผ่าปีศาจ
อีกด้านหนึ่ง การวางหมากในนพยมโลก ณ วันนี้ได้ยึดมหาวิทยราชมยุรีกับแดนสุขาวดีบัวขาวบนเรือลำเดียวกันแล้ว
มหาวิทยราชมยุรีสีหน้าสงบราบคาบ แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีไหลเวียนทั่วร่าง มองทีปังกรพุทธะ สาวเท้าไปเบื้องหน้า
เหล่าพุทธะแห่งแดนสุขาวดีตะวันตกยากต้านทาน ได้แต่ถอยหนี
“รบกวนสหายร่วมเส้นทางแล้ว” ลู่ยาเต้าจวินขึ้นหน้า ไฟมารเขียวหมึกหลอมเปลี่ยนทะเลเลือด ขณะเดียวกันส่งกระแสเสียง “จำเป็นต้องระวังผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์
มหาวิทยราชมยุรีพยักหน้าโดยไร้เสียง ใช้สภาวะหนึ่งคนขวางด่าน หมื่นคนไม่อาจข้าม ยืนเหนือทะเลเลือด กั้นผู้ยิ่งใหญ่ศาสนาพุทธเช่นทีปังกรพุทธะไว้ด้านนอก
ไฟมารสีเขียวหมึกที่ลู่ยาเต้าจวินปล่อยออกมาถั่งโถมบนคลื่นประกายโลหิต แผ่ขยายไปยังลวดลายค่ายกลที่เกิดกจากขีดสิบสองขีดเกาะเกี่ยวกัน
กลางทะเลเลือด อามิตาภพุทธเจ้าเห็นทีปังกรพุทธะที่อยู่ฝ่ายตนเสียเปรียบ ไม่ได้รีบร้อน
ท่าทำท่าผ่อนคลายสบายๆ กดดันมารสวรรค์ไร้พันธนา
เวลานี้อามิตาภพุทธเจ้าก็ถามอย่างสงบ “สหายร่วมเส้นทางตัดสินใจอย่างไร?”
มารสวรรค์ไร้พันธนาตอนแรกเงียบ จากนั้นก็ถอนใจ
บรรพมารตนที่ห้าตนนี้ไม่ได้พูดอะไรมาก แต่ว่ายืดตัวขึ้น ออกจากบนเสาหินที่ก่อนหน้าเฝ้ามาโดยตลอด
มารสวรรค์ไร้พันธนาพอออกไป ค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ก็พลันสั่นไหวอย่างรุนแรง
ลวดลายค่ายกลที่ลี้ลับยากหยั่งคาดมีขีดหนึ่งขีดหายไป
ค่ายกลทั้งหมดเริ่มหายไป ทะเลเลือดจมลงด้านล่างในพริบตา ประกายโลหิตค่อยๆ สลายตัว
ลู่ยาเต้าจวินสีหน้าพลันเคร่งขรึม ทีปังกรพุทธะใบหน้าไม่มีแววยินดี
นพยมโลกตรงหน้าถึงกับละทิ้งการก่อตั้งค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์
เมื่อเป็นแบบนี้ วาสนาโปรดมารแก้ไขภัยของพวกเขาพลันเพิ่มการหักมุมนับไม่ถ้วน ถึงขึ้นกลายเป็นดอกไม้ในกระจก ดวงจันทร์ในน้ำ
ส่วนลึกของทะเลเหว หลังมารสวรรค์ไร้พันธนาออกจากเสาหิน ก็โจมตีกษัตริย์บูรพาไท่อี้โดยตรง
ถึงประกายโลหิตที่วนเวียนรอบร่างมันจะสลายไป แต่ไม่ได้สนใจอามิตาภพุทธเจ้า เพียงตั้งสมาธิโจมตีกษัตริย์บูรพาคนเดียว
มารสวรรค์ไร้พันธนากางแขนแปดข้าง แต่ละข้างประสานมุทรา ในความว่างเปล่าปรากฏคันฉ่องสีดำนับไม่ถ้วน ผนึกแสงกระจกสีขาว ส่องใส่กษัตริย์บูรพาไท่อี้
กษัตริย์บูรพาไท่อี้ไม่ได้ประหลาดใจ เพียงส่งเสียงถอนใจซึ่งล่องลอย
เสียงระฆังที่ยิ่งใหญ่ไร้ประมาณวินาทีนี้สะท้อนทั่วฟ้า
แสงกระจกจำนวนเหลือคณานับต่างหยุดชะงักกลางทาง จากนั้นก็พังทลายเหมือนกับรูปแกะสลักทราย
คันฉ่องดำที่คงอยู่ทุกที่ มีจำนวนนับไม่ถ้วน บนผิวกระจกพากันปรากฏรอยแตก
กษัตรย์แห่งยุคบุพกาล ผู้ปกครองหมื่นเผ่าพันธุ์ผู้นี้ตอนนี้ลงมือ ต่อให้มีมารสวรรค์ไร้พันธนาที่อยู่ในระดับมรรคาเหมือนกันขวางกั้น ก็ทำให้ทั่วฟ้าสั่นสะเทือนได้
แม้ว่าทะเลเหวใจกลางนพยมโลกยังคงสภาพต่ออยู่ ทว่าเขตมารด้านนอกเริ่มพากันถล่ม
ควันดำยิ่งใหญ่ไพศาลเหมือนกับถูกจุดไฟเผา สลายไปไม่หยุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี