บัวเขียวกับระฆังโบราณบัดเดี๋ยวสูญหายบัดเดี๋ยวปรากฏบนนพยมโลก
มารสวรรค์บรรพกำเนิดกับมารสวรรค์ไร้พันธนาสัมผัสได้ถึงการดำรงอยู่ของอามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ สายตาเปลี่ยนเป็นมืดสลัว
จังหวะเวลาที่ก่อนหน้านี้วิถีมารอุตส่าห์ชิงมาได้ สุดท้ายถูกฉุดรั้งไว้เพราะเหล่าจวินลงมือ
สองบรรพมารเงยหน้ามองไป สายตาข้ามการขวางกั้นของมิติช่องว่างและกระแสเวลา
พวกมันมองเห็นได้รางเลือนว่า พระศรีอาริย์แม้สะบักสะบอม กระนั้นภายใต้การช่วยเหลือของกษัตริย์บูรพาไท่อี้ ที่สุดก็รอดจากภัยพิบัตินี้
พระศรีอริยเมตไตรยเสียท่าไม่น้อย กษัตริย์บูรพาไท่อี้ไม่ปะทะกับคู่ต่อสู้ เพียงปกป้องพระศรีอริยเมตไตรยให้หนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด
อามิตาภพุทธเจ้ากับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณสูญเสียโอกาสที่จะกำจัดพระศรีอริยเมตไตรยโดยสิ้นเชิง ได้แต่หยุดลง
พระศรีอริยเมตไตรยย่อมไม่มานพยมโลกอีก ป้องกันไม่ให้นพยมโลกใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ อาศัยการโจมตีท่านเป็นเป้าหมายใหม่ ร่วมมือกับอามิตาภพุทธเจ้าและเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ
เทวกษัตริย์ไร้ประมาณบัญชาโถงเซียน อาศัยสภาวะโจมตีใส่แดนสุขาวดีบัวขาว
อามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้แม้สู้กัน แต่ก็มีการเห็นพ้อง
ตอนนี้ไม่มีโอกาสกำจัดการดำรงอยู่ของพระศรีอริยเมตไตรย ถือโอกาสกลับนพยมโลก
ถ้าค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ทำลายล้างโลกจริงๆ ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดไม่ใช่เหล่าจวิน แต่เป็นคนอื่นๆ
ต่อให้สุดท้ายค่ายกลวิถีมารถูกทำลาย แค่มารสวรรค์ปัจฉิมธรรมจุติ สถานการณ์ก็จะเลวร้ายสุดขีดอยู่ดี
อามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้ถึงแม้จะเป็นตัวตนที่อยู่ใกล้การหลุดพ้นที่สุด ทว่าก่อนหน้านั้น ไม่ว่ามีความเป็นเป็นได้มากขนาดไหน พวกเขาก็ยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะเสียชีวิต
ถึงจะไม่อาจบรรลุผลลัพธ์ที่เป็นอุดมคติที่สุด อามิตาภพุทธเจ้าไม่ได้พัวพันไม่ยอมลดละต่อ แต่ว่ากลับนพยมโลกพร้อมกับกษัตริย์บูรพาไท่อี้อย่างรวดเร็ว
เยี่ยนจ้าวเกอเงยมองบัวเขียวกับระฆังโบราณ มองดูไท่ซ่างเหล่าจวินในทะเลเลือด อดนึกขึ้นไม่ได้ว่า ‘ถึงแม้ไม่มีใครคาดเดาความคิดของเหล่าจวินออก ทว่าอามิตาภพุทธเจ้ากับกษัตริย์บูรพาไท่อี้จะมากจะน้อยก็สมควรสัมผัสเงื่อนงำได้หลายส่วน’
ก่อนหน้านี้พวกเขาจากไป เหมือนมอบโอกาสให้นพยมโลก ใช่จะไม่พนันว่าเล่าจวินจะลงมือ
ผลคือนพยมโลกพนันแพ้ อามิตาภพุทธเจ้าและกษัตริย์บูรพาไท่อี้พนันชนะแล้ว
ดังนั้นเรื่องราวมาถึงขั้นนี้ สำหรับพวกเขา การวางหมากบนนพยมโลกก็ยังคงมีโอกาสชดเชย
นักพรตเหนือพิสุทธิ์หายไปในค่ายกลลงทัณฑ์เซียน
แทบจะเป็นในเวลาเดียวกัน เจ้าแม่อู๋ตังกับนางเซียนอวิ๋นเซียวที่ควบคุมค่ายกลลงทัณฑ์เซียนอีกครั้ง ก็ควบคุมค่ายกลใหญ่ ไม่ปะทะกับค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์อีกต่อไป
ปราณกระบี่เทียมฟ้าไม่คงอยู่อีก ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนกลับคืนสู่ความว่างเปล่าไร้สิ้นสุด ค่อยๆ หายไป
ในเมื่อเจ้ามรรคาสี่คนสูสีกันอีกรอบ ไม่ได้สู้กันเป็นตายอีก ทางสำนักเต๋าก็ต้องต้องเหลือความระวังไว้
เหล่าจวินอยู่ในทะเลเลือด ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนโจมตีสุดกำลังอยู่ที่นี่ เกิดว่าเทวกษัตริย์ไร้ประมาณหรือพระศรีอาริย์ไปสวรรค์สำนักเต๋า ผลลัพธ์ยากคิดถึง
หรือว่า มารสวรรค์บรรพกำเนิดและมารสวรรค์ไร้พันธนา บรรลุการประนีประนอมใหม่กับเจ้ามรรคาสองสามคน ร่วมมือกันทำลายค่ายกลลงทัณฑ์เซียนก่อน
ขอแค่วิถีมารยินยอมละทิ้งการจุติของมารสวรรค์ปัจฉิมธรรม ละทิ้งค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เหล่าจวินในเมื่อออกโรงด้วยตัวเอง ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนมีเงื่อนไขถอนตัว ถือโอกาสถอยกลับ รักษาพลังข่มขวัญไว้ห่างๆ
เฝ้าระวังเจ้ามรรคาเส้นทางนอกรีตโดยเฉพาะ
สวรรค์สำนักเต๋าที่ไม่มีเหล่าจวิน ไม่มีค่ายกลลงทัณฑ์เซียน กับแดนสุขาวดีบัวขาวที่พระศรีอาริย์เฝ้าอยู่ สำหรับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ ที่ไหนรับมืองง่ายกว่า ไม่ต้องบอกก็ทราบได้
พระศรีอาริย์ซึ่งถึงแม้จะดูสะบักสะบอม แต่มีผู้ใดแน่ใจว่าท่านจะไม่กลายเป็นปลาใหญ่กินปลาเล็ก ปลาเล็กกินกุ้งแห้ง เทศนาสวรรค์สำนักเต๋ามาเติมเลือดให้ตัวเอง?
สถานการณ์เปลี่ยนแปลงในชั่วอึดใจ อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงที่คิดไม่ถึงได้ตลอดเวลา
พวกเยี่ยนจ้าวเกอไม่อาจไม่ป้องกันไว้ก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี