ไม่ว่าจะเป็นพวกเยี่ยนจ้าวเกอจากสำนักเต๋า หรือเผ่าปีศาจ คนในศาสนาพุทธ ตอนนี้สีหน้าเคร่งขรึม มองดูก้นค่ายกลทะเลเลือดนั้น
ณ ที่แห่งนั้น ในร่องแยกตรงนั้น แสงสว่างพร่างพราว
ร่องแยกดูเป็นมายาอยู่บ้าง คล้ายกับไม่ได้อยู่ในสถานที่ด้านในนพยมโลกโดยสมบูรณ์
กลับเหมือนนพยมโลกกับมหาจักรวาลโลกในธรรมชาติแยกออกพร้อมกัน
ทุกคนต่างทราบว่าภาพตรงหน้าหมายถึงอะไร
ปฐมพาจารย์วิถีมารที่เก่าแก่ที่สุดเหมือนบรมครูสามพิสุทธิ์ สองศาสดาศาสนาพุทธ ยังมีสามกษัตริย์โบราณ มารสวรรค์บุพกาลปรากฏขึ้นบนโลกอีกครั้ง!
ค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ถูกตั้งขึ้น
เวลาสิ้นโลกที่มารสวรรค์ปัจฉิมธรรมกำลังจะจุติ
ในฐานะเปลือกร่างบรรพครรภ์ก่อนกำเนิด
ยังมีนพยมโลกที่กำลังแหลกสลาย
มารสวรรค์บุพกาลที่ถูกเทวกษัตริย์บรรพกำเนิดหยกพิสุทธิ์สะกดประทับผนึก ห้วงนาทีพิเศษนี้ ณ ตอนนี้ บนสถานที่แห่งนี้ ในที่สุดก็ทำลายผนึกออกมาสำเร็จ!
แสงสว่างแวบขึ้นแล้วหายไป มีแต่บนเสาต้นนั้น เงาลวงรวมกับเด็กทารกเป็นหนึ่ง ขยายใหญ่เปลี่ยนแปลง ปรากฏลักษณะของจักรพรรดิจื่อเวยอีกครั้ง
เพียงแต่ว่ากลิ่นอายที่แผ่ซ่านออกมาทั่วทั้งร่าง ทำให้คนที่คุ้นเคยกับจักรพรรดิจื่อเวยอย่างจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ กับพระอาจารย์เสวียนตูรู้สึกแปลกประหลาด
น่าเกรงขามและแข็งแกร่งยิ่งกว่าจักรพรรดิจื่อเวย
ถึงขั้นที่แกร่งกว่ามารสวรรค์ไร้พันธนาที่อยู่ด้านข้าง
‘จักรพรรดิจื่อเวย’ ยืนบนเสา สายตาราบเรียบกวาดมองสี่ทิศ
สายตาของมันทะลุมิติ มองดูภาพในโลกใบนี้ ทะลุเวลา รับรู้ถึงการเปลี่ยนผันของเดือนปี
ถึงจะยืนอยู่ก้นทะเลเลือดเหวลึก เงยหน้ามองขึ้นไป กลับทำให้ทุกคนที่สัมผัสสายตาของมัน รู้สึกว่ามันกำลังก้มมองทุกสรรพสิ่ง
อานุภาพและกลิ่นอายของมันไม่ชั่วร้ายและไม่ดุดัน
ทว่าขณะยืนกลางหมู่มารนพยมโลก เหมือนกับเจ้าผู้ปกครองและเจ้าผู้สร้าง ทำให้คนอดครั่นครามสั่นกลัวไม่ได้
มารสวรรค์ไร้พันธนานั่งบนเสาต้นนั้น หุบแขนทั้งแปดมาประสานกันเป็นคู่ๆ ยืนอยู่ด้านหน้า “ยินดีกับพี่ร่วมเส้นทาง”
มารไม้อิก มารน้ำกุ่ย มารไฟปิ่ง มารดินโบ่วพากันโค้งตัวคำนับโดยมีมารจิตแรกเริ่มเป็นผู้นำ “มารสวรรค์บุพกาลสูงส่ง!”
ในทะเลเลือด เทพมารมหาชาลตนอื่นๆ ของนพยมโลกต่างก็โน้มตัว “มารสวรรค์บุพกาลสูงส่ง!”
หมู่มารที่อยู่รองจากระดับมหาชาล ยิ่งพากันคุกเข่า “มารสวรรค์บุพกาลสูงส่ง!”
กลางเขตมารนพยมโลก มารร้ายที่กระจัดกระจายทุกที่ พลังฝึกปรือกลางค่อนต่ำ ก่อนหน้านี้พากันหลบซ่อน พรั่นพรึงถึงขีดสุดเพราะพระอาจารย์เสวียนตูหลอมเปลี่ยนนพยมโลก ทว่าตอนนี้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน กราบกราน ‘จักรพรรดิจื่อเวย’ ในเหวลึก
หมื่นมารคำนับจักรพรรดิ!
พิธีกรรมที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาอีกเลยหลังจากมารสวรรค์บุพกาลถูกสะกด ในที่สุดก็โผล่ขึ้นในวันนี้
ขณะนี้เยี่ยนจ้าวเกอสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า เนี่ยจิงเสินที่อยู่ด้านขวาของตน ร่างกายสั่นไหวไม่หยุด
ประกายกระบี่สีทองหม่นอันไพศาลส่องระยิบระยับบนผิวร่างของเขา
ทารกที่กลับจากชราเป็นเด็ก ผิวเกิดลวดลายมารอีกครั้ง หลังถูกความโกลาหลชำระล้างไป ไม่ทันไรก็ปรากฏขึ้นใหม่ พัวพันไม่หยุดหย่อน
ด้านหลังเยี่ยนจ้าวเกอ เฟิงอวิ๋นเซิงครางหนักๆ คำหนึ่ง สีหน้าซีดขาวกว่าเดิม
“ข้าเปลี่ยนเป็นบรรพกำเนิด” เงาร่างในทะเลเลือดกล่าวอย่างสงบ
วินาทีนี้ค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์แข็งแกร่งมากขึ้น ทะลเลือดซัดสูงเทียมฟ้า ขึ้นด้านบนไม่หยุด
ไฟตะเกียงสีม่วงในแสงพุทธกลมสมบูรณ์หลังศีรษะพุทธะที่เก่าแก่ท่านนี้ส่ายวูบวาบต่อเนื่อง “ใช้ความสมบูรณ์ในความว่างเปล่า ใช้ความว่างเปล่าในความสมบูรณ์ เนี่ยจิงเสินดึงดูดความสนใจมากเกินไป”
พวกหยางเจี่่ยนพากันคุ้มครองเยี่ยนจ้าวเกอ เฟิงอวิ๋นเซิงสี่คน พยายามขับไล่ไอเลือดรอบๆ ให้พวกเขา
“อาจารย์อาเสวียนตู ตอนนี้ทางวังดุสิตเป็นสถานการณ์ใด?” นาจาถามอย่างกระวนกระวายอยู่บ้าง
พระอาจารย์เสวียนตูไม่ได้ถือสาน้ำเสียงของเขา ถอนใจคำหนึ่ง “ตอนข้าออกมา นายผู้เฒ่าใหญ่ไม่มีคำสั่งลงมา”
นาจามองมารสวรรค์บรรพกำเนิดที่เปลือกนอกเป็นจักรพรรดิจื่อเวย “พวกมันไม่กลัวว่าจะกระตุ้นเหล่าจวินออกมาจริงๆ?”
รากฐานต้นกำเนิดของจักรพรรดิจื่อเวยคือ ครั้งอดีตเคยร่ำเรียนกับเหล่าจวินในวังดุสิตอย่างแท้หลัง หลังจากเรียนมหาวิชาครอบฟ้าบทหนึ่ง ก็ออกมาสร้างเส้นทางใหม่จากพื้นฐานนี้ ตั้งสำนักขึ้น เดินบนเส้นทางของตัวเอง
พูดถึงพลังในการต่อสู้กับผู้คน จักรพรรดิจื่อเวยในตอนนั้นยังเหนือกว่าพระอาจารย์เสวียนตู
ฉายา ‘กลางหาว’ หมายถึงผู้ปกครองหมู่ดาว ไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิชาครอบฟ้าอันเป็นพื้นฐานของเขา
“ดังนั้นถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆ นพยมโลกคิดจะใช้สหายน้อยเนี่ยเป็นเปลือกร่าง ไม่ใช่สหายร่วมเส้นทางจื่อเวยกระมัง?” ไท่อี้จินหยินเอ่ย
เยี่ยนจ้าวเกอที่ไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอด ตอนนี้อยู่ๆ ก็กล่าวขึ้น “ถ้าเป็นเช่นนี้จริงๆ ครั้งกระโน้นพวกมันไม่แน่ว่าจะชิงซากสังขารของจักรพรรดิจื่อเวยได้”
ทุกคนมองไปที่เยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกัน
“สำหรับนพยมโลกแล้ว ซากสังขารจื่อเวยเป็นตัวเลือกแรกสุด” เยี่ยนจ้าวเกอดวงตาล้ำลึก “ศิษย์พี่เนี่ยจึงเป็นแผนการที่เตรียมใช้ในกรณีที่ทำอะไรไม่ได้จริงๆ”
เขาหันไปมองเนี่ยจิงเสิน ในห้วงสมองปรากฏคำพูดในวันนั้น
“ทุกอย่างล้วนกลับคืนสู่ความไม่มี ไม่ว่าเจ้า ข้า นาง”
เยี่ยนจ้าวเกอมองเนี่ยจิงเสิน กล่าวเบาๆ “คำพูดนี้ ศิษย์พี่เนี่ยท่านตอนนั้นไปได้ยินมาจากที่ใด?”
………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี